xs
xsm
sm
md
lg

น้องอาร์ม....ความสูญเสียที่ไม่ทันตั้งตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น้องอาร์ม ในวัย 12 ปี
สิ่งที่ได้จากการเป็นสัตวแพทย์ (แบบคาดไม่ถึง) คือ การได้เรียนรู้ความจริง ของชีวิตอยู่เสมอ ตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย ความสุข ความทุกข์ การพลัดพราก แม้จะได้เรียนรู้อยู่เสมอ แต่เมื่อเกิดขึ้นกับตัวเอง ก็พบว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะทำใจ และปล่อยวางกับความสูญเสีย ที่ไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อน

โดยทั่วไปน้องหมาอายุตั้งแต่ 1-6 ปี แนะนำให้ตรวจเลือดปีละครั้ง แม้ไม่มีอาการผิดปกติ แต่เพื่อให้มีผลเลือดปกติของตัวเองไว้เปรียบเทียบ เพราะค่าปกติของเลือด จะบอกไว้เป็นช่วง (range) เช่น เม็ดเลือดแดงในน้องหมา จะอยู่ที่ประมาณ 5.5-8.5 (x106cells/µl) ดังนั้นคำว่าปกติ ของแต่ละตัว อาจจะไม่เท่ากัน และการเปรียบเทียบจากค่าเลือดของตัวเอง จะบอกได้ดีกว่า การตรวจเพียงครั้งเดียวเมื่อป่วยแล้ว

นอกจากนี้ โรคบางอย่าง หากตรวจพบเร็ว และรีบแก้ไขจะช่วยได้มาก เช่น โรคไต หากตรวจพบหลังแสดงอาการ (เบื่ออาหาร อาเจียน กินน้ำมาก ฉี่มาก) มักหมายถึงว่าไตเกิดความเสียหายไปแล้ว ประมาณ 75% ทำให้รักษาได้ยาก หรืออาจถึงตาย แต่หากตรวจพบว่า ค่าเคมีในเลือด ที่เกี่ยวกับการทำงานของไต มีค่าสูงกว่าปกติ โดยยังไม่แสดงอาการผิดปกติ สามารถแก้ไขได้ตั้งแต่การปรับอาหาร ให้ยา และให้น้ำเกลือ ก็สามารถช่วยให้ค่าไต กลับมาอยู่ในระดับปกติได้ (ขึ้นอยู่กับชนิด และความรุนแรงของโรค) และเมื่ออายุ 7 ปีขึ้นไป เริ่มจัดเป็นผู้สูงวัย แนะนำให้ตรวจเลือดทุก 6 เดือน หากทำได้

ความสูญเสียที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น เมื่อน้องอาร์ม Beagle วัย 13 ปี ของบ้าน จากไปอย่างกะทันหัน หลังการตรวจสุขภาพอย่างละเอียด เพียง 1 เดือน

อาร์ม เสียชีวิต เพราะก้อนเนื้อที่ม้ามแตก ทำให้มีเลือดออกในช่องท้อง เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก และไม่มีสัญญาณเตือนใดๆทั้งสิ้น หมอได้รับโทรศัพท์จากแม่บ้านว่า เรียกมากินข้าวแล้วอาร์มไม่มา ทั้งที่เพิ่งวิ่งผ่านหน้าไปเมื่อกี้ ซึ่งปกติอาร์มกินเก่งมาก และตอบสนองต่อเสียงเรียก "กินข้าว" ทุกครั้ง จึงเดินไปตาม พบอาร์มนอนหมดสติ ขณะนี้อยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้าน ฟื้นดีแล้ว และนั่งกินขนมอยู่

ตอนนั้นหมอคิดว่า น่าจะเกิดจากโรคหัวใจ เพราะเพิ่งตรวจสุขภาพอย่างละเอียด ทั้งตรวจเลือด และอุลตร้าซาวน์ ไม่พบความผิดปกติ จึงแจ้งผลการตรวจกับคุณหมอเจ้าของไข้ และขอให้เพิ่มการตรวจ เกี่ยวกับโรคหัวใจเป็นพิเศษ ระหว่างเดินทางกลับจากที่ทำงานไปรับอาร์ม ได้รับโทรศัพท์จากหมอเจ้าของไข้แจ้งว่า อาร์ม ช็อคไปอีกครั้ง และดูซีดมาก คิดว่าคงไม่ใช่โรคหัวใจ จึงอุลตร้าซาวน์ช่องท้อง พบเลือดออกในช่องท้อง เนื่องจากเกิดการฉีกขาดของก้อนเนื้อบริเวณม้าม จำเป็นต้องได้รับเลือด และผ่าตัดโดยด่วน

หมอทำอะไรไม่ถูกเลย จำไม่ได้ว่าขับรถด้วยความเร็วเท่าไหร่ ปาดหน้ารถไปกี่คัน รู้แต่ว่าต้องรีบไปถึงให้เร็วที่สุด ในหัวก็คิดแต่ว่า จะหาเลือดได้จากที่ไหน เพราะรู้ว่าเลือดสำรองของสุนัขมีน้อยมาก ด้วยเหตุผลที่คุณสมบัติเบื้องต้น ของน้องหมาที่จะเป็นตัวให้เลือดได้นั้น จะต้องมีน้ำหนัก 20 กิโลกรัมขึ้นไป อายุ 1-6 ปี หากเป็นน้องหมาเพศเมีย จะต้องไม่อยู่ในช่วงเป็นสัด ให้นมลูก หรือเคยแท้งลูกในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีประวัติวัคซีนครบ ป้องกันพยาธิหนอนหัวใจสม่ำเสมอ และไม่เคยป่วยเป็นโรคพยาธิเม็ดเลือด (ข้อนี้แหละที่ยากมาก) ไม่เคยเป็นโรคติดต่อทางเลือด หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบเลือด

เมื่อผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นเหล่านี้ ยังต้องตรวจเลือด เพื่อยืนยันว่าน้องหมาตัวให้เลือด ไม่อยู่ในภาวะโลหิตจาง ภาวะติดเชื้อ หรือเกล็ดเลือดต่ำ และมีค่าเคมีในเลือด ที่เกี่ยวกับการทำงานของตับ และไตอยู่ในเกณฑ์ปกติ
 
เจ้าของน้องหมาใจบุญ สามารถติดต่อขอเป็น"ผู้ให้" ได้ที่โรงพยาบาลสัตว์ของรัฐ เพราะเลือดในธนาคารเลือดมักไม่เพียงพอต่อความต้องการ และการลงทุนเพื่อเก็บรักษาเลือดที่ได้รับมา ในรูปแบบของธนาคารเลือดนั้น ค่อนข้างสูง ในบ้านเราจึงมีธนาคารเลือดสำหรับน้องหมา เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ส่วนใหญ่ในทางปฏิบัติ จึงมักเป็นการเก็บเลือดจากตัวให้เลือด มาใช้กับตัวรับเลือดในทันที โดยอาศัยการขอความช่วยเหลือ ผ่านทางโลกออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ (น้องอาร์มก็ได้รับความช่วยเหลือ จากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆรอบตัวหมอเช่นกัน....ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ)

กรณีของอาร์ม โชคดีที่ธนาคารเลือด ของโรงพยาบาลสัตว์จุฬาฯ มีเลือด จึงเก็บตัวอย่างเลือดของอาร์มไปตรวจการเข้ากันได้ของเลือดที่จุฬาฯ แต่กว่าจะรอผลการเข้ากันได้ของเลือด 1 ชั่วโมง รวมกับเวลาเดินทางไป และนำเลือดกลับมารวม 3 ชั่วโมง ก็ไม่ทันเสียแล้ว อาร์มจากไปตอนประมาณเที่ยงคืน ระหว่างที่หมอกำลังเดินทางนำเลือดกลับมาให้อาร์ม เสียงร้องไห้ของแม่บาดใจหมอเป็นที่สุด

หลังจากตั้งสติได้แล้ว จึงคุยกับคุณหมอเจ้าของไข้ เราต่างลงความเห็นว่า ก้อนเนื้อนั้นน่าจะเป็นมะเร็งชนิดหนึ่ง ซึ่งมีการเจริญของก้อนเนื้อที่เร็วมาก จึงเป็นไปได้ที่เมื่อเดือนที่แล้ว จะมีขนาดเล็กมากจนตรวจไม่พบ
หลับให้สบายนะ น้องอาร์ม
หมอไม่ได้เตรียมใจ และเสียใจมาก เพราะน้องอาร์มเพิ่ง "CHECK UP" มาแค่เดือนเดียว แต่หากมองอีกมุมว่า มันเป็นธรรมดาของโรคนี้ (และโลกนี้) หากไม่ได้ตรวจสุขภาพมาหลายเดือน หมอคงยิ่งโทษตัวเองมากกว่านี้ หรือหากวันนั้นหมอนำเลือดกลับมาทัน อาร์มอาจจะเสียชีวิต ระหว่างการผ่าตัด หรือแม้จะผ่านการผ่าตัดไปได้ ก็ยังมีความทรมานอีกมากที่รออยู่ เพราะแม้จะตัดม้าม และผ่านการผ่าตัดไปได้ ก็อาจอยู่ได้อีกประมาณ 1 ปี และจากไปเพราะมะเร็งเกิดการกระจายไปยังปอด และอวัยวะอื่นๆ ยังต้องปวด และทรมานอีกเยอะ

การที่น้องอาร์มจากไป อย่างไม่ทรมานในอ้อมแขนของแม่ ที่สวดมนต์ให้ตลอดเวลา อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วก็ได้ ช่วงแรกที่เสียอาร์มไป หมอแทบจะไม่สามารถรักษาบีเกิ้ลได้เลย เพราะเห็นแล้ว น้ำตาจะไหล ยังคิดถึงอาร์มแม้เวลาจะผ่านไปเกือบปีแล้ว...
สพ.ญ. ณหทัย ศรีสุวรรณธัช
ปรึกษาปัญหาหมาแมวได้ที่
kaew.nahathai@gmail.com



กำลังโหลดความคิดเห็น