ผู้จัดการรายวัน360- "อุดมเดช" โบ้ยหัวคิวโรงหล่อ เป็นเรื่องเอกชนคุยกัน ทหารไม่เกี่ยว ยอมรับก็มีคิดเรื่องลาออก "บิ๊กตู่"อ้างไม่ปล่อยให้กลุ่ม นศ.ไปราชภักดิ์ เพราะมีอีกพวกดักทำร้าย "บิ๊กป้อม"สั่งล่าตัวคนทำเผยแพร่ผังโกง ด้าน"บิ๊กต๊อก" หาเวลาให้"ตู่-เต้น" เข้าพบมอบข้อมูลทุจริต "วีระ สมความคิด"ยื่น ป.ป.ช. สอบยอดบริจาค-ไต่สวน-ดำเนินคดี "อุดมเดช-ศิริชัย" มีเอี่ยว
เมื่อวานนี้ (8ธ.ค.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม โครงการอุทยานราชภักดิ์ ที่ส่อทุจริตว่าประเด็นเรื่องโรงหล่อ ผมอยากจะบอกว่า ไม่เคยรองรับคำที่ใช้กันในเรื่องนั้น เพราะเป็นเรื่องของเอกชนที่ดำเนินการกัน และเมื่อคณะกรรมการจัดสร้างฯได้ทำข้อตกลงกับโรงหล่อแล้วก็เป็นไปตามนั้น ส่วนเรื่องที่โรงหล่อจะไปคุยกับภาคเอกชนอื่น ไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการดำเนินงานที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะเราตกลงกันแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อพบการกระทำที่อาจไม่เหมาะสมระหว่างโรงหล่อกับเซียนพระ ทำไมทางทหารไม่เข้าไปดำเนินการ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของทางทหาร เมื่อคณะกรรมการตกลงในรายละเอียดแล้ว คงจะไปหาคำปรึกษาจากที่ใด ก็เป็นเรื่องระหว่างเอกชน
** "บิ๊กโด่ง"ส่อถอดใจยอมไขก๊อก
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนเป็นมนุษย์ปุถุชน เมื่อมีอะไรเข้ามา ก็ต้องคิดบ้างพอสมควร แต่ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจสอบต่างๆ ซึ่งตนมั่นใจว่า คณะกรรมการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ชี้แจงได้อยู่แล้ว และเชื่อว่าประชาชนที่บริจาคเงินเข้ามา ก็มีความมั่นใจในการจัดสร้าง ว่าเงินที่บริจาคมาได้นำไปใช้อย่างเต็มที่ ส่วนหนึ่งก็ทำให้เห็นไปแล้ว และที่ตามมาภายหลัง คณะกรรมการที่รับช่วงต่อก็จะดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ อยากให้ลองคิดดู ถ้าหลังจากตนปลดเกษียณราชการแล้วไม่สามารถเปิดอุทยานราชภักดิ์ได้ กระแสจะโถมทับเข้ามา ดังนั้นในช่วงที่ตนดำเนินการอยู่จึงพยายามทำอย่างเต็มที่ คนที่บริจาคเขาก็จะสบายใจ
** "บิ๊กต๊อก"รอนัดเวลา"ตู่-เต้น"ให้ข้อมูล
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช.ได้ตอบรับที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตในโครงการราชภักดิ์แล้ว ทั้งนี้ตนได้ประสานไปยัง สตง.และ ป.ป.ท. ให้เตรียมรับข้อมูลจากทั้งสองคนแล้ว อยากขอร้องทุกฝ่าย หากต้องการตรวจสอบจริง ก็สามารถส่งเรื่องมายัง ศอตช. หรือ คณะกรรมการตรวจสอบที่กระทรวงกลาโหมตั้งขึ้น
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบของหน่วยงานรัฐบาล ทั้ง สตง.และ ป.ป.ท. พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งสองหน่วยงานได้รายงานมาว่า กองทัพบกได้ตอบรับมาแล้ว และจากนี้จะมีการชี้แจงเป็นระยะๆ
** "บิ๊กตู่"อ้างมีม็อบรอทำร้ายนศ.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหาร ขัดขวางและควบคุมนายสิริวิชญ์ เสรีวิวัฒน์ หรือ จ่านิว และกลุ่มประชาธิปไตยศึกษาและแกนนำนักศึกษากลุ่มต่างๆ ที่กำลังจะเดินทางไปยังอุทยานราชภักดิ์ ว่า เพราะมีคนรอตีอยู่ไม่รู้เท่าไหร่ หรือจะปล่อยให้เขาไปแล้วให้เขาโดนทำร้าย เป็น ตาย เจ็บมาแล้วรัฐบาลก็โดนอีก ผมถึงบอกว่า ทำไมต้องไปขยายความขัดแย้ง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน และสีหน้าหงุดหงิด หลังถูกถามกรณีมีการเผยแพร่ผังโครงข่ายผู้ที่เกี่ยวข้องการก่อสร้างโครงการอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งมีการระบุชื่อนายกฯ และภริยา อยู่ในผังดังกล่าวด้วย ผ่านทางโซเชียลมีเดียว่า "เห็นแล้ว ทุเรศ พวกคนเลวมันทำ อย่าไปขยายให้มันซิ"
** "บิ๊กป้อม"สั่งล่ามือโพสต์ผังราชภักดิ์
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายมาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยแสดงความเป็นห่วงกรณีจนท.ควบคุมตัวนศ. และได้โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ "นึกว่าประเทศไทยมีประชาธิปไตยแล้ว" ว่า เรื่องพวกนี้ เดี๋ยวกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงเอง
ส่วนการทำผังเครือข่ายอุทยานราชภักดิ์ เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย มีรูปตนด้วย ทำไมมันไม่มีอะไรทำเหรอ ผมจะมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฟ้องดำเนินคดี เพราะมีคนอยากฟ้องเยอะแยะ ผิดทั้ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และผิดกฎหมายความมั่นคง ผิดแน่ เตรียมตัวไว้เลย
** "ดอน"ขออย่าโยงม็อบหน้าสถานทูตสหรัฐ
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ (กต.) กล่าวถึงกรณีนิตยสารไทม์ออกมาเขียนวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไทยมีสองมาตรฐาน ต่อเรื่องสิทธิเสรีภาพว่า ต่างประเทศกำลังโยงเรื่องที่นักศึกษาเดินทางด้วยรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ กับเรื่องการประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน โดยเรื่องที่นักศึกษาเดินทางไปอุทยานฯ มีผลสะท้อนต่อการเมืองภายในอย่างชัดเจน ส่วนกรณี นายมาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @KentBKK กรณีเหตุการณ์ทหารจับกุมนศ.นั้น ต้องขอดูรายละเอียด และพิจารณาก่อนว่า จะมีการเชิญมาเพื่อชี้แจงหรือไม่
** ซัดกลุ่มนศ. ตั้งใจป่วนการเมือง
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุม ครม. ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในครม.ว่า สาเหตุที่ฝ่ายความมั่นคงไม่ให้กลุ่มนักศึกษาที่เคลื่อนไหวเดินทางไปยังอุทธานราชภักดิ์ ไม่ใช่เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพ แต่การตรวจสอบนั้นต้องว่ากันด้วยเอกสาร หลักฐาน นอกจากนี้ยังมีกฎหมายอยู่แล้วว่า การชุมนุมเกินกว่า 5 คน เพื่อทำกิจกรรมการเมือง เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
** "วีระ"ยื่นป.ป.ช.สอบ"อุดมเดช-ศิริชัย"
นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.)ได้นำข้อมูลและหลักฐานกรณีเชื่อว่ามีการทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ เข้าพบคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้ทำการไต่สวนข้อเท็จจริง และดำเนินคดีต่อ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาทหารบก (ผบ.ทบ.) และ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ากระทำความผิด เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
นายวีระ กล่าวว่า เรื่องนี้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โครงการอุทยานราชภักดิ์ที่กองทัพบก เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง ปรากฏหลักฐานจากสื่อมวลชนว่ามีการใช้งบประมาณแผ่นดินซึ่งมีการเบิกจ่ายงบกลางไปแล้ว 80% ของวงเงินที่ได้รับการจัดสรร 63.57 ล้านบาท และเงินบริจาคของประชาชน ซึ่งเมื่อเข้ากองทัพบกแล้ว ถือว่าเป็นเงินของกองทัพบก โดยมีการจัดจ้างโรงหล่อทั้งหมด 6 โรง หล่อพระบรมราชานุสาวรีย์ 7 องค์ ใช้งบในการก่อสร้างองค์ละ 41-45 ล้านบาท รวมเป็นเงินประมาณ 287-315 ล้านบาท ปรากฏข้อเท็จจริงว่า อาจมีการหักหัวคิว 10% จากเซียนพระชื่อ “อ.” นอกจากนี้ยังปรากฏว่า พล.ต.สุชาติ พรหมใหม่ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และ พ.อ.คชาชาต บุญดี อดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำกองทัพภาคที่ 3 (นายทหารคนสนิทของ พล.อ.อุดมเดช ปัจจุบันถูกถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์แล้ว) อาจมีส่วนร่วมในการทุจริตครั้งนี้ด้วย
ส่วนในการจัดซื้อจัดจ้างก่อสร้างงานปูหินสักการะ บันได และล้านชั้นบน รอบแท่นพระบรมรูป 34.9 ล้านบาท งานติดตั้งหินอ่อนรอบแท่นพระบรมรูป 11.9 ล้านบาท งานสร้างรั้วบริเวณภายใน และภายนอกอุทยานราชภักดิ์ 2 โครงการ 20.2 ล้านบาท งานสร้างป้ายทางเข้าและอาคารรักษาความปลอดภัย 7.2 ล้านบาท (ทั้งหมดข้างต้นใช้งบกลาง) และการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ 7 พระองค์นั้น งานก่อสร้างดังกล่าวมีมูลค่าเกิน 2 ล้านบาทขึ้นไป และเป็นการจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ แต่ไม่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
"การกระทำดังกล่าวของ พล.อ.อุดมเดช และพล.อ.ศิริชัย จึงเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 7 และมาตรา 12" นายวีระ กล่าว
** "จ่านิว"ยันสู้เผด็จการคสช.ต่อ
บ่ายวานนี้ (8 ธ.ค.) ที่ลานประติมากรรม ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มประชาธิปไตยศึกษา นำโดย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว ได้นัดแถลงข่าวกรณีถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวขณะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ ปรากฎว่า พ.ต.อ.อรรถวิชญ์ สายสืบ รองผู้บังคับการ ตำรวจนครบาล 1 พร้อมด้วยกำลังตำรวจประมาณ 20 นาย ได้เดินทางมาดูแลความสงบเรียบร้อย โดยพ.ต.อ.อรรถวิชญ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการขออนุญาตใช้สถานที่ ดังนั้นจึงไม่สามารถเปิดให้มีการแถลงข่าวได้
ต่อมา นายสิรวิชญ์ และกลุ่ม 2 คนได้เดินเท้ามายังบริเวณด้านหน้าประตูหอประชุมใหญ่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปล้อมเพื่อเจรจาไม่ให้มีการแถลงข่าว และเข้าไปพูดคุยเป็นเวลา 8 นาที หวิดมีการปะทะกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะอนุญาตให้นายสิรวิชญ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนได้
ทั้งนี้นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ทุกคนยังคงยืนยันที่จะต่อสู้กับเผด็จการ คสช. ต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดจะตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวบ้างหรือไม่ นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตรวจสอบโครงการดังกล่าวไปมากแล้ว
**จับตา"บิ๊กตู่"ปรับครม.โละ"บิ๊กโด่ง”
จากประเด็นปัญหาการจัดสร้างโครงการอุทยานราชภักดิ์ ส่งผลให้แกนนำคสช.และรัฐบาล หวั่นวิตก เนื่องจากส่งผลต่อความเชื่อมั่นและเสถียรภาพรัฐบาลและคสช.อย่างหนัก ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ตัดสินใจที่จะปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)แล้ว จากเดิม ตั้งใจปรับครม.ในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ขอให้นายกฯปรับครม.เร็วขึ้น เพื่อลดกระแส หลังพล.อ.อุดมเดช ยังไม่ยอมที่จะลาออก ขณะเดียวกัน นายกฯจึงได้ถือโอกาสปรับครม.ในส่วนของรัฐมนตรี ที่ไม่มีผลงานด้วย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า การเข้าพบพล.อ.ไพบูลย์ตามหนังสือเชิญนั้น ตนจะเดินทางไปพร้อมกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ในวันนี้(9 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม โดยจะชี้ให้เห็นหลักฐานสำคัญที่จะคลี่คลายกรณีนี้ได้