ผ่านเทศกาลเสื้อแดงวันเดียวไปได้อย่างสบายๆ คุณท่านผู้นำไม่แสดงอาการวิตกทุกข์ร้อนกับความพยายามสะกิดเกาเชิงสัญลักษณ์ของขบวนการคุณเหลี่ยม ซึ่งได้โชว์เสื้อแดงราคาแพงเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศ ปล่อยให้สมุนแข่งกันโชว์ความกล้าจงรักภักดีได้ระดับหนึ่ง
การที่เสื้อแดงและเล็มทดสอบความอดทนของคุณท่านผู้นำครั้งนี้มีความแตกต่าง นั่นคือการยกระดับนักแสดงส่วนใหญ่เป็นอดีตเสนาบดีปกคลุมร่างกายส่วนบนด้วยเสื้อแดงแล้วเดินเพ่นพ่านแต่พองาม จากนั้นถ่ายภาพตัวเองโชว์ทำนองว่ายังสยบต่อคุณเหลี่ยม
คราวนี้อดีตขุนคลังและเสี่ยพิชัย แขกขาประจำด้านปรับทัศนคติของ คสช.ลงทุนแสดงเอง ส่วนแกนนำระดับรองจำเป็นต้องเปิดตัวเช่นกัน ไม่ให้ถูกมองว่ามีอาการปอดแหกภายใต้การกดดันและเสียงคำรามของคุณท่านผู้นำว่าอย่าริล้ำเส้นเสี่ยงละเมิดกฎหมาย
คาถากำราบแกนนำเสื้อแดงได้ผลชะงัดไม่มีอะไรมาก เพียงแค่เปรยคำว่า “ถอนประกัน” เท่านี้พวกแกนนำหัวเถิกหัวเกรียนหัวหงอกต้องกลืนน้ำลายเหนียวคอ นึกถึงวันคืนที่ต้องเป็นแขกของกรมราชทัณฑ์นานหลายเดือน กลิ่นส้วมคุกยังเกาะติดขนจมูกทุกวันนี้
แกนนำเสื้อแดงล้วนมีคดีติดตัว ชนักปักหลัง จะเคลื่อนไหวทางสัญลักษณ์หรือน้ำเลี้ยงอย่างไรก็ไม่กล้าล้ำเส้นเกินเลย นอกจากเสี่ยงกับการโดนถอนประกันแล้ว ยังมีเรื่อง “ระงับการทำธุรกรรมทางการเงิน” ด้วย แต่ประการหลังไม่มีปัญหามาก ถ้าเก็บเงินซุกไว้
การที่แกนนำได้อยู่นอกคุก ใช้เงินบำเรอชีวิตอย่างเป็นสุข ย่อมไม่พึงปรารถนาเข้าไปอยู่ในคุกยาวนานแน่นอน แม้จะรักเงินคุณเหลี่ยมมากเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์ ถ้ามีเงินแล้วไม่ได้มีโอกาสใช้ ถ้าเคราะห์ร้ายตัวอ่อนที่สะสมไว้อาจระเริงใช้เงินจนลืมคนสู้แล้วรวยก็ได้
ดังนั้น คุณท่านผู้นำและคณะจึงโล่งใจได้เปลาะหนึ่ง ว่าการเคลื่อนไหวของพวกนิยมเสื้อแดงมีขีดจำกัด เพียงแต่ว่าจะมีแรงกดดันเพิ่มจากคุณเหลี่ยมและเครือข่ายต่างประเทศ ทั้งเปิดเผยและแฝงเร้นถึงกระนั้นจะยังทำอะไรไม่ได้เช่นกันเมื่อคุณท่านถือกฎหมายในมือ
มาตรา 44 ยังมีพลังขลังเสมอ ถ้ารู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ คุณเหลี่ยมจึงทำอะไรไม่ได้ อย่างมากก็ใส่เสื้อแดงร้องโอดครวญคร่ำหาความยุติธรรมเข้าข้างตัวเองซ้ำซากเป็นแผ่นเสียงตกร่อง โทษแต่คนอื่นไม่เคยโทษตัวเอง ปลูกฝังนิสัยเช่นนี้เป็นสมบัติของตระกูล
คุณเหลี่ยมรู้ดีว่าคุณน้องปูอาจไม่มีโอกาสเลี่ยงเร้นกายออกนอกประเทศได้ง่ายๆ ถ้ายังทำเป็นคนเรื่องเยอะ สร้างปัญหาขุ่นอารมณ์ให้คุณท่านจนทำให้เสียภาพสวยของผู้นำ
คุณท่านยิ่งคึกเมื่อศิษย์เอกหลวงปู่เกวาลัน โหรยุค คมช.และย้ายจุดยืนมาเป็นโหร คสช.ได้เอ่ยคำทำนายถูกใจไว้ว่าคุณท่านผู้นำมีบารมีแก่กล้า จะอยู่ได้อีกนานเพื่อรับภาระแก้ปัญหาบ้านเมือง พวกจ้องล้มโดยเฉพาะขบวนการคุณเหลี่ยมหมดโอกาสทำเช่นนั้นแล้ว
ความต้องการอยู่ยาวของคณะคุณท่านนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยโหรชี้ทาง เพราะการแสดงออกตั้งแต่เริ่มใช้งานท่านมีชัยไทยแลนด์ นักแต่งกฎหมายมือหนึ่งยุคนี้ ให้รับงานแต่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทำให้เห็นชัดแล้วว่าจะต้องแต่งให้ดูเนียน แต่ต้องไม่ผ่านประชามติ
ปัดโธ่! เกมตื้นๆ เห็นชัด เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ ฟาดเงินเบี้ยเลี้ยงต่อวันกันคนละ 6-9 พันบาท ตั้งประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะ “การแบ่งสันปันส่วน” ผลประโยชน์ในคะแนนเสียง นำไปสู่การแบ่งสันปันส่วนผลประโยชน์ทางการเมืองล้วนๆ ก็ทำให้คนรู้ทันร้อง “ฮั่นแน่!”
แถมยังจะตั้งเงื่อนไขปมต่างๆ ให้ดูซับซ้อนเลอะเทอะเฟอะฟะ สร้างความน่าเบื่อหน่ายเรื่องเยอะเข้าไว้ ทำให้เมืองไทยกลายเป็นดินแดนพิสดาร ต้องมีรัฐธรรมนูญ รูปแบบกฎหมายเลือกตั้งแตกต่างจากคนชาติพันธุ์อื่นๆ สะท้อนให้เห็นแผนการหมกเม็ดซึ่งๆ หน้า
ต่อให้มีกฎหมายพิสดาร เรื่องเยอะอย่างไร ถ้าเลือกแล้วได้ไอ้หน้าขี้โกงหลังลายพวกเดิมๆ แบบนี้เสียเวลาแต่งรัฐธรรมนูญเปลืองเบี้ยเลี้ยงจากเงินภาษีชาวบ้านเปล่าๆ ปลี้ๆ
พิธีกรรมแต่งรัฐธรรมนูญทำให้ดูเหมือนดี สร้างประเด็นต่างๆ ให้ต่างจากที่เคยเป็นมา แต่ไม่คำนึงว่ากฎหมายเปลี่ยนคนไม่ได้ แม้แต่แกนนำคณะแต่งรัฐธรรมนูญเอง คำประกาศว่าจะทดแทนคุณแผ่นดินนั้นน่าจะเป็นหน้าฉากปิดกั้นเม็ดที่เตรียมหมกไว้
ประเด็นที่ยังถกกันยืดเยื้อลากยาว หาข้อสรุปได้ไม่เนียนคือ “ที่มาของนายกฯ” นั่นแหละ มีเรื่องแต่งรัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ต้องมีคำถามนี้แหละ ผลสรุปส่วนใหญ่คือ “มาจากการเลือกตั้ง” นี่เป็นการโกหกลวงโลกชัดๆ เพราะแท้ที่จริงมาจาก “การซื้อเสียง” ต่างหาก จะซื้อโดยผ่านหัวคะแนน ผ่านกลุ่มคนควบคุมเลือกตั้ง ซื้อเสียงข้ามพรรค ก็สุดแล้วแต่โอกาส ความสะดวก และความหนาของกระเป๋าเงิน บางครั้งต้องอาศัยอำนาจอื่นคอยกำกับ สกัดกลุ่มอื่นให้แข่ง โดยเสนอผลประโยชน์หรือคำขู่ผสมกับการหักดิบซึ่งหน้า อ้อ! ยังมีขบวนการงูเห่า ซึ่งดิ้นรนในการ “แบ่งสันปันส่วนผลประโยชน์” นั่นแหละ!
คราวนี้ก็เช่นกัน เถียงกันอีกว่า “นายกฯ” จะมาจากการเลือกตั้ง หรือ “คนนอก” เผื่อการเมืองมีปัญหาเจอทางตัน ควรเปิดช่องให้คนนอกกระสันในอำนาจเข้ามาโดยง่ายๆ ไม่ต้องลำบากทำรัฐประหารแบบต้นทุนสูงยุค “บังเละ” หรือแบบต้นทุนต่ำโดยคณะคุณท่าน
ต้องเขียนแบบเนียนๆ นอบน้อมถ่อมตนว่า “นายกรัฐมนตรีมาจากคนปัจจุบัน” ฮ่า! เพื่อไม่ให้ผิดคำทำนายของโหรและสบอารมณ์ของฝ่ายซึ่งยังอยากทอดยาวอำนาจต่อไป ถ้าคุณท่านจะอยู่ต่อก็ไม่มีใครว่าถ้าปราบคอร์รัปชัน ปฏิรูปการเมือง สังคม เศรษฐกิจให้ดี
ยกเครื่องกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะตำรวจ ให้คนยากจนมีโอกาสทำมาหากิน
ถ้า “คนปัจจุบัน” เบื่อหน่ายก็เปิดช่องให้มีการ “สืบทอดอำนาจ” โดยพวกเดียวกันทำนองสมบัติผลัดกันชม แค่นี้ก็ไร้ปัญหาแล้ว! ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่พวกคุณเหลี่ยม แต่เป็นพวกเดียวกันคนละฝ่ายนี่แหละ ถ้าไม่เชื่อรอดูช่วงรอยต่อสิ้นปี อาจเห็นอะไรดีๆ ก็ได้นะ
การที่เสื้อแดงและเล็มทดสอบความอดทนของคุณท่านผู้นำครั้งนี้มีความแตกต่าง นั่นคือการยกระดับนักแสดงส่วนใหญ่เป็นอดีตเสนาบดีปกคลุมร่างกายส่วนบนด้วยเสื้อแดงแล้วเดินเพ่นพ่านแต่พองาม จากนั้นถ่ายภาพตัวเองโชว์ทำนองว่ายังสยบต่อคุณเหลี่ยม
คราวนี้อดีตขุนคลังและเสี่ยพิชัย แขกขาประจำด้านปรับทัศนคติของ คสช.ลงทุนแสดงเอง ส่วนแกนนำระดับรองจำเป็นต้องเปิดตัวเช่นกัน ไม่ให้ถูกมองว่ามีอาการปอดแหกภายใต้การกดดันและเสียงคำรามของคุณท่านผู้นำว่าอย่าริล้ำเส้นเสี่ยงละเมิดกฎหมาย
คาถากำราบแกนนำเสื้อแดงได้ผลชะงัดไม่มีอะไรมาก เพียงแค่เปรยคำว่า “ถอนประกัน” เท่านี้พวกแกนนำหัวเถิกหัวเกรียนหัวหงอกต้องกลืนน้ำลายเหนียวคอ นึกถึงวันคืนที่ต้องเป็นแขกของกรมราชทัณฑ์นานหลายเดือน กลิ่นส้วมคุกยังเกาะติดขนจมูกทุกวันนี้
แกนนำเสื้อแดงล้วนมีคดีติดตัว ชนักปักหลัง จะเคลื่อนไหวทางสัญลักษณ์หรือน้ำเลี้ยงอย่างไรก็ไม่กล้าล้ำเส้นเกินเลย นอกจากเสี่ยงกับการโดนถอนประกันแล้ว ยังมีเรื่อง “ระงับการทำธุรกรรมทางการเงิน” ด้วย แต่ประการหลังไม่มีปัญหามาก ถ้าเก็บเงินซุกไว้
การที่แกนนำได้อยู่นอกคุก ใช้เงินบำเรอชีวิตอย่างเป็นสุข ย่อมไม่พึงปรารถนาเข้าไปอยู่ในคุกยาวนานแน่นอน แม้จะรักเงินคุณเหลี่ยมมากเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์ ถ้ามีเงินแล้วไม่ได้มีโอกาสใช้ ถ้าเคราะห์ร้ายตัวอ่อนที่สะสมไว้อาจระเริงใช้เงินจนลืมคนสู้แล้วรวยก็ได้
ดังนั้น คุณท่านผู้นำและคณะจึงโล่งใจได้เปลาะหนึ่ง ว่าการเคลื่อนไหวของพวกนิยมเสื้อแดงมีขีดจำกัด เพียงแต่ว่าจะมีแรงกดดันเพิ่มจากคุณเหลี่ยมและเครือข่ายต่างประเทศ ทั้งเปิดเผยและแฝงเร้นถึงกระนั้นจะยังทำอะไรไม่ได้เช่นกันเมื่อคุณท่านถือกฎหมายในมือ
มาตรา 44 ยังมีพลังขลังเสมอ ถ้ารู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ คุณเหลี่ยมจึงทำอะไรไม่ได้ อย่างมากก็ใส่เสื้อแดงร้องโอดครวญคร่ำหาความยุติธรรมเข้าข้างตัวเองซ้ำซากเป็นแผ่นเสียงตกร่อง โทษแต่คนอื่นไม่เคยโทษตัวเอง ปลูกฝังนิสัยเช่นนี้เป็นสมบัติของตระกูล
คุณเหลี่ยมรู้ดีว่าคุณน้องปูอาจไม่มีโอกาสเลี่ยงเร้นกายออกนอกประเทศได้ง่ายๆ ถ้ายังทำเป็นคนเรื่องเยอะ สร้างปัญหาขุ่นอารมณ์ให้คุณท่านจนทำให้เสียภาพสวยของผู้นำ
คุณท่านยิ่งคึกเมื่อศิษย์เอกหลวงปู่เกวาลัน โหรยุค คมช.และย้ายจุดยืนมาเป็นโหร คสช.ได้เอ่ยคำทำนายถูกใจไว้ว่าคุณท่านผู้นำมีบารมีแก่กล้า จะอยู่ได้อีกนานเพื่อรับภาระแก้ปัญหาบ้านเมือง พวกจ้องล้มโดยเฉพาะขบวนการคุณเหลี่ยมหมดโอกาสทำเช่นนั้นแล้ว
ความต้องการอยู่ยาวของคณะคุณท่านนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยโหรชี้ทาง เพราะการแสดงออกตั้งแต่เริ่มใช้งานท่านมีชัยไทยแลนด์ นักแต่งกฎหมายมือหนึ่งยุคนี้ ให้รับงานแต่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทำให้เห็นชัดแล้วว่าจะต้องแต่งให้ดูเนียน แต่ต้องไม่ผ่านประชามติ
ปัดโธ่! เกมตื้นๆ เห็นชัด เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ ฟาดเงินเบี้ยเลี้ยงต่อวันกันคนละ 6-9 พันบาท ตั้งประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะ “การแบ่งสันปันส่วน” ผลประโยชน์ในคะแนนเสียง นำไปสู่การแบ่งสันปันส่วนผลประโยชน์ทางการเมืองล้วนๆ ก็ทำให้คนรู้ทันร้อง “ฮั่นแน่!”
แถมยังจะตั้งเงื่อนไขปมต่างๆ ให้ดูซับซ้อนเลอะเทอะเฟอะฟะ สร้างความน่าเบื่อหน่ายเรื่องเยอะเข้าไว้ ทำให้เมืองไทยกลายเป็นดินแดนพิสดาร ต้องมีรัฐธรรมนูญ รูปแบบกฎหมายเลือกตั้งแตกต่างจากคนชาติพันธุ์อื่นๆ สะท้อนให้เห็นแผนการหมกเม็ดซึ่งๆ หน้า
ต่อให้มีกฎหมายพิสดาร เรื่องเยอะอย่างไร ถ้าเลือกแล้วได้ไอ้หน้าขี้โกงหลังลายพวกเดิมๆ แบบนี้เสียเวลาแต่งรัฐธรรมนูญเปลืองเบี้ยเลี้ยงจากเงินภาษีชาวบ้านเปล่าๆ ปลี้ๆ
พิธีกรรมแต่งรัฐธรรมนูญทำให้ดูเหมือนดี สร้างประเด็นต่างๆ ให้ต่างจากที่เคยเป็นมา แต่ไม่คำนึงว่ากฎหมายเปลี่ยนคนไม่ได้ แม้แต่แกนนำคณะแต่งรัฐธรรมนูญเอง คำประกาศว่าจะทดแทนคุณแผ่นดินนั้นน่าจะเป็นหน้าฉากปิดกั้นเม็ดที่เตรียมหมกไว้
ประเด็นที่ยังถกกันยืดเยื้อลากยาว หาข้อสรุปได้ไม่เนียนคือ “ที่มาของนายกฯ” นั่นแหละ มีเรื่องแต่งรัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ต้องมีคำถามนี้แหละ ผลสรุปส่วนใหญ่คือ “มาจากการเลือกตั้ง” นี่เป็นการโกหกลวงโลกชัดๆ เพราะแท้ที่จริงมาจาก “การซื้อเสียง” ต่างหาก จะซื้อโดยผ่านหัวคะแนน ผ่านกลุ่มคนควบคุมเลือกตั้ง ซื้อเสียงข้ามพรรค ก็สุดแล้วแต่โอกาส ความสะดวก และความหนาของกระเป๋าเงิน บางครั้งต้องอาศัยอำนาจอื่นคอยกำกับ สกัดกลุ่มอื่นให้แข่ง โดยเสนอผลประโยชน์หรือคำขู่ผสมกับการหักดิบซึ่งหน้า อ้อ! ยังมีขบวนการงูเห่า ซึ่งดิ้นรนในการ “แบ่งสันปันส่วนผลประโยชน์” นั่นแหละ!
คราวนี้ก็เช่นกัน เถียงกันอีกว่า “นายกฯ” จะมาจากการเลือกตั้ง หรือ “คนนอก” เผื่อการเมืองมีปัญหาเจอทางตัน ควรเปิดช่องให้คนนอกกระสันในอำนาจเข้ามาโดยง่ายๆ ไม่ต้องลำบากทำรัฐประหารแบบต้นทุนสูงยุค “บังเละ” หรือแบบต้นทุนต่ำโดยคณะคุณท่าน
ต้องเขียนแบบเนียนๆ นอบน้อมถ่อมตนว่า “นายกรัฐมนตรีมาจากคนปัจจุบัน” ฮ่า! เพื่อไม่ให้ผิดคำทำนายของโหรและสบอารมณ์ของฝ่ายซึ่งยังอยากทอดยาวอำนาจต่อไป ถ้าคุณท่านจะอยู่ต่อก็ไม่มีใครว่าถ้าปราบคอร์รัปชัน ปฏิรูปการเมือง สังคม เศรษฐกิจให้ดี
ยกเครื่องกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะตำรวจ ให้คนยากจนมีโอกาสทำมาหากิน
ถ้า “คนปัจจุบัน” เบื่อหน่ายก็เปิดช่องให้มีการ “สืบทอดอำนาจ” โดยพวกเดียวกันทำนองสมบัติผลัดกันชม แค่นี้ก็ไร้ปัญหาแล้ว! ปัญหาไม่ใช่อยู่ที่พวกคุณเหลี่ยม แต่เป็นพวกเดียวกันคนละฝ่ายนี่แหละ ถ้าไม่เชื่อรอดูช่วงรอยต่อสิ้นปี อาจเห็นอะไรดีๆ ก็ได้นะ