“อุดมเดช” แจงอุทยานราชภักดิ์ สะอาด บริสุทธ์ทุกขั้นตอน ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจและบริสุทธ์ใจ ชี้แจงได้ แต่ยอมรับมีการแอบอ้างหักหัวคิวโรงหล่อจริง แต่จัดการแล้ว กังขาทำไมหยิบยกขึ้นมาสร้างประเด็นอีก ไม่ขอพูดถึง “พ.อ.คชาชาต” ให้เป็นเรื่องการสอบสวน
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ กล่าวถึงการตรวจสอบความผิดปกติในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ว่า เจตนาในการดำเนินการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ตั้งแต่ต้นเป็นเจตนาบริสุทธิ์ มีความตั้งใจดี เพื่อจะให้เป็นประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป การดำเนินการเป็นไปในรูปแบบของคณะกรรมการเพราะเป็นโครงการใหญ่ มีคณะกรรมการ มีคณะอำนวยการที่มี พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการเป็นประธาน
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคณะอนุกรรมการซึ่งทำงานแตกต่างกันออกไป ดังนั้น ตนขอยืนยันว่าการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์จริงๆ แต่อาจจะมีบางเรื่องราวที่มีปัญหา แต่คณะทำงานได้พยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์หมดแล้ว การดำเนินการต่างๆ จนถึงขณะนี้คณะกรรมการและคณะทำงานทุกชุดพร้อมที่จะชี้แจง หากมีการสอบถามมาจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็มีความพร้อมที่จะชี้แจง ซึ่งความจริงการชี้แจงเป็นสิ่งที่ดีที่ประชาชนจะได้ทราบในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ข่าวที่ออกมาเท่าที่ตนดูมันออกมาเป็นท่อนๆ แต่ไม่มีท่อนจบว่าท่อนจบออกมาด้วยดีอย่างไรและคณะกรรมการเขาทำอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการพร้อมชี้แจง
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ขอเรียนว่าการดำเนินการในเรื่องนี้สมัยตนเป็นผบ.ทบ. ส่วนใหญ่เป็นกำลังพลของกองทัพบกที่เข้ามาดำเนินการและแต่งตั้งลงไป แต่ในส่วนของมูลนิธิฯได้มาจัดตั้งภายหลังในช่วงท้ายของปีงบประมาณ ซึ่งการจัดตั้งมูลนิธิฯเพื่อแบ่งเบาภาระของกองทัพบก ไม่ให้การทำงานอุทยานฯไปเกี่ยวข้องกับงานอื่นแบบทาบทับกัน จึงจำเป็นต้องตั้งมูลนิธิฯขึ้นมา มูลนิธิฯนี้ ผบ.ทบ.เป็นประธานโดยตำแหน่ง ในช่วงเปลี่ยนผ่านซึ่งเปลี่ยนผ่านมาได้เดือนหนึ่งแล้วจะต้องมอบหมายให้ ผบ.ทบ.คนปัจุบบันและคนอื่นๆ ในอนาคตต่อไปเข้ามาดำเนินการเป็นประธานมูลนิธิฯโดยไม่จบสิ้น และจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมารับผิดชอบ ถือเป็นการแบ่งเบาภาระเฉพาะเรื่อง
“ยกตัวอย่างเรื่องงบประมาณที่เกิดขึ้นก็ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยว ควรจะแยกเป็นการเฉพาะสำหรับมูลนิธิฯขึ้นมา นี่คือการบริหารงาน แต่ตอนนี้อุทยานฯก็ถือว่าดำเนินการมาเสร็จสิ้นส่วนหนึ่ง ประชาชนมีความศรัทธา บูชากราบไหว้ ตนก็มีความดีใจที่เป็นสมบัติของชาติที่มีความสำคัญ”
รมช.กลาโหม กล่าวว่า ส่วนงานที่เหลือตั้งใจว่าจะให้คณะกรรมการที่มีการจัดตั้งเมื่อปลายปีที่ผ่านมาเป็นคนดำเนินการ แต่เท่าที่ดูงานที่เหลือก็ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการหรือการควบคุมงานต่างๆ ต้องมีหน่วยใหญ่ที่มีศักยภาพเข้ามาดำเนินการ จึงอยากให้คณะกรรมการชุดปัจจุบันที่มีกองทัพบกดูแลเป็นคนเข้ามาดูแลเรื่องนี้ ซึ่งได้มีการพูดคุยกันแล้วระดับหนึ่งว่าจะให้ ผบ.ทบ.ไปแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาบริหารงานต่อไป โดยงานที่เหลือยังมีห้องประวัติศาสตร์หัวใจสำคัญที่จะให้ประชาชนและต่างชาติได้เข้ามาศึกษา เรื่องของห้องน้ำ ห้องสุขาขนาดใหญ่ เพื่อรองรับคนจำนวนมาก 160 - 200 ห้อง อาคารมูลนิธิฯซึ่งยังไม่มี เหล่านี้เป็นต้น ดูแล้วศักยภาพต้องเป็นกองทัพบกเท่านั้น
“ขอเรียนว่าสิ่งต่างๆ ได้เกิดจากความตั้งใจดี สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสมบัติของชาติ ถาวรวัตถุต่างๆ นั้นยังตั้งอยู่ในพื้นที่ของกองทัพบก ตามนิตินัยกองทัพบกยังเป็นเจ้าของ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาเป็นการช่วยเหลือและสมัครใจบริจาคของประชาชน เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เป็นสมบัติของชาติด้วย ก็ขอให้สบายใจ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นเรื่องเงินบริจาคกับ พ.อ.คชาชาต บุญดี ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันที่ถูกพาดพิงจะชี้แจงอย่างไร พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนไม่ขอลงรายละเอียดมากนัก แต่เรื่องเงินบริจาคทั้งหมดเรามีเจ้ากรมการเงินทหารบกเป็นผู้รับผิดชอบในการทำหลักฐานและรายละเอียดต่างๆ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่าเงินเข้า-ออกจำนวนเท่าไรและใครเป็นคนบริจาค เรื่องนี้คณะกรรมการสามารถตรวจสอบและชี้แจงได้ทั้งหมด
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า มีเซียนพระคนหนึ่งไปไล่เก็บหัวคิวจากโรงหล่อ ตรงนี้ได้มีการแก้ไขปัญหาอย่างไร พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เรื่องนี้มีส่วนความจริงอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะตนคิดว่าทุกวงการก็มีสิ่งเหล่านี้ แต่พอเราทราบว่าน่าจะมีเราก็เข้าไปดำเนินการ โรงหล่อต่างๆ ก็มีความเข้าใจ คนที่สอดแทรกมาก็เป็นการแอบอ้าง แต่ทุกอย่างยุติลงด้วยดี สิ่งที่โรงหล่อต่างๆ อาจจะถูกหลอก โรงหล่อต่างๆ เองก็ไม่อยากให้เกิดอะไรเสียหาย เขาจึงมีการบริจาคโดยสมัครใจส่วนหนึ่ง อีกบางส่วนโรงหล่อก็นำไปใช้ในการทำองค์พระให้สมบูรณ์ ทุกอย่างจบเสร็จด้วยความเรียบร้อย สะอาด บริสุทธิ์ทุกขั้นตอน
ต่อข้อถามว่า ทั้งหมดของเงินบริจาคที่ถูกหักหัวคิวไป ทางโรงหล่อได้นำกลับมาบริจาคให้กับกองทัพใช่หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเช่นนั้น ตนไม่รู้ในรายละเอียดจริงจังแต่ชี้แจงได้หมดแน่นอน เป็นเรื่องของคณะทำงานแต่ละคณะ ส่วนเงินเป็นเรื่องของเหรัญญิก ซึ่งเจ้ากรมการเงินทหารบกสามารถชี้แจงได้ จะบริจาคเท่าไรและอย่างไร เจ้าหน้าที่สามารถชี้แจงได้หมด ขอให้มั่นใจ ซึ่งตนมั่นใจว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งบริสุทธิ์ และประชาชนยังมีโอกาสที่จะช่วยกันสร้างสรรค์ต่อไป
“ขอเรียนว่า คนที่ไม่เข้าใจก็ขอให้ได้เข้าใจ อาจมีผู้ไม่ปรารถนาดีด้วยสิ่งใดก็ตามขอให้หยุดเถอะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องศรัทธาของคน ให้ประชาชนได้มีความศรัทธา ผมมั่นใจในสิ่งบริสุทธิ์เหล่านี้ และเรื่องนี้ผมไม่หนักใจ เพราะมันชี้แจงได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ก็แปลกดี ตั้งแต่ช่วงหนึ่งแล้วมีอะไรออกมา แต่พอมีอีกเหตุการณ์ออกมาเป็นสถานการณ์หลัก ณ ช่วงเวลานี้เรื่องนี้ก็ถูกหยิบกลับมาโยงเข้าไปอีก ยืนยันเรื่องนี้ตรวจสอบได้ ไม่หนักใจใดๆ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องของความบริสุทธิ์”พล.อ.อุดมเดช กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.อ.คชาชาต ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า อย่าไปพูดถึงเขาเลย อันนั้นให้เป็นเรื่องของการสอบสวนไป และเรื่องนี้ไม่กระทบต่อการทำงานของตน คณะกรรมการทุกคนพร้อมชี้แจง ยืนยันว่าทุกอย่างทำด้วยความตั้งใจดี บริสุทธิ์ใจ และอยากให้สิ่งนี้อยู่คู่บ้านคู่เมืองต่อไป และผู้หลักผู้ใหญ่ก็ให้การสนับสนุนทั้งสิ้น เมื่อมีอุบัติเหตุขึ้นมาบางคนอาจสงสัยก็ต้องชี้แจง