“คุณชายหมู” แจงเต็มใจรีบกลับไทยมาแก้ปัญหาน้ำท่วม ย้ำไม่ใช่เหตุถูกด่า! วอนรัฐกล้าหนุนงบเพิ่ม

“คุณชายหมู” แจงเหตุไปดูงานเนเธอร์แลนด์ เพราะเทศมนตรีมาเชิญด้วยตัวเอง เชื่อได้ประโยชน์ ยันตัดสินใจกลับประเทศอย่างเร่งด่วน “ไม่ใช่เพราะมีข้อกังขาต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่” แต่กลับมาด้วยความเต็มใจ ยันทราบดีคน กทม. ยังกังวล - จดจำภาพน้ำท่วมใหญ่ ปี 54 ชมหลายพื้นที่ทำงานเร็ว เมื่อเทียบกับสถิติเก่าๆ ยอมรับวันนี้ระบบยังไม่สมบูรณ์แบบ วอน “รัฐบาล”กล้าหนุนงบแก้ปัญหาน้ำท่วมรอบใหม่ “มาร์ค” รับเสียงตำหนิ สั่งอดีต ส.ส./ส.ก. ลงช่วย

วันนี้ (10 มิ.ย. 58) ที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม. เวลา 16.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสัญญา ชีนิมิตร ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามสถานการณ์ฝนตกที่ผ่านมาและการแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ การระบายน้ำ

ผู้ว่าฯ กทม. แถลงภายหลังการประชุม ว่า หลายพื้นที่ทำได้เร็วเมื่อเทียบกับสถิติที่ผ่านมา หากเปรียบเทียบประสิทธิภาพการระบายน้ำเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 58 เกิดฝนตกบริเวณพระราม 4และถนนอโศกมนตรี ปริมาณฝนวัดได้ 63.5 มิลลิเมตร มีน้ำขังรอการระบายและใช้เวลาในการระบายน้ำ 3 ชั่วโมง 25 นาที ส่วนเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ปริมาณฝน 140 มิลลิเมตร ซึ่งปริมาณมากกว่าถึง 2 เท่า แต่ใช้เวลาในการระบาย 4 ชั่วโมง 15 นาที เป็นต้น

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังกล่าวขอบคุณปลัดกรุงเทพมหานคร ข้าราชการ และ ลูกจ้างของกรุงเทพมหานครทุกคนที่ออกปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ฝนตกในคืนวันที่ 7 มิ.ย. และต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 8 มิ.ย. ซึ่งถือว่าแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

“เมื่อผมได้รับทราบรายงานสถานการณ์ฝนและน้ำท่วมกรุงเทพฯ ก็ได้ตัดสินใจกลับกรุงเทพฯ ทันที แต่การกลับมาอย่างเร่งด่วนไม่ใช่เพราะมีข้อกังขาต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่กลับมาด้วยความเต็มใจเพราะทราบดีว่าประชาชนรู้สึกกังวลกับปัญหาน้ำท่วม และยังคงจดจำสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 เป็นอย่างดี”

สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมานั้น เนื่องจากได้รับเชิญจากนายกเทศมนตรีเมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเดินทางมาเชิญอย่างเป็นทางการด้วยตนเอง เพื่อร่วมการประชุมด้านความปลอดภัยของเมือง ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจเช่นเดียวกัน โดยในโอกาสไปประชุมด้านความปลอดภัยตนเองก็ได้ศึกษาดูงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมด้วย เนื่องจากประเทศเนเธอร์แลนด์นับว่าเป็นประเทศที่มีระบบการป้องกันน้ำท่วมที่ดีที่สุดในโลก และตนเองทราบดีว่าปัญหาน้ำท่วมเป็นปัญหาที่อยู่ในใจของประชาชนมาโดยตลอด

“เนเธอร์แลนด์ และ กรุงเทพมหานคร มีลักษณะแตกต่างกัน โดยเนเธอร์แลนด์มีปัญหาจากน้ำทะเลเพียงมิติเดียว มีปริมาณฝนตกเพียง 7 - 10 มิลลิเมตร ขณะที่กรุงเทพฯ มีพื้นที่ต่ำมาก บางแห่งต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง อีกทั้งมีปริมาณฝนมากถึง 140 มิลลิเมตร นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านน้ำทะเลหนุน และน้ำเหนือไหลหลากอีกด้วย”

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูลและรับทราบถึงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นและการแก้ไขปัญหา ซึ่งจากการรับฟังรายงานนั้น กทม. ได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในทิศทางที่ถูกต้อง

“ตั้งแต่ปี 2552 ที่ผมเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อฝนตกหนักบนถนนสายหลักจะพบน้ำท่วมขังหลายเส้นทาง เช่น ถนนศรีนครินทร์ รามคำแหง 2 และ ถนนลาซาล แต่ปัจจุบันเส้นทางดังกล่าวสามารถระบายน้ำได้เร็ว ซึ่งผมเชื่อว่าการพัฒนาระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานครทั้งก่อนหน้านี้และปัจจุบันเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง แม้วันนี้ระบบจะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การแก้ไขปัญหาก็ทำได้เร็วขึ้น จุดอ่อนน้ำท่วมจากเดิม 37 จุด ขณะนี้ลดลงเหลือ 22 จุด และโครงการต่างๆ ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ดี กทม. ได้ของบประมาณในการเดินหน้าป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากรัฐบาลต่อเนื่อง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลชุดใหม่จะให้การสนับสนุน”

ทั้งนี้ กทม. จะพัฒนาระบบเตือนสถานการณ์ฝนก่อนการเดินทาง โดยเพิ่มเรดาร์ตรวจสอบสภาพอากาศซึ่งมีความละเอียดมากขึ้น ในส่วนของการจราจรติดขัดต้องขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะสนับสนุนให้กองทัพเข้าร่วมการช่วยเหลือ

ด้านขยะมูลฝอย ซึ่งหลายฝ่ายกังวลต่อปัญหาดังกล่าวนั้น กทม. จะบูรณาการทำงานทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ทิ้งขยะเป็นที่ “นัดวันทิ้งขยะชิ้นใหญ่” รวมถึงใช้มาตรการทางกฎหมาย “จับปรับผู้ฝ่าฝืนทิ้งขยะในแม่น้ำคูคลอง” เนื่องจากที่ผ่านมา กทม. จัดเก็บขยะในกรุงเทพฯ กว่า 4 แสนตันต่อปี หรือ 1,800 ตันต่อวัน แต่ปัจจุบันเพียงครึ่งปีแรก กทม. สามารถจัดเก็บขยะได้มากถึง 3 แสนตัน โดยหากจำเป็นต้องมีกฎหมายระดับชาติเพื่อการบังคับใช้ก็จะดำเนินการเพื่อควบคุมการทิ้งขยะ รวมถึงบทลงโทษต่างๆ ให้เข้มแข็งขึ้น

ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราพร้อมน้อมรับเสียงตำหนิ ในภาวะที่ประชาชนเดือดร้อน เราต้องหาทางปรับปรุงแก้ไข เช่น จุดที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน

“หากฝนตกเป็นเวลานาน กำลังระบบระบายน้ำที่มีอยู่ อาจจะท่วมขังบ้าง แต่ไม่ควรเกิน 2 - 3 ชั่วโมง ซึ่งบางจุดที่ท่วมขังนานเกินไปก็ต้องไปตรวจสอบสาเหตุว่าคืออะไร และจะต้องมีแนวทางปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ส่วนจะกระทบกับคะแนนเสียงของพรรคหรือไม่ ต้องยอมรับเมื่อปัญหาเกิดขึ้น ประชาชนมีความไม่พอใจ เราก็ต้องยอมรับตามความเป็นจริง ว่าเวลาที่เหลืออยู่ต้องเร่งปรับปรุงการทำงานเท่าที่จะทำได้และอธิบายแนวทางการแก้ไข”

ส่วนพรรคมีการวางแนวทางช่วยเหลือผู้ว่าฯ ให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างไรบ้างนั้น เพราะพรรคถูกโจมตีในเรื่องนี้มาตลอด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ได้พูดคุยกับอดีต ส.ส. กทม. และอดีตสมาชิกสภากรุงเทพ (ส.ก.) ในแต่ละพื้นที่แล้วให้ช่วยเป็นหูเป็นตาได้ ขอให้ทำ และรายงานปัญหาในแต่ละพื้นที่ให้ผู้ว่าฯรับทราบ ตอนนี้เราพยายามคุยเท่าที่คุยได้ เพราะไม่สามารถประชุมพรรคได้ ส่วนสมัยหน้าจะส่งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ลงสมัครต่ออีกหรือไม่นั้น ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ ตอนนี้เรามีหน้าที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆให้ดีที่สุดก่อน