ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - ประธานสภาเกษตรกรอุตรดิตถ์เชื่อน้ำเหนือเขื่อนแห้งเหตุระบายน้ำพลาดตั้งแต่ปี 54-55 เหมือนคว่ำโอ่งทิ้งจนแล้งวิกฤตลาม ขณะที่น้ำปิงยังแห้งไม่หยุด ด้านผู้ว่าฯ แพร่ประชุมด่วน เดินหน้ายึดป่าสะเอียบคืนใน 15 วัน พบรุกปลูกข้าวโพดจากพื้นราบยันยอดดอย ส่วนที่เชียงรายฝนมาน้ำหลากทันที
นายบัญชา อรุณเขต ประธานสภาเกษตรกร จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์มีอยู่ 3,220.61 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเท่ากับ 33.87% มีน้ำเหลือใช้ 37.61 ล้าน ลบ.ม. หรือเท่ากับ 5.56% เท่านั้น มีน้ำไหลเข้าอ่าง 2.92 ล้าน ลบ.ม. ทางเขื่อนระบายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคลุ่มน้ำน่าน และผลักดันน้ำเค็ม 17.11 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน หากไม่มีฝนตกเหนือเขื่อนก็ต้องลดระดับปล่อยน้ำ หรือถ้าปล่อยน้ำระดับนี้ก็จะได้อีก 22 วันเท่านั้น ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต
นายบัญชาบอกว่า วิกฤตแล้งนี้เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2554 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2555 เป็นการสั่งระบายน้ำแบบไม่เกิดประโยชน์ต่อการอุปโภคบริโภค เหมือนกับการคว่ำโอ่ง เพียงเพราะคิดว่าหากไม่ระบายน้ำออกจากเขื่อนจะทำให้น้ำท่วมกรุงเทพฯ ซ้ำรอยปี 2554 ซึ่งการระบายน้ำครั้งนั้นเป็นการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดจนเกิดวิกฤตแล้งวันนี้ หากปล่อยไปตามปกติที่ทุกเขื่อนจะรู้และเข้าใจสถานการณ์ต้นทุนน้ำอยู่แล้วจะไม่เกิดปัญหา
ขณะที่แม่น้ำปิงที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนภูมิพล ขณะนี้ยังคงแห้งขอดต่อเนื่อง จนบางจุดสามารถเดินข้ามได้ ทำให้ชาวบ้านที่เลี้ยงปลาทับทิมในกระชังเขต อ.เมือง อ.สารภี อ.หางดง จ.เชียงใหม่ นับร้อยรายได้รับผลกระทบ ต้องย้ายกระชังปลาไปอยู่ในเขตน้ำลึกห่างจากฝั่งกว่า 5 เมตร อีกทั้งปลายังกินอาหารน้อยลงทำให้โตช้า จนต้องขยายเวลาการเลี้ยงออกไปอีกเกือบ 2 เดือน หรือจับขายก่อนกำหนดเพราะกลัวปลาตาย
นางสาวรุ่งทิวา จูเปาะ ชาวบ้านที่เลี้ยงปลาในกระชังแม่น้ำปิง บ้านท่าวังศรี ต.สบแม่ข่า อ.หางดง เปิดเผยว่า ขณะนี้เหลือปลาที่เลี้ยงตั้งแต่ต้นปีอีกประมาณ 1 หมื่นตัว ซึ่งปกติประมาณ 4 เดือนครึ่งก็จับขายได้แล้ว แต่ภัยแล้งน้ำไม่ไหล ทำให้ปลากินอาหารน้อยลง และน้ำเสียง่าย ทำให้ปลาโตช้า ต้องขยายเวลาเลี้ยงออกไปอีกเกือบ 2 เดือน
“ยังดีที่ขายปลาได้ราคาดีกิโลกรัมละ 105 บาท ซึ่งแม่ค้ามารับไปขายต่อ 120 บาท หรือถ้าซื้อเป็นเผาเกลือก็จะขายกันในราคาตัวละ 140 บาท”
ด้านนายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เรียกประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดแพร่ (กอ.รมน.แพร่) เป็นการด่วนที่ห้องประชุมจดหมายเหตุ ศาลากลางจังหวัดแพร่ เมื่อเย็นวานนี้ (7 ก.ค.) เพื่อหารือถึงปัญหาความมั่นคงภายใน การบังคับใช้กฎหมาย การขับเคลื่อนงานปฏิรูปประเทศ รวมถึงการใช้มาตรา 44 เพิ่มประสิทธิภาพข้าราชการ โดยเน้นการแก้ปัญหาภัยแล้ง ตามข้อสั่งการ-ข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี-หัวหน้า คสช.
นายศักดิ์ได้นำภาพพื้นที่ป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่ยม และป่าสงวนแห่งชาติใน ต.สะเอียบ อ.สอง มาเปิดเผยในที่ประชุมเพื่อหาทางทวงคืนผืนป่ารอบที่ 2 หลังได้ดำเนินการรอบแรกใน ต.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย มาแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา
นายศักดิ์กล่าวว่า จากประมาณการพบว่าพื้นที่ป่าในจังหวัดแพร่ถูกทำลายไปกว่า 50,000 ไร่ จาก 3 ล้านไร่ ในจำนวนนี้มีการปลูกยางพารามากถึง 10,000 ไร่ เป็นของกลุ่มทุนใหญ่ 4,000 ไร่ ซึ่งดำเนินการไปแล้วตั้งแต่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ครั้งต่อไปจะดำเนินการที่ ต.สะเอียบ อ.สอง ที่พบว่ามีการบุกรุกมากถึง 4,000 ไร่เศษเช่นกัน มีการทำลายป่าจากพื้นราบยันยอดเขาเพื่อปลูกข้าวโพด ถือเป็นพื้นที่วิกฤต และมีปัญหาหมอกควันมากที่สุดของจังหวัดแพร่
จึงขอกำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการให้สามารถยึดพื้นที่ให้ได้ภายใน 15 วัน โดยในช่วงนี้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในระดับท้องถิ่นขอความร่วมมือกลุ่มรถแทรกเตอร์การเกษตรห้ามเข้าพื้นที่บุกรุกป่าบนภูเขาโดยเด็ดขาด ถ้าฝ่าฝืนจะมีการยึดและจับกุมดำเนินคดี นอกจากนั้นได้เข้าควบคุมร้านจำหน่ายเคมีภัณฑ์ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการปลูกข้าวโพดทั้งหมดแล้ว
ขณะสถานการณ์ภัยแล้งที่ จ.สุโขทัยยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นวงกว้าง นอกจากราษฎร 6 อำเภอได้รับความเดือดร้อนหนัก พื้นที่การเกษตรเสียหายย่อยยับรวมกว่า 9 หมื่นไร่ ล่าสุดยังพบมีฝูงวัวอีกนับหมื่นตัวกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำ อาหาร รวมทั้งฟางอัดก้อนที่มีราคาพุ่งสูงขึ้นเกือบเท่าตัวอีกด้วย
นางละเอียด มั่นเหมาะ อายุ 61 ปี เกษตรกรหมู่ 4 ต.วังน้ำขาว อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย กล่าวว่า อ.บ้านด่านลานหอยซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงวัวแหล่งใหญ่ กำลังเดือดร้อนกันมาก เนื่องจากเผชิญภัยแล้งต่อเนื่องมานานถึง 4 เดือนแล้ว แหล่งน้ำในพื้นที่แห้งขอด หญ้าสดก็ไม่มีให้วัวกิน ต้องซื้อฟางอัดก้อนมาตุนไว้ จากราคาเมื่อเดือนก่อนก้อนละ 23 บาท ตอนนี้ราคาพุ่งเป็น 33-35 บาท แพงขึ้นกว่าเดิม 10 กว่าบาท ต้องให้วัวกินแบบประหยัดจนกว่าฝนจะตกและมีหญ้าขึ้น
นายอำนวย มั่นอ้น อายุ 54 ปี เกษตรกรหมู่ 5 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่านลานหอย กล่าวว่า ตนเลี้ยงวัวไว้ 23 ตัว ตอนนี้ลำบากมากเพราะสระน้ำที่ขุดไว้ทั้งสองแห่งแห้งขอด พอลงทุนเจาะบ่อน้ำก็ไม่ออกอีก ทุ่งหญ้าที่จะพาวัวไปเลี้ยงก็ไม่มี และฟางอัดก้อนที่ซื้อตุนไว้ 500 ก้อนก็หมด คิดจะขายวัวทิ้งตอนนี้ก็ขาดทุน จึงต้อนทนเลี้ยงไปจนกว่าฝนจะตก
ด้านจังหวัดเชียงราย ที่เผชิญกับปัญหาฝนทิ้งช่วงมานานเช่นกัน ได้มีฝนตกหนักบางพื้นที่เมื่อวานนี้ (7 ก.ค.) ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำคำที่ไหลจากดอยสูงเขตดอยหัวแม่คำ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็จ พัดสะพานข้ามแม่น้ำคำพื้นที่บ้านหินแตก ม.1 ต.แม่สลองใน ที่ใช้เป็นทางเบี่ยงที่ใช้สัญจรไปมาระหว่างบ้านหินแตก บ้านเล่าจาง และบ้านอาแหละ ต.แม่สลองใน เสียหายทันที
นายปิยะเดช เชิงพิทักษ์กุล นายก อบต.แม่สลองใน กล่าวว่า สะพานเบี่ยงที่เสียหาย ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนประมาณ 700 ครัวเรือน หรือประมาณ 1,500 คน ต้องหันไปใช้เส้นทางอื่นที่อ้อมไกลจากเดิมเกือบ 2 กิโลเมตร ทาง อบต.แม่สลองใน จึงจะประสานไปยังป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย และเจ้าหน้าที่ทหาร มาช่วยสร้างสะพานข้ามแม่น้ำชั่วคราวโดยเร็ว เพื่อให้นักเรียนหรือคนที่มีความจำเป็น เช่น ผู้ป่วย สามารถข้ามไปมาได้