xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กโด่งยอมรับ อ.เซียนพระหักหัวคิว อ้างอุทยานราชภักดิ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน- "บิ๊กป้อม"โบ้ย "บิ๊กโด่ง" ชี้แจงปมทุจริตราชภักดิ์ ปัดตอบ"หยอง" ติดเชื้อในกระแสเลือด ด้าน"บิ๊กโด่ง" ยันบริสุทธิ์ใจในการก่อสร้าง ชี้แจงข้อสงสัยได้ทุกขั้นตอน ยอมรับมีการแอบอ้างหักหัวคิวโรงหล่อจริง แต่เคลียร์แล้ว "บิ๊กต๊อก" ล้อมคอก ! สั่งอธิบดีกรมคุกนำ"อาท" ผู้ต้องหา ม.112 ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกันครหา เตรียมเรียกผู้รับเหมาสอบ “จักรทิพย์” เผย “หมอหยอง” - “สว.เอี๊ยด” เสียชีวิตไม่กระทบสำนวน คืบหน้าเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ "บิ๊กป้อม"ชี้ ปม อุทยานราชภักดิ์ หนังเรื่องยาว

พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีมีการทุจริตในการสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าได้พูดคุยกับพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม มานานแล้ว ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับ พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือ ผู้การโจ้ หรือไม่ ตนไม่ทราบ

"ผมก็ถามเขาไปแล้วว่ามีเรื่องอะไรหรือไม่ เขาก็บอกว่าพร้อมที่จะชี้แจง ให้การสอบสวนทุกอย่างในประเด็นการทุจริต"

ส่วนกองทัพจะทำหน้าที่สอบสวนเองหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ตำรวจคงต้องสอบ เพราะเป็นเรื่องของตำรวจด้วย แต่เรื่องที่เกี่ยวกับระเบียบกองทัพ ก็ว่ามา และต้องชี้แจงให้เกิดความชัดเจน เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสถาบันฯ

เมื่อถามว่า จะโยงไปถึงผู้ที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะทุกอย่างสามารถเปิดเผยให้สังคมรู้ได้ทั้งหมด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสาธารณประโยชน์ของประชาชนที่ร่วมบริจาคเงิน

เมื่อถามถึงกรณีของ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ที่เสียชีวิตด้วยการติดเชื้อในกระแสเลือด พล.อ.ประวิตร ตอบทันทีว่า “ผมไม่เกี่ยว เขาออกมาชี้แจงอย่างละเอียดกันหมดแล้ว แล้วยังจะมาถามอีก" พล.อ.ประวิตร ตัดบท

**"บิ๊กโด่ง"บอกเจตนาการสร้างบริสุทธิ์

ด้าน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ กล่าวถึง การตรวจสอบความผิดปกติในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ว่า เจตนาในการดำเนินการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ตั้งแต่ต้น เป็นเจตนาบริสุทธิ์ มีความตั้งใจดี เพื่อจะให้เป็นประโยชน์ของประเทศชาติ การดำเนินการเป็นไปในรูปแบบของคณะกรรมการ เพราะเป็นโครงการใหญ่ มีคณะกรรมการ มีคณะอำนวยการ ที่มี พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธาน นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคณะอนุกรรมการ ซึ่งทำงานแตกต่างกันออกไป

ดังนั้น ขอยืนยันว่าการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์จริงๆ แต่อาจจะมีบางเรื่อง ที่มีปัญหา แต่คณะทำงานได้พยายามแก้ไขปัญหาต่างๆให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์หมดแล้ว การดำเนินการต่างๆ จนถึงขณะนี้คณะกรรมการ และคณะทำงานทุกชุดพร้อมที่จะชี้แจง หากมีการสอบถามมาจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็พร้อมที่จะชี้แจง ซึ่งความจริงการชี้แจงเป็นสิ่งที่ดี ประชาชนจะได้ทราบในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ข่าวที่ออกมา เท่าที่ตนดูมันออกมาเป็นท่อนๆ แต่ไม่มีท่อนจบ ว่าท่อนจบออกมาด้วยดีอย่างไร และคณะกรรมการเขาทำอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการพร้อมชี้แจง

พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า การดำเนินการในเรื่องนี้สมัยตนเป็น ผบ.ทบ. ส่วนใหญ่เป็นกำลังพลของกองทัพบกที่เข้ามาดำเนินการ และแต่งตั้งลงไป แต่ในส่วนของมูลนิธิฯได้มาจัดตั้งภายหลังในช่วงท้ายของปีงบประมาณ ซึ่งการจัดตั้งมูลนิธิฯ เพื่อแบ่งเบาภาระของกองทัพบก ไม่ให้การทำงานอุทยานฯไปเกี่ยวข้องกับงานอื่นแบบทาบทับกัน จึงจำเป็นต้องตั้งมูลนิธิฯ ขึ้นมา มูลนิธิฯนี้ ผบ.ทบ.เป็นประธานโดยตำแหน่ง ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งเปลี่ยนผ่านมาได้เดือนหนึ่งแล้วจะต้องมอบหมายให้ ผบ.ทบ.คนปัจุบบัน และคนอื่นๆ ในอนาคตต่อไปเข้ามาดำเนินการเป็นประธานมูลนิธิฯ โดยไม่จบสิ้น และจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมารับผิดชอบ ถือเป็นการแบ่งเบาภาระเฉพาะเรื่อง ยกตัวอย่าง เรื่องงบประมาณที่เกิดขึ้น ก็ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยว ควรจะแยกเป็นการเฉพาะสำหรับมูลนิธิฯ ขึ้นมา นี่คือการบริหารงาน แต่ตอนนี้อุทยานฯ ก็ถือว่าดำเนินการมาเสร็จสิ้นส่วนหนึ่ง ประชาชนมีความศรัทธา บูชากราบไหว้ ตนก็มีความดีใจ ที่เป็นสมบัติของชาติที่มีความสำคัญ

ส่วนงานที่เหลือตั้งใจว่าจะให้คณะกรรมการที่มีการจัดตั้งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เป็นคนดำเนินการ แต่เท่าที่ดูงานที่เหลือก็ไม่น้อย ทั้งเรื่องการบริหารจัดการ หรือการควบคุมงานต่างๆ ต้องมีหน่วยใหญ่ที่มีศักยภาพเข้ามาดำเนินการ จึงอยากให้คณะกรรมการชุดปัจจุบันที่มีกองทัพบกดูแล เป็นคนเข้ามาดูแลเรื่องนี้ ซึ่งได้มีการพูดคุยกันแล้วระดับหนึ่งว่าจะให้ ผบ.ทบ.ไปแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาบริหารงานต่อไป โดยงานที่เหลือยังมีห้องประวัติศาสตร์ หัวใจสำคัญที่จะให้ประชาชน และต่างชาติได้เข้ามาศึกษา เรื่องของห้องน้ำ ห้องสุขา ขนาดใหญ่ เพื่อรองรับคนจำนวนมาก 160-200 ห้อง อาคารมูลนิธิฯ ซึ่งยังไม่มี เหล่านี้เป็นต้น ดูแล้วศักยภาพต้องเป็นกองทัพบกเท่านั้น ขอเรียนว่า สิ่งต่างๆ ได้เกิดจากความตั้งใจดี สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสมบัติของชาติ ถาวรวัตถุต่างๆ นั้นยังตั้งอยู่ในพื้นที่ของกองทัพบก ตามนิตินัยกองทัพบกยังเป็นเจ้าของ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมา เป็นการช่วยเหลือ และสมัครใจบริจาคของประชาชน เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เป็นสมบัติของชาติด้วย ก็ขอให้สบายใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นเรื่องเงินบริจาคกับ พ.อ.คชาชาต บุญดี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันฯ ที่ถูกพาดพิงจะชี้แจงอย่างไร พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนไม่ขอลงรายละเอียด แต่เรื่องเงินบริจาคทั้งหมด เรามีเจ้ากรมการเงินทหารบก เป็นผู้รับผิดชอบในการทำหลักฐาน และรายละเอียดต่างๆ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่า เงินเข้า-ออก จำนวนเท่าไร และใครเป็นคนบริจาค เรื่องนี้คณะกรรมการสามารถตรวจสอบ และชี้แจงได้ทั้งหมด

**ยอมรับมีการงาบหัวคิวโรงหล่อ

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า มีเซียนพระชื่อดัง "อ." ไปไล่เก็บหัวคิวจากโรงหล่อ ตรงนี้ได้มีการแก้ไขปัญหาอย่างไร พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เรื่องนี้มีความจริงอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะตนคิดว่า ทุกวงการก็มีสิ่งเหล่านี้ แต่พอเราทราบว่าน่าจะมี เราก็เข้าไปดำเนินการ โรงหล่อต่างๆก็มีความเข้าใจ คนที่สอดแทรกมาก็เป็นการแอบอ้าง แต่ทุกอย่างยุติลงด้วยดี สิ่งที่โรงหล่อต่างๆ อาจจะถูกหลอก โรงหล่อต่างๆเองก็ไม่อยากให้เกิดอะไรเสียหาย เขาจึงมีการบริจาคโดยสมัครใจส่วนหนึ่ง อีกบางส่วนโรงหล่อก็นำไปใช้ในการทำองค์พระให้สมบูรณ์ ทุกอย่างจบ เสร็จด้วยความเรียบร้อย สะอาด บริสุทธิ์ทุกขั้นตอน

เมื่อถามว่า ทั้งหมดของเงินบริจาคที่ถูกหักหัวคิวไป ทางโรงหล่อได้นำกลับมาบริจาคให้กับกองทัพ ใช่หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเช่นนั้น ตนไม่รู้ในรายละเอียด แต่ชี้แจงได้หมดแน่นอน เป็นเรื่องของคณะทำงานแต่ละคณะ ส่วนเงินเป็นเรื่องของเหรัญญิก ซึ่งเจ้ากรมการเงินทหารบกสามารถชี้แจงได้ จะบริจาคเท่าไร และอย่างไร เจ้าหน้าที่สามารถชี้แจงได้ ขอให้มั่นใจ ซึ่งตนมั่นใจว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งบริสุทธิ์ และประชาชนยังมีโอกาสที่จะช่วยกันสร้างสรรค์ต่อไป

"ขอเรียนว่าคนที่ไม่เข้าใจ ก็ขอให้ได้เข้าใจ อาจมีผู้ไม่ปรารถนาดีด้วยสิ่งใดก็ตาม ขอให้หยุดเถอะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องศรัทธาของคน ให้ประชาชนได้มีความศรัทธา ผมมั่นใจในสิ่งบริสุทธิ์เหล่านี้ และเรื่องนี้ผมไม่หนักใจ เพราะมันชี้แจงได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ก็แปลกดี ตั้งแต่ช่วงหนึ่งแล้วมีอะไรออกมา แต่พอมีอีกเหตุการณ์ออกมาเป็นสถานการณ์หลัก ณ ช่วงเวลานี้ เรื่องนี้ก็ถูกหยิบกลับมาโยงเข้าไปอีก ยืนยันเรื่องนี้ตรวจสอบได้ ไม่หนักใจใดๆ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องของความบริสุทธิ์" พล.อ.อุดมเดช กล่าว

**ไม่อยากพูดถึง"ผู้การโจ้"

เมื่อถามถึง พ.อ.คชาชาต ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า อย่าไปพูดถึงเขาเลย อันนั้นให้เป็นเรื่องของการสอบสวนไป

**ทภ.3 ชงเรื่องปลด"ผู้การโจ้"

รายงานจากกองทัพบกแจ้งถึงความคืบหน้าภายหลังที่ พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนกรณี พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือ ผู้การโจ้ ฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 3 ขาดราชการตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า ไม่ต้องรอให้ครบกำหนดการขาดราชการ 15 วัน เนื่องจากศาลทหารกรุงเทพได้ออกหมายจับ พ.อ.คชาชาต ความคิดม.112 แล้ว ทางคณะกรรมการฯ จะเสนอเรื่องให้ปลด พ.อ.คชาชาต ออกจากราชการ ให้กองทัพภาคที่ 3 เพื่อเสนอต่อ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ภายในวันนี้ (10 พ.ย.) จากนั้น จะดำเนินการเสนอถอดยศตามขั้นตอนต่อไป

** สั่งนำ"อาท"ไปตรวจร่างกาย

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการเสียชีวิตของผู้ต้องหา มาตรา 112 ประกอบด้วย พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ "สารวัตรเอี๊ยด" ที่ผูกคอตาย และ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ "หมอหยอง" ที่เสียชีวิตด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ขณะที่ทั้งคู่ถูกคุมขังที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรีว่า ตนได้สั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นำนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ“อาท ขัตเตอร์มหาเทพ”ผู้ต้องหาที่เหลือเพียงรายเดียว ไปตรวจร่างกาย เพื่อดูว่าป่วยเป็นโรคอะไร หรือไม่ แต่ในกรมราชทัณฑ์ ซึ่ง 3 แสนกว่าราย ที่อยู่ในเรือนจำ ก็เสียชีวิตแบบนี้ ทั้งการผูกคอตาย และจากโรคประจำตัว ก็มีมาตลอด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการติดตามนายทหารยศ พ.อ. ที่หนีไปยังเมียนมา หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องนี้ ตนดูเฉพาะกรณีมีการส่งผู้ต้องหามาฝากขัง กรมราชทัณฑ์ มีหน้าที่ต่อจากศาล เมื่อศาลสั่งก็ฝากขังไว้ในขณะที่คดียังไม่เด็ดขาด บอกสื่อหลายครั้งแล้วต้องเคารพคนที่มีชื่อในกระแสข่าว แต่หากมันชัดเจนแล้วค่อยลงเสนอข่าว

**"บิ๊กป้อม"ชี้ ปม อุทยานราชภักดิ์ หนังเรื่องยาว

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังประชุม ครม. ถึงกรณี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีต ผบ.ทบ. ระบุมีการหักหัวคิวการดำเนินการโครงการอุทยานราชภักดิ์ และมีการเคลียร์กันแล้วว่า ตนไม่รู้ คงต้องรอให้ชัดเจนก่อน ถ้ามาตอบตอนนี้จะกลายเป็นว่า เรื่องไม่เป็นเรื่อง คล้ายๆ ว่าเรื่องเป็นหนังยาว ถ้ามาพูดตอนนี้ก็เหมือนเป็นการตัดตอน ต้องดูที่ว่าเริ่มต้น และจบยังไง

เมื่อถามว่า สุดท้ายกองทัพจะกลายเป็นเป้าโจมตีในเรื่องการปล่อยปะละเลยให้มีการทุจริต ตามมาตรา 157 หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ต้องให้การสอบสวนออกมาก่อน อย่าเพิ่งไปยาว ถ้าคิดไปข้างหน้ามากๆ และยืนยันว่าไม่มีแน่นอน จะไปปกป้องใคร ไม่ต้องห่วง ว่ากันไปตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ จะมีการเรียกผู้รับเหมาโครงการอุทยานราชภักดิ์ มาสอบถามถึงเรื่องการก่อสร้าง

***ทบ.เผยมูลนิธิฯ -กก.พร้อมให้ตรวจสอบ

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีอุทยานราชภักดิ์ ว่า เป็นการดำเนินการโดยมีคณะกรรมการแต่ละส่วนมาบริหารจัดการ มีลักษณะเป็นนิติบุคคล ภายใต้มูลนิธิฯ โดยมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เป็นประธานฯและประธานมูลนิธิ ซึ่งกรณีมีข้อสงสัย หรือข้อกังวลในเรื่องเกี่ยวข้อง เชื่อว่าทางคณะกรรมการที่รับผิดชอบดำเนินงานในแต่ละส่วน จะมีข้อมูล และข้อเท็จจริงต่างๆ ที่สามารถชี้แจงกับสังคมได้ และจากที่ติดตามข่าวสารจากคณะทำงานล่าสุด ก็ยังไม่มีการแจ้งขอทราบข้อมูลใดๆ หรือการร้องเรียน ร้องทุกข์ใดๆ มีเพียงข้อมูลจากที่สื่อนำเสนอ โดยมีที่มาจากแหล่งข่าว ที่ระบุไม่ชัดเจน

***ผบ.ตร.เผยคดีหมิ่นฯสำนวนเกือบ 100 %

วานนี้ (10 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีแอบอ้างสถาบัน โดยมี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท. รอง ผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวน และ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. หัวหน้าพนักงานสืบสวน ร่วมประชุม

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเร่งรัดในคดีการแอบอ้างสถาบันฯ เรียกรับผลประโยชน์ในส่วนของ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ เลขานุการส่งนตัวนายสุริยัน และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา อดีต สว.กก.1 บก.ปอท. ซึ่งเป็นไปตามที่ตนได้กำหนดเวลาเอาไว้ภายใน 3 สัปดาห์ ต้องมารายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีและส่งสำนวนมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย. นี้ จึงได้มีการเรียกมาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้า

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ขณะนี้สำนวนการสอบสวนมีความคืบหน้าไปแล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือเพียงรายละเอียดทางด้านเอกสารเท่านั้น นอกนั้นก็ครบถ้วนหมดแล้ว และจะมีการสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้ในเร็ว ๆ นี้

เมื่อถามว่า นอกจากคดีตามความผิดฐานหมิ่นสถาบันฯ แล้วจะมีการขยายผลเพิ่มเติมไปยังกรณีอื่น ๆ ทีเกี่ยวข้อง เช่น กรณีการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงการดำเนินคดีในส่วนของการแอบอ้างสถาบันฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น