อาจเป็นเพราะว่ารัฐบาลของคุณท่านเผชิญมรสุมรุนแรงเกี่ยวโยงกับการต้องรับผิดชอบกรณีข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์ จึงทำให้ขบวนการเหลี่ยมรู้สึกเหมือนผีดิบได้เลือด ได้เรื่องใหม่เพื่อก่อหวอดสร้างความปั่นป่วนในอารมณ์คณะผู้นำ
เรื่องนี้เป็นการท้าทายความจริงใจในการตรวจสอบข้อกล่าวหาการทุจริตอย่างจริงจัง โปร่งใส ไม่ปกป้องหรือละเว้นใคร จะทำให้เรียกความศรัทธา ความน่าเชื่อถือจากประชาชนในช่วงเวลาที่หลายฝ่ายอาจมองว่าเป็น “ขาลง” หรือ “ขาออก” ก็สุดแล้วแต่ไม่ใช่เพียงกรณีการทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์จะมีศักยภาพเขย่าเสถียรภาพ ความมั่นคงของรัฐบาลเท่านั้น ความฉาวโฉ่เรื่องนี้ยังกลบเกลื่อนได้ยากเพราะมีปัจจัยสำคัญซึ่งไม่อาจจัดการได้ง่ายเหมือนเรื่องอื่นๆ การปิดปาก สกัดกั้น ทำได้ยาก
ตราบใดที่ยังจัดการให้กระจ่าง ไร้ข้อกังขาไม่ได้ เรื่องนี้จะยังคงเป็นหนามตำใจกลุ่มผู้นำรัฐบาลต่อไป โดยเฉพาะอดีตผู้นำกองทัพบก และส่วนหนึ่งลามไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านมามีทั้งคนเสียชีวิต หลบหนีไปต่างประเทศ และถูกขังรอการว่าคดีในศาล
ความล่าช้าในการสอบสวนทำให้ความน่าเชื่อถือของคณะรัฐบาลมีปัญหา ยิ่งข้ออ้างที่ว่าไม่มีเงินงบประมาณของรัฐมาเกี่ยวข้องด้วย แต่ปรากฏว่ามีเงินอย่างน้อย 2-3 หน่วยงาน มีหลักฐานเป็นเอกสารชัดเจน ก็ยิ่งทำให้ปัญหาความน่าเชื่อถือหนักกว่าเดิมสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินแถลงข่าวว่ามีเงินงบประมาณ 63.5 ล้านบาท และ 88 ล้านบาทจาก กสทช.อยู่ในโครงการนี้ด้วย และยังอาจมีเงินทดรองจ่ายไปก่อนจากหน่วยงานอื่น ทำให้คำพูดรับประกันขึงขังว่าไม่มีเงินรัฐบาลหมดราคาทันทีเท่ากับเป็นการโหมกระพือพลังแห่งความสงสัยว่ามีการทุจริตแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะมีนายทหาร นายตำรวจ และพลเรือนถูกดำเนินคดีได้อย่างไร ทำให้เป็นจุดอ่อนเรื้อรัง
แบบนี้เข้าทางขบวนการเหลี่ยมซึ่งต้องการเอาคืนหลังจากแม่นางโฉมสคราญเห็ดบานยิ้มหวานฉ่ำเยิ้มเผชิญข้อกล่าวหากรณีความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว มีความเสี่ยงโดนดำเนินคดีถึงขั้นติดคุก จ่ายค่าเสียหายตามมูลค่าหลายแสนล้านบาท
ขบวนการเหลี่ยมจึงใช้เครือข่ายรบกวนแผลทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องลงทุนมากนัก ถือว่าเป็นกิจการต้นทุนต่ำ ใช้จำนวนคนและทรัพยากรน้อย แต่ได้ผลสูงโดยเฉพาะการยึดครองพื้นที่สื่อ เรียกร้องความสนใจลามไปถึงมาตรา 112 อีกด้วย
เริ่มจากการส่งเสียงเป็นช่วงๆ เรียกร้องให้มีการตรวจสอบและสอบสวนอย่างจริงจัง จากนั้นลามไปถึงกิจกรรมภาคสนาม แกนนำเสื้อแดงพวกเผาเมืองปล้นห้างก่อการร้ายได้จังหวะเหมาะออกมาเรียกร้องความโปร่งใส ก่อนนำไปสู่กิจกรรมภาคสนามให้เป็นข่าวดัง
รู้ทั้งรู้ว่าพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการไม่เอาเจ้ามาโดยตลอด ที่มาเรียกร้องไม่ได้เป็นความจงรักภักดี แต่เป็นการตีกิน ป่วนให้คณะผู้นำรัฐบาลและกองทัพพะว้าพะวัง
แกนนำเสื้อแดงพยายามเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ อ้างว่าต้องการไปตรวจสอบ แต่ถูกสกัดโดยทหารเอาตัวไปกักไว้ 10 ชั่วโมงก่อนนำตัวไปส่งบ้านหลังจากทำข้อตกลงความเข้าใจว่าห้ามจัดกิจกรรมตีกิน แต่ยังไม่เลิกรา หาเรื่องต่อเนื่องเช่นร้องเพลงเสียดสีกองทัพ
รู้ทั้งรู้ว่าพวกนี้ตีกินเพื่อผลประโยชน์เพื่อการเมืองและขบวนการเหลี่ยม แต่รัฐบาลทำอะไรไม่ได้เต็มที่เพราะได้อยู่ในสภาพของการเกาเกล็ดงู ไม่ตีให้หลังหัก หรือจัดการอย่างจริงจัง ภายใต้ข้ออ้างการปรองดอง คงนึกว่าขี้ข้าขบวนการเหลี่ยมจะกลัวตาย
โดยความเป็นจริง “นักสู้แล้วรวย” รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง ไม่ทำอะไรถึงขั้นที่ทำให้ตัวเองโดนถอนประกันเดินเข้าคุก แต่จะตอดเล็กตอดน้อยเพื่อแสดงให้นายทาสได้เห็นว่ายังทำกิจกรรมสู้เพื่อเงินอยู่ แต่ปรับรูปแบบให้เหมาะกับสถานการณ์ดึงเรื่องให้ยืดเยื้อนาน
ข้อตกลงต่างๆ จึงเป็นเพียงมาตรการไร้ความหมาย ขาดน้ำหนัก เพราะการ “รู้ทางซึ่งกันและกัน” หลังจากที่ประลองฝีมือกันในด้านปฏิบัติการมวลชน และกองกำลังก่อการร้าย กลุ่มขี้ข้าเหลี่ยมมีความเชี่ยวชาญงานด้านมวลชนจูงใจระดับรากหญ้า ตีกินกระแสสื่อ
อย่างที่ผู้นำในรัฐบาลว่าไว้ “ไม่มีรัฐบาลมาจากการรัฐประหารที่ไหนในโลกที่มีแนวทางยึดหลักเมตตาอย่างที่เป็นอยู่ในไทย” และนั่นก็ไม่ต่างจากคณะรัฐประหารชุดก่อนๆ ซึ่งลงเอยด้วยการ “เสียของ” ทำให้ต้องมีรัฐประหารล้มเหลวซ้ำซากหลายครั้ง
พวกขบวนการเหลี่ยมรู้ดี จึงหาช่องทางป่วนเสมอภายใต้ข้ออ้างว่าเพื่อการตรวจสอบ ล่าสุดเครือข่ายนักศึกษามีทั้งแดงแท้ แอบแดง และเหยื่อแดง จัดกิจกรรมเยี่ยมชมอุทยานราชภักดิ์วานนี้ อ้างว่าเพื่อส่องไฟดูว่ามีการสอบสวนอย่างจริงจังหรือไม่กิจกรรมเยี่ยงนี้สร้างความอิหลักอิเหลื่อให้ฝ่ายความมั่นคง เพราะเป็นขบวนการนักศึกษาโดยรู้ทั้งรู้พวกนี้มีทั้งแดงและขบวนการไม่เอาเจ้า มีประวัติพฤติกรรมแนวเดียวกับพวกขบวนการขี้ข้าเหลี่ยมโดยใช้ความซื่อใสของนักศึกษา แต่กิจกรรมในอดีตเป็นแดงแท้
ครั้งนี้จัดกลุ่มเดินทางโดยรถไฟฟรีจากสถานีธนบุรีไปอุทยานราชภักดิ์ แน่นอน ฝ่ายความมั่นคงยอมไม่ได้ เพราะไม่สามารถควบคุมได้ จึงสกัดขบวนรถไฟที่สถานีบ้านโป่ง คุมตัวนักศึกษาและเครือข่ายประชาชนไป และมีอีกกลุ่มไปรอที่อุทยานราชภักดิ์ซึ่งถูกปิด 1 วัน
การกระทำของเจ้าหน้าที่ย่อมเรียกแขกจากพวกเครือข่ายนักรณรงค์สิทธิมนุษยชนแอบแดงได้อีกครั้ง หลังจากที่ออกมาโวยวายเมื่อแกนนำแดงเผาเมืองโดนสกัดก่อนหน้านี้
นอกจากกลุ่มนี้แล้ว คงจะมีแนวร่วมเครือข่ายเสื้อแดงสมุนเหลี่ยมเคลื่อนไหวอีกต่อเนื่องเมื่อเห็นว่ารัฐบาลคุณท่านหวั่นไหวอยู่ในช่วงขาลง ผลงานมีแต่เอาใจเศรษฐกิจกลุ่มเจ้าสัว ขณะที่ชาวบ้านทั่วไปยังไม่รู้ว่าอนาคตทิศทางบ้านเมืองจะไปแบบไหน
เรื่องนี้เป็นการท้าทายความจริงใจในการตรวจสอบข้อกล่าวหาการทุจริตอย่างจริงจัง โปร่งใส ไม่ปกป้องหรือละเว้นใคร จะทำให้เรียกความศรัทธา ความน่าเชื่อถือจากประชาชนในช่วงเวลาที่หลายฝ่ายอาจมองว่าเป็น “ขาลง” หรือ “ขาออก” ก็สุดแล้วแต่ไม่ใช่เพียงกรณีการทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์จะมีศักยภาพเขย่าเสถียรภาพ ความมั่นคงของรัฐบาลเท่านั้น ความฉาวโฉ่เรื่องนี้ยังกลบเกลื่อนได้ยากเพราะมีปัจจัยสำคัญซึ่งไม่อาจจัดการได้ง่ายเหมือนเรื่องอื่นๆ การปิดปาก สกัดกั้น ทำได้ยาก
ตราบใดที่ยังจัดการให้กระจ่าง ไร้ข้อกังขาไม่ได้ เรื่องนี้จะยังคงเป็นหนามตำใจกลุ่มผู้นำรัฐบาลต่อไป โดยเฉพาะอดีตผู้นำกองทัพบก และส่วนหนึ่งลามไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านมามีทั้งคนเสียชีวิต หลบหนีไปต่างประเทศ และถูกขังรอการว่าคดีในศาล
ความล่าช้าในการสอบสวนทำให้ความน่าเชื่อถือของคณะรัฐบาลมีปัญหา ยิ่งข้ออ้างที่ว่าไม่มีเงินงบประมาณของรัฐมาเกี่ยวข้องด้วย แต่ปรากฏว่ามีเงินอย่างน้อย 2-3 หน่วยงาน มีหลักฐานเป็นเอกสารชัดเจน ก็ยิ่งทำให้ปัญหาความน่าเชื่อถือหนักกว่าเดิมสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินแถลงข่าวว่ามีเงินงบประมาณ 63.5 ล้านบาท และ 88 ล้านบาทจาก กสทช.อยู่ในโครงการนี้ด้วย และยังอาจมีเงินทดรองจ่ายไปก่อนจากหน่วยงานอื่น ทำให้คำพูดรับประกันขึงขังว่าไม่มีเงินรัฐบาลหมดราคาทันทีเท่ากับเป็นการโหมกระพือพลังแห่งความสงสัยว่ามีการทุจริตแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะมีนายทหาร นายตำรวจ และพลเรือนถูกดำเนินคดีได้อย่างไร ทำให้เป็นจุดอ่อนเรื้อรัง
แบบนี้เข้าทางขบวนการเหลี่ยมซึ่งต้องการเอาคืนหลังจากแม่นางโฉมสคราญเห็ดบานยิ้มหวานฉ่ำเยิ้มเผชิญข้อกล่าวหากรณีความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว มีความเสี่ยงโดนดำเนินคดีถึงขั้นติดคุก จ่ายค่าเสียหายตามมูลค่าหลายแสนล้านบาท
ขบวนการเหลี่ยมจึงใช้เครือข่ายรบกวนแผลทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องลงทุนมากนัก ถือว่าเป็นกิจการต้นทุนต่ำ ใช้จำนวนคนและทรัพยากรน้อย แต่ได้ผลสูงโดยเฉพาะการยึดครองพื้นที่สื่อ เรียกร้องความสนใจลามไปถึงมาตรา 112 อีกด้วย
เริ่มจากการส่งเสียงเป็นช่วงๆ เรียกร้องให้มีการตรวจสอบและสอบสวนอย่างจริงจัง จากนั้นลามไปถึงกิจกรรมภาคสนาม แกนนำเสื้อแดงพวกเผาเมืองปล้นห้างก่อการร้ายได้จังหวะเหมาะออกมาเรียกร้องความโปร่งใส ก่อนนำไปสู่กิจกรรมภาคสนามให้เป็นข่าวดัง
รู้ทั้งรู้ว่าพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการไม่เอาเจ้ามาโดยตลอด ที่มาเรียกร้องไม่ได้เป็นความจงรักภักดี แต่เป็นการตีกิน ป่วนให้คณะผู้นำรัฐบาลและกองทัพพะว้าพะวัง
แกนนำเสื้อแดงพยายามเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ อ้างว่าต้องการไปตรวจสอบ แต่ถูกสกัดโดยทหารเอาตัวไปกักไว้ 10 ชั่วโมงก่อนนำตัวไปส่งบ้านหลังจากทำข้อตกลงความเข้าใจว่าห้ามจัดกิจกรรมตีกิน แต่ยังไม่เลิกรา หาเรื่องต่อเนื่องเช่นร้องเพลงเสียดสีกองทัพ
รู้ทั้งรู้ว่าพวกนี้ตีกินเพื่อผลประโยชน์เพื่อการเมืองและขบวนการเหลี่ยม แต่รัฐบาลทำอะไรไม่ได้เต็มที่เพราะได้อยู่ในสภาพของการเกาเกล็ดงู ไม่ตีให้หลังหัก หรือจัดการอย่างจริงจัง ภายใต้ข้ออ้างการปรองดอง คงนึกว่าขี้ข้าขบวนการเหลี่ยมจะกลัวตาย
โดยความเป็นจริง “นักสู้แล้วรวย” รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง ไม่ทำอะไรถึงขั้นที่ทำให้ตัวเองโดนถอนประกันเดินเข้าคุก แต่จะตอดเล็กตอดน้อยเพื่อแสดงให้นายทาสได้เห็นว่ายังทำกิจกรรมสู้เพื่อเงินอยู่ แต่ปรับรูปแบบให้เหมาะกับสถานการณ์ดึงเรื่องให้ยืดเยื้อนาน
ข้อตกลงต่างๆ จึงเป็นเพียงมาตรการไร้ความหมาย ขาดน้ำหนัก เพราะการ “รู้ทางซึ่งกันและกัน” หลังจากที่ประลองฝีมือกันในด้านปฏิบัติการมวลชน และกองกำลังก่อการร้าย กลุ่มขี้ข้าเหลี่ยมมีความเชี่ยวชาญงานด้านมวลชนจูงใจระดับรากหญ้า ตีกินกระแสสื่อ
อย่างที่ผู้นำในรัฐบาลว่าไว้ “ไม่มีรัฐบาลมาจากการรัฐประหารที่ไหนในโลกที่มีแนวทางยึดหลักเมตตาอย่างที่เป็นอยู่ในไทย” และนั่นก็ไม่ต่างจากคณะรัฐประหารชุดก่อนๆ ซึ่งลงเอยด้วยการ “เสียของ” ทำให้ต้องมีรัฐประหารล้มเหลวซ้ำซากหลายครั้ง
พวกขบวนการเหลี่ยมรู้ดี จึงหาช่องทางป่วนเสมอภายใต้ข้ออ้างว่าเพื่อการตรวจสอบ ล่าสุดเครือข่ายนักศึกษามีทั้งแดงแท้ แอบแดง และเหยื่อแดง จัดกิจกรรมเยี่ยมชมอุทยานราชภักดิ์วานนี้ อ้างว่าเพื่อส่องไฟดูว่ามีการสอบสวนอย่างจริงจังหรือไม่กิจกรรมเยี่ยงนี้สร้างความอิหลักอิเหลื่อให้ฝ่ายความมั่นคง เพราะเป็นขบวนการนักศึกษาโดยรู้ทั้งรู้พวกนี้มีทั้งแดงและขบวนการไม่เอาเจ้า มีประวัติพฤติกรรมแนวเดียวกับพวกขบวนการขี้ข้าเหลี่ยมโดยใช้ความซื่อใสของนักศึกษา แต่กิจกรรมในอดีตเป็นแดงแท้
ครั้งนี้จัดกลุ่มเดินทางโดยรถไฟฟรีจากสถานีธนบุรีไปอุทยานราชภักดิ์ แน่นอน ฝ่ายความมั่นคงยอมไม่ได้ เพราะไม่สามารถควบคุมได้ จึงสกัดขบวนรถไฟที่สถานีบ้านโป่ง คุมตัวนักศึกษาและเครือข่ายประชาชนไป และมีอีกกลุ่มไปรอที่อุทยานราชภักดิ์ซึ่งถูกปิด 1 วัน
การกระทำของเจ้าหน้าที่ย่อมเรียกแขกจากพวกเครือข่ายนักรณรงค์สิทธิมนุษยชนแอบแดงได้อีกครั้ง หลังจากที่ออกมาโวยวายเมื่อแกนนำแดงเผาเมืองโดนสกัดก่อนหน้านี้
นอกจากกลุ่มนี้แล้ว คงจะมีแนวร่วมเครือข่ายเสื้อแดงสมุนเหลี่ยมเคลื่อนไหวอีกต่อเนื่องเมื่อเห็นว่ารัฐบาลคุณท่านหวั่นไหวอยู่ในช่วงขาลง ผลงานมีแต่เอาใจเศรษฐกิจกลุ่มเจ้าสัว ขณะที่ชาวบ้านทั่วไปยังไม่รู้ว่าอนาคตทิศทางบ้านเมืองจะไปแบบไหน