นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่มีข่าวว่า คณะผู้บริหารพรรคได้หารือ และมีมติไม่เป็นทางการว่าควรให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. และรองหัวหน้าพรรค พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค เพราะไม่ตอบสนองนโยบายพรรคว่า การจะขับสมาชิกพ้นพรรค จะต้องมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) แต่ว่า ตั้งแต่ คสช.ยึดอำนาจ กก.บห.ยังไม่เคยมีการนัดประชุม และไม่มีเหตุผลใดที่ต้องทำตามที่ปรากฏเป็นข่าว เพราะวาระของผู้ว่าฯ กทม. เหลืออีกแค่ 1 ปี ฉะนั้นที่มีข่าวออกมาว่า มีการประชุมคณะผู้บริหารพรรค และมีมติอย่างไม่เป็นทางการนั้น ยืนยันว่า พรรคเราไม่มีระบบนี้ และไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ พรรคเคยทำหนังสือเพื่อขออนุญาตต่อคสช. เพื่อขอประชุมพรรค เพื่อรับฟังความเห็นของส.ส. พรรค เกี่ยวกับการแก้ไข หรือร่างรัฐธรรมนูญ แต่คสช.ไม่อนุญาต พรรคก็ไม่เคยประชุม และในส่วนของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และ กก.บห. ก็ไม่เคยมีการพูดคุยในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาการบริหารกทม. ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีหลายประเด็นสร้างความไม่พอใจต่อกลุ่ม ส.ส.กทม. เช่น กรณีไล่ประชาชนย้ายไปอยู่ดอย หนีน้ำท่วมกรุงเทพฯ ซึ่งผู้ใหญ่ของพรรคเห็นว่า เป็นการพูดที่ไม่เหมาะสม และ มีการประสานหลายครั้งให้ออกมาขอโทษประชาชน แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่ให้ความสนใจ จนกระทั่ง นายอภิสิทธิ์ ต้องออกมากล่าวขอโทษประชาชนด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส ในหลายกรณี ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคได้เรียก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มาตักเตือน และพยายามติดต่อเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ได้รับการปฏิเสธมาตลอด โดยยืนยันว่า ที่ผ่านมาบริหารงานถูกต้อง และบ่ายเบี่ยงที่จะมาพบ
แหล่งข่าวระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้อดีต ส.ส.กทม.ไม่พอใจการบริหารงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ อยู่แล้วยิ่งไม่พอใจมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ไม่เคารพหัวหน้าพรรค และไม่ทำตามที่เคยรับปากกับประชาชน ว่าจะแถลงข่าวความคืบหน้าทุกโครงการทุก 3 เดือน อีกทั้งยังไม่พอใจระบบพรรค ทั้งที่เป็นผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่เคยประสานงานกับพรรค ทำให้ ส.ส.กทม. ส่วนใหญ่ได้รวบรวมพฤติกรรม และข้อผิดพลาดบกพร่อง ในการบริหารงานใน กทม. ส่งมอบให้ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อให้แก้ปัญหา
จากนั้นจึงมีการมอบหมาย ให้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าภาค กทม. นำหนังสือจากหัวหน้าพรรค ไปมอบให้กับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ชี้แจงเรื่องที่มีปัญหา เพื่อให้เกิดความโปร่งใส แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กลับไม่ดำเนินการใดๆ และยังปฏิเสธที่จะพบกับนายอภิสิทธิ์ ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาฯ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษา ปรารภว่า ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะพรรคต้องยึดความถูกต้องหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายพรรคได้ ก็ไม่ควรสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป โดยขณะนี้มีความพยายามที่จะให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลาออกไปด้วยตัวเอง แต่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กลับนิ่งเฉย สุดท้ายผู้ใหญ่ในพรรคหารือกันแล้วเห็นว่าอาจต้องมีการออกแถลงการณ์ ถึงปัญหาทั้งหมดให้สังคมเข้าใจ เพื่อกดดันให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลาออกเอง
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับกระแสข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง มีการพูดคุยกันในวงผู้ใหญ่ของพรรค อย่างหนาหู และข่าวลือมักมาก่อนข่าวจริงเสมอ เพราะจากการประเมินการทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ถือว่าสอบตก และควรพิจารณาตัวเอง เนื่องจากประชาชนส่ายหน้ากับพฤติกรรม รวมทั้งเบื่อหน่ายในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะ 1. พูดจาไม่รับผิดชอบ 2. ประชาชนขอพบหรือส่งจดหมายไป ก็ไม่เคยได้รับการตอบกลับ 3.ไม่ตรงต่อเวลา 4. รับฟังนางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม.มากกว่าใครทั้งสิ้น จึงทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกพรรค และ 5.บริหารงานไม่โปร่งใสในบางโครงการ เช่น โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด ซีซีทีวี เป็นต้น
ทั้งนี้ ทราบว่าหลังวันที่ 5 ธ.ค.นี้ จะมีมาตรการดำเนินการกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ด้วย แต่รายละเอียดนั้น ไม่ทราบ
ทั้งนี้ พรรคเคยทำหนังสือเพื่อขออนุญาตต่อคสช. เพื่อขอประชุมพรรค เพื่อรับฟังความเห็นของส.ส. พรรค เกี่ยวกับการแก้ไข หรือร่างรัฐธรรมนูญ แต่คสช.ไม่อนุญาต พรรคก็ไม่เคยประชุม และในส่วนของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และ กก.บห. ก็ไม่เคยมีการพูดคุยในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาการบริหารกทม. ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีหลายประเด็นสร้างความไม่พอใจต่อกลุ่ม ส.ส.กทม. เช่น กรณีไล่ประชาชนย้ายไปอยู่ดอย หนีน้ำท่วมกรุงเทพฯ ซึ่งผู้ใหญ่ของพรรคเห็นว่า เป็นการพูดที่ไม่เหมาะสม และ มีการประสานหลายครั้งให้ออกมาขอโทษประชาชน แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่ให้ความสนใจ จนกระทั่ง นายอภิสิทธิ์ ต้องออกมากล่าวขอโทษประชาชนด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส ในหลายกรณี ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคได้เรียก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มาตักเตือน และพยายามติดต่อเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ได้รับการปฏิเสธมาตลอด โดยยืนยันว่า ที่ผ่านมาบริหารงานถูกต้อง และบ่ายเบี่ยงที่จะมาพบ
แหล่งข่าวระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้อดีต ส.ส.กทม.ไม่พอใจการบริหารงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ อยู่แล้วยิ่งไม่พอใจมากขึ้น เนื่องจากเห็นว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ไม่เคารพหัวหน้าพรรค และไม่ทำตามที่เคยรับปากกับประชาชน ว่าจะแถลงข่าวความคืบหน้าทุกโครงการทุก 3 เดือน อีกทั้งยังไม่พอใจระบบพรรค ทั้งที่เป็นผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่เคยประสานงานกับพรรค ทำให้ ส.ส.กทม. ส่วนใหญ่ได้รวบรวมพฤติกรรม และข้อผิดพลาดบกพร่อง ในการบริหารงานใน กทม. ส่งมอบให้ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อให้แก้ปัญหา
จากนั้นจึงมีการมอบหมาย ให้ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าภาค กทม. นำหนังสือจากหัวหน้าพรรค ไปมอบให้กับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ชี้แจงเรื่องที่มีปัญหา เพื่อให้เกิดความโปร่งใส แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กลับไม่ดำเนินการใดๆ และยังปฏิเสธที่จะพบกับนายอภิสิทธิ์ ทำให้ผู้ใหญ่ในพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาฯ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษา ปรารภว่า ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะพรรคต้องยึดความถูกต้องหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายพรรคได้ ก็ไม่ควรสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป โดยขณะนี้มีความพยายามที่จะให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลาออกไปด้วยตัวเอง แต่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กลับนิ่งเฉย สุดท้ายผู้ใหญ่ในพรรคหารือกันแล้วเห็นว่าอาจต้องมีการออกแถลงการณ์ ถึงปัญหาทั้งหมดให้สังคมเข้าใจ เพื่อกดดันให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลาออกเอง
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับกระแสข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง มีการพูดคุยกันในวงผู้ใหญ่ของพรรค อย่างหนาหู และข่าวลือมักมาก่อนข่าวจริงเสมอ เพราะจากการประเมินการทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ถือว่าสอบตก และควรพิจารณาตัวเอง เนื่องจากประชาชนส่ายหน้ากับพฤติกรรม รวมทั้งเบื่อหน่ายในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะ 1. พูดจาไม่รับผิดชอบ 2. ประชาชนขอพบหรือส่งจดหมายไป ก็ไม่เคยได้รับการตอบกลับ 3.ไม่ตรงต่อเวลา 4. รับฟังนางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม.มากกว่าใครทั้งสิ้น จึงทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกพรรค และ 5.บริหารงานไม่โปร่งใสในบางโครงการ เช่น โครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด ซีซีทีวี เป็นต้น
ทั้งนี้ ทราบว่าหลังวันที่ 5 ธ.ค.นี้ จะมีมาตรการดำเนินการกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ด้วย แต่รายละเอียดนั้น ไม่ทราบ