xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.เผยคดีหมิ่นสถาบันฯ สำนวนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ย้ำผู้ต้องหาเสียชีวิตไม่ส่งผลต่อการสอบสวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “จักรทิพย์” เผย “หมอหยอง” - “สว.เอี๊ยด” เสียชีวิตไม่กระทบสำนวน คืบหน้าเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการออกหมายจับ “เสธ.โจ้” ที่คาดว่าหลบหนีออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตาม ด้าน “ศรีวราห์” ลั่นคำให้การของผู้ต้องหาไม่มีผลต่อรูปคดี ส่วนออกหมายจับเพิ่มเติมยังไม่มีแต่ถ้ามีหลักฐานถึงใครจับหมด

วันนี้ (10 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดีแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงหาผลประโยชน์ความผิดตามมาตรา 112 โดยมี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท. รอง ผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวน และ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. หัวหน้าพนักงานสืบสวน ร่วมประชุม

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า วันนี้เป็นการประชุมเร่งรัดในคดีการแอบอ้างสถาบันฯ เรียกรับผลประโยชน์ในส่วนของ นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ หมอหยอง นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ เลขานุการส่งนตัวนายสุริยัน และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา อดีต สว.กก.1 บก.ปอท. ซึ่งเป็นไปตามที่ตนได้กำหนดเวลาเอาไว้ภายใน 3 สัปดาห์ ต้องมารายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีและส่งสำนวนมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะครบกำหนดในวันที่ 12 พ.ย. นี้ จึงได้มีการเรียกมาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้า

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.ปรากรม และ นายสุริยัน ผู้ต้องหาในขบวนการแอบอ้างสถาบันฯ หาผลประโยชน์ ซึ่งเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่มีปัญหาต่อการสืบสวนสอบสวนทางคดีแต่อย่างใด ไม่ต้องกังวล

ถามว่า เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้ต้องหาที่เสียชีวิตเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่ และมีการซัดทอดถึงใครหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาไปหมดแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่ตามที่ตนเคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่าคำให้การของผู้ต้องหาตามกฎหมายนั้น ไม่สามารถรับฟังได้ คือ ใช้ประโยชน์ไม่ได้อยู่แล้ว เช่น หากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพก็ถือเป็นประโยชน์ต่อตัวเขาเอง หากผู้ต้องหาปฏิเสธก็เป็นโทษแก่ตัวเขาเองทั้งนั้น

เมื่อถามว่าคำให้การของผู้ต้องหานั้นมีน้ำหนักหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า มีอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นศาลคงไม่สามารถออกหมายจับให้แน่นอน ส่วนจะมีการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้เพิ่มเติมอีกหรือไม่ รรท. รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่มี มีเท่าที่รายงานให้กับ ผบ.ตร. รับทราบไปเท่านั้น

ถามอีกว่า ก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า จะออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 4 คน พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องในสำนวน ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่าหากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกราย ซึ่งเรื่องนี้ ผบ.ตร. ได้กำชับเอาไว้แล้วว่าให้ดำเนินการทุกกรณี

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ขณะนี้สำนวนการสอบสวนมีความคืบหน้าไปแล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือเพียงรายละเอียดทางด้านเอกสารเท่านั้น นอกนั้นก็ครบถ้วนหมดแล้ว และจะมีการสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้ในเร็ว ๆ นี้

เมื่อถามว่า นอกจากคดีตามความผิดฐานหมิ่นสถาบันฯ แล้วจะมีการขยายผลเพิ่มเติมไปยังกรณีอื่น ๆ ทีเกี่ยวข้อง เช่น กรณีการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงการดำเนินคดีในส่วนของการแอบอ้างสถาบันฯหาผลประโยชน์ของผู้ต้องหาในชุดแรกเท่านั้น ยังไม่ได้ขยายผลไปถึงส่วนอื่นแต่อย่างใด

ส่วนกรณีการออกหมายจับ พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือ เสธ.โจ้ นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 3 (ฝสธ.ทภ.3) พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ทางพนักงานสอบสวนเพิ่งจะได้รับคดีมาเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมานี้เอง จึงต้องรอการตรวจสอบขยายผลต่อไป

เมื่อถามว่าตำรวจพบเบาะแส พ.อ.คชาชาต ว่า หลบหนีไปประเทศใด แล้วหรือยัง และจะต้องมีการตั้งชุดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า กำลังเจ้าหน้าที่ชุดเดิมที่มีอยู่น่าจะเพียงพออยู่แล้ว แต่ถ้าหากไม่พอทาง พล.ต.ท.ศรีวราห์ คงร้องขอมาเพิ่มเติม ส่วนกรณีผู้ต้องหาที่หลบหนีออกไปต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น