นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีการเปิดโผรายชื่อกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ชุดใหม่ ที่คาดว่า จะมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน กรธ. พร้อมทีมงาน อาทิ นายอัชพร จารุจินดา อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นายอุดม รัฐอมฤต รองอธิการบดีฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ว่า เท่าที่ติดตาม หากเป็นบุคคลเหล่านี้ ตนรับได้ เพราะมีประวัติเป็นคนดีที่ประจักษ์ต่อสังคม มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ในการร่างกฎหมายมหาชนและกฎหมายรัฐธรรมนูญหลายฉบับ
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะมีการใส่เนื้อหาเกี่ยวกับ คณะกรรมการยุทธศาสตร์และการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อย่างที่หลายฝ่ายกังวล นายถาวร กล่าวว่า คงเกิดขึ้นแน่ จึงขอให้กรธ. ชุดใหม่ ใคร่ครวญในกรณีที่มีจดหมายน้อยว่า สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน หรือสิ่งใดที่จะเป็นการสืบทอดอำนาจ ก็ขอให้กล้าโต้แย้ง เพราะสังคมก็ยังมองใน 2 มุม คือ ในแง่บวกมองว่า คปป. ก็มีประโยชน์ ที่จะสกัดไม่ให้เกิดการรัฐประหาร แต่ถ้ามองในแง่ลบ มองว่าเป็นรัฐซ้อนรัฐมีอำนาจเหนือรัฐ จึงจำเป็นที่ กรธ. ต้องคุยกันให้ตกผลึก และเขียนให้ชัด เปรียบเหมือนดาบสองคม ทั้งนี้ หากมองถึงตำแหน่งขององค์ประกอบที่จะมาเป็น คปป. เช่น ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร. เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้เข้าไปรับใช้รัฐบาลที่ชั่วร้าย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สุดท้ายก็ฉีกกฎหมายสูงสุดเสียเอง ฉะนั้น การจะอ้างเพื่อเขียนกฎหมาย เรื่องความขัดแย้งความแตกแยก หรือการทุจริต ก็ขึ้นอยู่กับบุคคล ที่อยู่ในตำแหน่งหลักขององค์กรที่บังคับใช้อำนาจว่าได้ปฏิบัติตามหน้าที่ ได้บังคับใช้กฎหมาย เข้มแข็งหรือไม่อย่างไร หากจะร่างให้มีคปป. ออกมาอีก ส่วนตัวเห็นว่า ไม่จำเป็นแล้ว เพราะมีสปท. ที่จะใช้ขับเคลื่อนในการปฏิรูป
ดังนั้น สิ่งใดหากจะเขียนแล้วก่อให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยก สร้างปัญหา ขอร้องว่า ควรยุติได้แล้ว อย่าซ้ำเติมประเทศ เพราะบอบช้ำมามากแล้ว และคนที่จะเข้าไปเป็นคปป. ก็ควรทบทวนตัวเองว่า เคยรับใช้ทรราช หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นส่วนหนึ่ง ที่ให้ประชาชนทนไม่ได้ จนต้องออกมาเดินถนนร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล ที่ใช้อำนาจเกินขอบเขตกว่ากฎหมาย
"หากจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ควรกำหนดให้ฝ่ายตุลาการ เร่งรัดสำนวนคดี โดยกำหนดกรอบเวลา โดยเฉพาะคดีทุจริต ให้ต้องทำให้เสร็จพร้อมลงโทษภายใน 1 ปี เพราะที่ผ่านมา สังคมรับไม่ได้ กับความล่าช้าในคดีเหล่านี้ ทั้งตำรวจ ป.ป.ช. อัยการ ศาล เพิกเฉย ไม่เร่งรัดคดี เช่น คดีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่คดีอยู่ในมือ ป.ป.ช. 20 ปี จนถึงอายุความ หรือกรณีนายกฯ อบจ.สมุทรปราการ ทำผิดกฎหมาย กว่าจะลงโทษได้ใช่เวลา 16 ปี หรือ กรณีที่ตนฟ้อง นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยการสูงสุด ที่ไม่ยื่นฎีกา คุณหญิงพจมานและพวก เลี่ยงภาษีการโอนหุ้นเกือบพันล้านบาท สอบมาแล้ว 5 ปี ยังไม่มีความคืบหน้า
ในเมื่อองค์กรที่บังคับใช้กฎหมายล่าช้า ในการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดก็ทำให้สุจริตชนผิดหวัง เบื่อหน่ายกับระบบ จึงต้องเดินออกสู่ท้องถนน เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล ต้องปฏิรูปตำรวจ ล้างระบบรัฐตำรวจ ปฏิรูปการเมือง ล้างกลุ่มทุนสามานย์ ปฏิรูปการแก้ปัญหาการทุจริต โดยเร่งรัดกระบวนการยุติธรรมให้รวดเร็วยิ่งขึ้น วันนี้จะอ้างประชาชนแตกแยก ไม่ได้แล้ว ผลเกิดจากเหตุที่ข้าราชการ และผู้มีอำนาจแต่เดิม ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็ควรลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง จึงขอให้ กรธ. พิจารณาถึงข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย ออกแบบกฎหมายสูงสุดของชาติ ลดความขัดแย้ง และตัดวงจรอุบาทว์ ที่เกิดขึ้นให้ได้จริง" นายถาวรกล่าว
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะมีการใส่เนื้อหาเกี่ยวกับ คณะกรรมการยุทธศาสตร์และการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อย่างที่หลายฝ่ายกังวล นายถาวร กล่าวว่า คงเกิดขึ้นแน่ จึงขอให้กรธ. ชุดใหม่ ใคร่ครวญในกรณีที่มีจดหมายน้อยว่า สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน หรือสิ่งใดที่จะเป็นการสืบทอดอำนาจ ก็ขอให้กล้าโต้แย้ง เพราะสังคมก็ยังมองใน 2 มุม คือ ในแง่บวกมองว่า คปป. ก็มีประโยชน์ ที่จะสกัดไม่ให้เกิดการรัฐประหาร แต่ถ้ามองในแง่ลบ มองว่าเป็นรัฐซ้อนรัฐมีอำนาจเหนือรัฐ จึงจำเป็นที่ กรธ. ต้องคุยกันให้ตกผลึก และเขียนให้ชัด เปรียบเหมือนดาบสองคม ทั้งนี้ หากมองถึงตำแหน่งขององค์ประกอบที่จะมาเป็น คปป. เช่น ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร. เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้เข้าไปรับใช้รัฐบาลที่ชั่วร้าย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สุดท้ายก็ฉีกกฎหมายสูงสุดเสียเอง ฉะนั้น การจะอ้างเพื่อเขียนกฎหมาย เรื่องความขัดแย้งความแตกแยก หรือการทุจริต ก็ขึ้นอยู่กับบุคคล ที่อยู่ในตำแหน่งหลักขององค์กรที่บังคับใช้อำนาจว่าได้ปฏิบัติตามหน้าที่ ได้บังคับใช้กฎหมาย เข้มแข็งหรือไม่อย่างไร หากจะร่างให้มีคปป. ออกมาอีก ส่วนตัวเห็นว่า ไม่จำเป็นแล้ว เพราะมีสปท. ที่จะใช้ขับเคลื่อนในการปฏิรูป
ดังนั้น สิ่งใดหากจะเขียนแล้วก่อให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยก สร้างปัญหา ขอร้องว่า ควรยุติได้แล้ว อย่าซ้ำเติมประเทศ เพราะบอบช้ำมามากแล้ว และคนที่จะเข้าไปเป็นคปป. ก็ควรทบทวนตัวเองว่า เคยรับใช้ทรราช หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นส่วนหนึ่ง ที่ให้ประชาชนทนไม่ได้ จนต้องออกมาเดินถนนร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล ที่ใช้อำนาจเกินขอบเขตกว่ากฎหมาย
"หากจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ควรกำหนดให้ฝ่ายตุลาการ เร่งรัดสำนวนคดี โดยกำหนดกรอบเวลา โดยเฉพาะคดีทุจริต ให้ต้องทำให้เสร็จพร้อมลงโทษภายใน 1 ปี เพราะที่ผ่านมา สังคมรับไม่ได้ กับความล่าช้าในคดีเหล่านี้ ทั้งตำรวจ ป.ป.ช. อัยการ ศาล เพิกเฉย ไม่เร่งรัดคดี เช่น คดีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่คดีอยู่ในมือ ป.ป.ช. 20 ปี จนถึงอายุความ หรือกรณีนายกฯ อบจ.สมุทรปราการ ทำผิดกฎหมาย กว่าจะลงโทษได้ใช่เวลา 16 ปี หรือ กรณีที่ตนฟ้อง นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยการสูงสุด ที่ไม่ยื่นฎีกา คุณหญิงพจมานและพวก เลี่ยงภาษีการโอนหุ้นเกือบพันล้านบาท สอบมาแล้ว 5 ปี ยังไม่มีความคืบหน้า
ในเมื่อองค์กรที่บังคับใช้กฎหมายล่าช้า ในการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดก็ทำให้สุจริตชนผิดหวัง เบื่อหน่ายกับระบบ จึงต้องเดินออกสู่ท้องถนน เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล ต้องปฏิรูปตำรวจ ล้างระบบรัฐตำรวจ ปฏิรูปการเมือง ล้างกลุ่มทุนสามานย์ ปฏิรูปการแก้ปัญหาการทุจริต โดยเร่งรัดกระบวนการยุติธรรมให้รวดเร็วยิ่งขึ้น วันนี้จะอ้างประชาชนแตกแยก ไม่ได้แล้ว ผลเกิดจากเหตุที่ข้าราชการ และผู้มีอำนาจแต่เดิม ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็ควรลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง จึงขอให้ กรธ. พิจารณาถึงข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย ออกแบบกฎหมายสูงสุดของชาติ ลดความขัดแย้ง และตัดวงจรอุบาทว์ ที่เกิดขึ้นให้ได้จริง" นายถาวรกล่าว