xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ปิดตำนาน 5 เสือกองสลากฯ ปิดตำนานเสือนอนกินขายหวยรัฐ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -กลายเป็นเรื่องโจษขานกันทั้งประเทศทีเดียว เมื่อบอร์ดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีมติไม่ต่อสัญญาโควตาจำหน่ายสลากฯ แก่นิติบุคคลรายใหญ่ หรือที่รู้จักกันในนาม “5 เสือกองสลากฯ” ที่กำลังจะหมดสัญญาลงในเดือนธันวาคม 2558 นี้ หลังเป็น “เสือนอนกิน” ร่ำรวยกับการขยายสลากกินแบ่ง รัฐบาลมาเป็นเวลานาน

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นของการปิดตำนาน 5 เสือกองสลากเริ่มต้นเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้ประกาศิตตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 แต่งตั้ง “เสธ.แดง-พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์” แม่ทัพน้อยที่ 1 ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลคนใหม่ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายสำคัญคือเคลื่อนทัพปราบการขายลอตเตอรี่ราคาแพงเกินราคา สลายยี่ปั้วมาเฟียจอมปั่นราคา จากราคาปกติใบละ 80 บาท พุ่งสู่ขึ้นไปถึงใบละ 120 บาท (หรือมากกว่า) ฯลฯ

กระทั่งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา พล.ท.อภิรัชต์ได้ออกมาเปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ (บอร์ดสลาก) เห็นชอบไม่ต่ออายุสัญญารับสลากฯ ไปจำหน่าย หรือโควตาสลากฯ กับนิติบุคคลทั้งหมด รวมทั้งองค์กร หรือมูลนิธิต่างๆ ยกเว้นองค์กรการกุศลและองค์กรที่เกี่ยวข้องผู้พิการเท่านั้น จำนวนทั้งสิ้นกว่า 2,495 แห่ง หรือคิดเป็นจำนวนสลากฯ กว่า 15.8 ล้านฉบับ (7.9 ล้านคู่) โดยให้มีผลตั้งแต่งวดวันที่ 1 ธ.ค.58 เป็นต้นไป เรียกว่าปิดตำนาน 5 เสือกองสลากฯ โดยบริบูรณ์

ประกอบด้วยนิติบุคคลรายใหญ่ 5 บริษัท ดังนี้

1. บริษัท ไดมอนด์ ลอตโต จำกัด

2. บริษัท สลากมหาลาภ จำกัด

3.บริษัท หยาดน้ำเพ็ชร จำกัด

4. บริษัท แอดวานซ์ เทคโนโลยี ซิสเต็มส์ จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท ปลื้มวัฒนา)

5. หจก.ขวัญฤดี

เป็น 5 บริษัทที่คอหวยรู้จักกันในชื่อของ 5 เสือกองสลาก

กล่าวสำหรับ 5 เสือกองสลากฯ ล้วนแล้วแต่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับฝ่ายการเมืองในทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ก่อเกิดขึ้นมาเนื่องจากโควตาของผู้ว่าราชการจังหวัด และคลังจังหวัดไม่มีคนจำหน่าย รวมถึงรายย่อยอื่นๆ ที่ได้รับโควตาแต่ไม่ต้องการขายปลีกจึงเลือกขายให้รายใหญ่ ส่งผลให้สลากฯ จำนวน 46 ล้านฉบับอยู่ในมือของเครือข่าย 5 เสือกองสลากฯ เสียเป็นส่วนใหญ่ และเป็นปัจจัยที่ทำหนุนราคาสลากฯ ที่จัดจำหน่ายตามท้องตลาดมีราคาแพงกว่าที่ระบุไว้หน้าสลากฯ จาก 80 บาท ก็ปรับขึ้นราคาตั้งแต่ 110 - 130 บาท หรือมากว่านั้นหากเป็นกลุ่มเลขสวย

อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสลากฯ เปิดเผยว่า จำนวนสลากฯ ที่พิมพ์จำหน่ายทั้งสิ้น 46 ล้านฉบับนั้น จะจัดสรรให้รายย่อยส่วนกลาง 107,356 เล่ม รายย่อยภูมิภาค ซึ่งจัดสรรผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดและคลังจังหวัด 192,649 เล่ม และนิติบุคคล 6 หมื่นเล่ม แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะมีการกระจายสลากอย่างไร จำนวนสลากมูลค่ามหาศาลก็กลับเข้าสู่ผู้จำหน่ายนิติบุคคลรายใหญ่ทั้ง 5 ราย โดยเฉพาะโควตาในส่วนของผู้ว่าฯ และคลังจังหวัดที่กล่าวไว้ในข้างต้น รวมถึงรายย่อยอื่นๆ ที่ได้รับโควตาที่ไม่ต้องการขายปลีกก็ตัดสินใจขายแก่รายใหญ่ เท่ากับว่าสลากจำนวน 46 ล้านฉบับ อยู่ในของเครือข่าย 5 เสือกองสลากฯ

การเข้ามาของ พล.ท.อภิรัชต์ ในฐานะประธานบอร์ดกองสลากฯ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นำไปสู่การจัดระเบียบดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยเปิดเผยในที่ประชุมบอร์ดกองสลากฯ ว่าการไม่ต่ออายุโควตาสลากฯ แก่ผู้ค้ารายใหญ่ครั้งนี้ จะทำให้โควตาในส่วนนิติบุคคลทั้งหมดรวมทั้งองค์กรหรือมูลนิธิต่างๆ เข้าสู่ระบบในโครงการสั่งซื้อ-สั่งจองสลากฯ ล่วงหน้า เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน ระยะที่ 2 เพื่อการแก้ปัญหาการขายสลากฯ เกินราคาที่เป็นปัญหาเรื้อรังในสังคมไทยมานาน และเป็นการกระจายสลากฯ เข้าถึงผู้ค้ารายย่อยได้มากที่สุด ด้านประชาชนก็จะสามารถซื้อสลากฯ ได้ในราคาคู่ละ 80 บาท ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล คือการนำรายได้จากการขายสลากมาช่วยเหลือองค์กรและมูลนิธิผู้พิการ และกระจายสลากสู่ผู้ค้ารายย่อย

“การยกเลิกการต่อสัญญาจะทำให้มีปริมาณสลากกลับคืนมาจำหน่ายผ่านระบบจองซื้อสลากผ่านระบบออนไลน์ในงวดวันที่ 1 มกราคม 2559 จำนวน 79,106 เล่มคู่ โดยมีสัดส่วนการจำหน่ายผ่านตัวแทน 28 ล้านฉบับ ผ่านระบบจองซื้อออนไลน์ 20 ล้านฉบับ และผู้ค้ารายย่อยในสัญญา 2 ล้านฉบับ ซึ่งจะเป็นงวดสุดท้ายของสัญญาฉบับเดิม ส่วนตั้งแต่งวดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 จะมีสลากในระบบตัวแทนจำหน่าย 28 ล้านฉบับ และผ่านระบบจองซื้อออนไลน์ 22 ล้านฉบับ รวม 50 ล้านฉบับ ถือเป็นปริมาณที่เหมาะสม สอดคล้องกับนโยบายของท่านนายกฯ ที่ไม่ต้องการให้มุ่งเน้นเสี่ยงโชคการพนันมากเกินไป”

เสธ.แดงแจกแจงข้อมูลเพิ่มเติมถึงโครงการสั่งซื้อ-สั่งจองสลากฯ ล่วงหน้าว่า ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก โดยมีการทำธุรกรรมของโครงการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์ของธนาคารกรุงไทย ส่งผลให้สลากฯ ในระบบหมดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลพวงจากการปรับตัวและการเปลี่ยนแปลงของประชาชนในการทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ขณะที่สำนักงานสลากฯ จะไม่พิมพ์สลากฯ เพิ่มเกินกว่าความสามารถในการพิมพ์แต่ละงวดอยู่ที่ 100 ล้านฉบับ หรือคิดเป็น 50 ล้านคู่ ซึ่งการไม่ต่ออายุสัญญาดังกล่าวจะทำให้ประชาชนสามารถเข้ามาจองสลากฯ ล่วงหน้าจากเดิมที่จองได้งวดละ 26 ล้านฉบับ เพิ่มขึ้นเป็น 41.8 ล้านฉบับ โดยเชื่อว่าการดำเนินงานดังกล่าวจะต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อปรับกลไกของตลาดสลากฯ และปรับตัวได้อย่างสมบูรณ์

แน่นอนว่า การไล่บี้ยี่ปั้วรายใหญ่ผู้กุมโควตาสลากฯ นานนับสิบปี ย่อมสร้างความไม่พอใจแก่ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์อย่างเลี่ยงไม่ได้ โควตาที่อยู่ในกรงเล็บ 5 เสือกองสลากฯ สร้างความร่ำรวยมั่งคั่งแก่ตนเอง ร่วมทั้งเครือญาติและพวก พ้อง ฯลฯ แต่นั่นมิได้สร้างความกังวลให้กับ เสธ.แดงแต่ประการใด

ทั้งนี้ พล.ท.อภิรัชต์ เปิดเผยว่า ไม่กังวลว่าจะถูกนิติบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ฟ้องร้อง เนื่องจากได้ดำเนินตามสัญญาที่ทำไว้ร่วมกัน เมื่อหมดสัญญาสำนักงานสลากฯ เอง มีสิทธิ์คัดสรรให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการกระจายสลากฯ ให้กับผู้ค้ารายย่อย และประชาชนสามารถซื้อได้ในราคาคู่ละ 80 บาท แม้มติดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่พนักงานสลากฯ บางส่วน ซึ่งจากการปรึกษาหารือกับรองนายกรัฐมนตรีจะปรับฐานเงินเดือนรวมทั้งโบนัสให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อทดแทนสวัสดิการเดิมที่หายไป

และทั้งหมดนั้นคือผลงานของ พล.ท.อภิรัชต์ที่ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ให้เข้ามาเป็นประธานบอร์ดกองสลากฯ ซึ่งถือเป็นเปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่สำหรับการจัดสรรโควตาสลากฯ ที่ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าจะมีวันนี้ได้




กำลังโหลดความคิดเห็น