xs
xsm
sm
md
lg

อะไรที่ไม่เคยเห็น ก็ได้เห็น ยังจะมีอีก!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์

พ่อเจ้าประคุณ แม่เจ้าประคุณเอ๋ย! เมืองไทยมักจะมีอะไรประหลาดๆ ให้ดูเสมอ ช่างเหมาะกับฉายาอเมซิ่งไทยแลนด์แดนสวรรค์สำหรับคนมีเงินจริงๆ ยุคนี้อะไรที่ไม่เคยเห็น ก็ได้เห็น บ้านอื่นเมืองอื่นไร้ปัญหาน่าอนาถแบบไทยๆ ที่ใช้วิธีพายเรือในอ่างเป็นหนทางออก

เพื่อนบ้านแซงหน้าไปหลายก้าว ทั้งๆ ที่เขาตามหลังเรามาโดยตลอด เวียดนาม กัมพูชา ลาว ยอมเสียเวลาต่อให้ไทยนำหน้า โดยทั้ง 3 ประเทศเสียเวลากับสงครามกลางเมืองหลายปี พม่านั้นทำนาฬิกาตาย ปิดประเทศนานกว่า 50 ปี วันนี้เริ่มเห็นอนาคตแล้ว

แต่บ้านเรายังติดกับดักอยู่ในเขาวงกฎที่เราสร้างขึ้นมาเล่นกันเอง โดยใช้แนวทางหน่อมแน้ม ประกอบกับยุทธศาสตร์ซูเอี๋ย เกี้ยเซียะ ฮั้ว หยวนๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน

ล่าสุดสิ่งที่ปรากฏวันก่อนคือแกนนำผู้ต้องหาก่อการร้ายปลุกระดมคนให้ปล้นห้าง ฆ่าทหาร เผาบ้านเผาเมือง และกระทำการต่างๆ นั่งประจ๋อประแจ๋กับรัฐมนตรียุติธรรม

ตีสีหน้าระรื่น แยกเขี้ยวยิงฟันสู้กล้องทีวี กลายเป็นวีไอพีที่รัฐมนตรีมานั่งคุยด้วย และมายื่นหลักฐานกล่าวหาว่ามีข้าราชการ คนในกองทัพ กระทำการทุจริตในโครงการราชภักดิ์ เรียกร้องให้รัฐมนตรียุติธรรมทำหน้าที่สอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี

นี่เป็นความพิสดารประการหนึ่ง ในสังคมที่เจริญแล้ว กระบวนการยุติธรรมใช้ได้ ไม่มีระบบนโยบายปรองดอง ประนีประนอมหน่อมแน้ม จำเลยในคดีก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมืองต้องถูกขังในคุก ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน รอขึ้นศาลสอบพยานโจทย์ จำเลยเท่านั้น

ไม่มีโอกาสได้มานั่งจิบน้ำเย็นกับรัฐมนตรียุติธรรมในบรรยากาศชื่นมื่น แถมกล่าวหาว่าคนในรัฐบาลกระทำการทุจริต นอกเหนือจากจัดทำกิจกรรมการเมืองตีกินเพื่อสานต่อยุทธการของคุณเหลี่ยมเร่ร่อนซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักในโครงการ “สู้แล้วรวย”

ยังมีความพิสดารอีก หลังจากการประชุม ท่านรัฐมนตรียุติธรรมออกมาประกาศว่าโครงการราชภักดิ์มีการทุจริตจริง ชวนให้คิดว่าแกนนำเผาเมืองมีหลักฐานน่าเชื่อถือระดับไหนจึงทำให้ท่านรัฐมนตรียอมรับเช่นนั้น ทั้งๆ ที่ผู้นำรัฐบอกว่าไม่เกี่ยวกับคนภาครัฐ

แผนตีกินหน้าสื่อ บนจอทีวีของขบวนการเผาเมืองของคุณเหลี่ยมประสบผลสำเร็จอย่างสวยงาม มีต้นทุนต่ำที่จ่ายเพียงค่าน้ำมันรถไปกระทรวงเท่านั้น ได้ออกทีวี นั่งห้องแอร์ห้องประชุมกระทรวง มีข้าราชการหน่วยอื่นๆ เช่น สตง. มานั่งประดับบารมีอีกด้วย

อันที่จริง หน้าที่หลักของรัฐมนตรียุติธรรมวันนั้นคือการสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า 2 แกนนำก่อการร้ายทำไมยังไม่เข้าไปอยู่ในคุก เพ่นพ่านสร้างความรำคาญเพิ่มงานให้ทหารทำไม

ถ้าเป็นสังคมอเมริกันยุคบ้าจี้เรื่องก่อการร้าย ตำรวจมีปัญหานิ้วไกปืนกระตุกไว เรื่องทั้งหมดต้องจบในวันที่ทหารสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์เมื่อมีเหตุปล้นห้าง เผาบ้านเผาเมือง ไม่ยืดเยื้อในสภาวะลวงโลกว่าคนดี คนชั่วจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสมานฉันท์สันติ

ทุกวันนี้ยังไม่มีวี่แววว่าคดีพวกแกนนำเผาเมืองขี้ข้าคุณเหลี่ยมจะได้รับการพิจารณาในกระบวนการยุติธรรมเมื่อไหร่ ทำให้เห็นว่าประสบการณ์ในคุกหลายเดือนกับโซ่ตรวนน่าจะเลือนรางจึงทำให้เกิดความกล้าจัดกิจกรรมซ้ำซากโดยไม่หวั่นว่าจะโดนถอนประกัน

ความพิสดารหลายเรื่อง เช่นแกนนำม็อบบุกที่ประชุมสุดยอดกลุ่มผู้นำอาเซียนและผู้ร่วมเจรจาที่โรงแรมในพัทยา จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอดีต และประวัติศาสตร์อัปยศ เพราะไม่มีประเทศไหนในโลกที่ตำรวจ ทหารยอมให้คนเข้าไปไล่ล่าผู้นำประเทศต่างๆ ได้

แต่เมื่อเป็นเมืองไทย ความพิสดารของเหตุการณ์ย่อมอยู่เหนือจินตนาการเสมอ

ทุกวันนี้ยังมีขบวนการเห็บเหาการเมืองประชาธิปไตยรับจ้างจัดกิจกรรมแล้วรวย สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้ทหารและผู้นำรัฐบาล ตอดเล็กตอดน้อยตีกิน เตือนแล้ว ตกลงกันแล้วก็ไม่ฟัง ยังข่มขู่อีกว่าหลังปีใหม่จะจัดกิจกรรมเยือนอุทยานราชภักดิ์อีกรอบ

มาแนวเดียวกับพวกแกนนำก่อการร้าย ฆ่าทหาร เผาเมือง นั่นแหละ มีขู่ว่าถ้าพวกท่านไม่ยอมปรองดองกับพวกผม จะเห็นดีกัน พวกผมจะเคลื่อนไหวอีก! เหมือนนายทาสเงินที่ประกาศกร้าว “ถ้ากูอยู่แบบไม่มีความสุข พวกเอ็งอย่าหวังว่าจะได้อยู่ดีมีสุข”

นี่หรือ คือคำประกาศของคนรักชาติ จงรักภักดีต่อสถาบัน แต่มุ่งเน้นโกงคำโต ขายทรัพย์สินแผ่นดิน เช่นคลื่นสื่อสาร วงโคจรดาวเทียม!! ทำกันถึงขนาดนี้ เป็นคนหนีคุก ก็ยังไม่มีใครใส่ใจ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวผ่านเครือข่ายตำรวจสากลเอาตัวมาเข้าคุก

ปล่อยให้ตะลอนๆ อยู่ต่างประเทศสั่งการให้ขี้ข้าระดับต่างๆ ป่วนเมือง จากรุ่นฆ่าทหาร เผาเมืองมาสู่รุ่นนักศึกษาแดงจัดกิจกรรมเอาอย่างรุ่นพี่ บนเส้นทางสู้แล้วรวย ชาวบ้านทั่วไปมองดูแล้วก็งงว่าผู้มีอำนาจรับผิดชอบบ้านเมืองทนรับสภาพนี้ได้อย่างไร

มีข้อตกลงหรือแนวนโยบายหน่อมแน้มน่าประทับใจแบบไหนกันหรือจึงอดทนสูง ทำให้ชาวบ้านมโนต่อไปอีกว่าการออกท่าทางดุดันนั้นเป็นยุทธศาสตร์ปรองดองด้วยหรือ

ชาวบ้านเห็นแล้วหัวร่อมิออก ร่ำไห้มิได้จริงๆ จำเลยคดีก่อการร้ายกลายมาเป็นผู้กล่าวหาผู้อื่น ทั้งๆ ที่มีคดีร้ายแรงจนมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต และติดคุกตลอดชีวิต ทุกวันนี้มีชีวิตสุขสบาย อยู่บ้าน มีรถหรูหรา เงินทองจ่ายคล่องมือ เป็นต้นแบบสู้แล้วรวย

ถ้าสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อเนื่อง ผู้นำรัฐบาลจะเผชิญวิกฤตศรัทธา ความน่าเชื่อถือ แก้ปัญหาต่างๆ ไม่สำเร็จแต่สร้างวิกฤตใหม่เช่นกฎหมายพลังงาน กฎหมายพืชผีดิบ การย่ำยีทรัพยากรธรรมชาติ ชาวบ้านเสี่ยงตายจากสารพิษในโครงการขุดแร่ทองคำ

ไม่แปลกใจ ถ้าอีกไม่นานพวกแกนนำเผาเมืองและเครือข่ายการเมืองขี้ข้าเหลี่ยมจะตีกินต่อเนื่อง กล้ายกระดับความเสี่ยงท้าทายโดยอ้างความไม่โปร่งใสและความล้มเหลวของรัฐบาลโดยใช้โครงการราชภักดิ์เป็นจุดอ่อนสำคัญโดยรู้ว่ารัฐบาลไม่กล้าทำรุนแรง

ถ้าปล่อยให้บานปลายถึงขั้นนั้น ระวังจะมีแนวร่วมจำใจออกมา แล้วจะลำบากเมื่อทุกวันนี้ฐานการสนับสนุนของประชาชนยังมีเหลือหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะถอดใจไปเยอะแล้วเมื่อเห็นความล้มเหลว เช่นไร้การปฏิรูป ปรองดองหน่อมแน้ม และเศรษฐกิจฝืดเคือง

ยิ่งมีกลิ่นตุๆ จากหลายเรื่อง จริงบ้าง จริงครึ่งเดียวบ้าง ผสมกันไป ก็เป็นวิกฤตได้


กำลังโหลดความคิดเห็น