ผมเขียนบทความนี้ที่ชานเมืองปารีส ฝรั่งเศส หลังจากท่องเที่ยวลัดเลาะมาจากอิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และเยอรมนี โดยทางรถบัส รถไฟหลายต่อหลายทอด เพื่อชาร์ตแบตเตอรี่ให้ตัวตนที่เริ่มจะอ่อนกำลังทุกทีกับสภาวะบ้านเมืองที่ยังปฏิรูปไม่ได้ดังใจยุโรป ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว บรรยากาศแปลกตา สวยงามไปอีกแบบ อากาศเย็นสบาย บางวันก็ได้สัมผัสความหนาวเย็นยะเยือกพอได้ห่อหุ้มด้วยเครื่องกันหนาวที่ตระเตรียมไปมากมาย
ที่เมืองปารีส ฝรั่งเศส ทำให้ผมอดย้อนเวลาไปหาอดีต คิดไปถึงก่อนปี พ.ศ. 2475 ที่นักเรียนไทยหัวก้าวหน้ากลุ่มหนึ่งในฝรั่งเศส รวมตัวรวมความคิดกันจนก่อให้เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตย ซึ่งก็น่าเสียดายที่ผ่านมา 83 ปี ประเทศไทยยังไม่เคยมีประชาธิปไตยที่แท้จริงเลย
การเมืองการปกครองวนเวียนอยู่ในวังวนที่เรียกกันว่า วงจรอุบาทว์ เพราะเรามีการเมืองที่มีระบบอุปถัมภ์เป็นพื้นฐาน และอิงกับผลประโยชน์ การคอร์รัปชัน ฉ้อราษฎร์บังหลวง ที่ขัดแย้งกับจิตวิญญาณ เสรีประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง
การเมืองการปกครองไทยจึงสลับสับเปลี่ยนระหว่างการเลือกตั้งกับการรัฐประหารมาโดยตลอด และตราบใดที่เรายังไม่สามารถหลุดพ้นจากวงจรระบบอุปถัมภ์ ยังไม่สามารถปฏิรูประบบการศึกษา เพื่อสร้างพื้นฐานทางปัญญาแก่ประชาชนพลเมือง ให้มีจิตวิญญาณประชาธิปไตยอย่างมั่นคงแข็งแรง ตราบนั้นก็คงหวังได้ยากที่จะมีการเมืองการปกครองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ต่อให้ร่างรัฐธรรมนูญได้วิลิศมาหราหรือวิจิตรพิสดารอย่างไร ก็ยากที่จะปรับเปลี่ยนทัศนะอันเป็นกลไกพื้นฐานของการเลือกตั้งได้เลย
ผมนั่งเรือล่องแม่น้ำแซนน์ ชมเมืองปารีส แล้วก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ซึ่งก็อดคิดถึงการเมืองไทยด้วยความวิเวกวังเวง ก่อนมาจากเมืองไทย ผมเขียนบทกวี “บ้านเรา” ด้วยความรู้สึกหมองหม่นในใจ
“บ้านเรา”
มีเรื่องราวมากมายในบ้านนี้
มีทั้งเรื่องดีดีเรื่องเลวร้าย
เราก็ยังอยู่กันสบายสบาย
อยู่กันแบบสมายด์ไทยแลนด์
มีขัดแย้งแบ่งข้างทางความคิด
มีคิดถูกคิดผิดคิดโลดแล่น
มีคิดแปร่งคิดแปลกแยกดินแดน
มีคิดเคียดคิดแค้นคิดคนละทาง
มีคิดล้มคิดล้างสถาบัน
มีคิดห้ำคิดหั่นคิดงัดง้าง
มีคิดสูงคิดต่ำคิดอำพราง
มีระโยงระยางอยู่ยืดเยื้อ
ก็อยู่อยู่กันไปแบบไทยแท้
มีชักช้าเชือนแชมีเชื่องเชื่อ
มีปฏิวัติมีปฏิรูปแบบเรือเกลือ
มีรัฐธรรมนูญพร่ำเพรื่อพิธีการ
มีเรื่องราวมากมายในบ้านนี้
มีเรื่องร้ายเรื่องดีอยู่ในบ้าน
เรายังอยู่อย่างสนุกสุขสำราญ
อยู่รอด่าน การเลือกตั้ง ครั้งต่อไป
ว.แหวนลงยา