00 ถ้าสื่อรายงานกันไม่ผิดก็จับความเข้าใจได้ชัดเจนจากคำมั่นสัญญาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ระหว่างร่วมงานพบปะกับกลุ่มสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ในนิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อวันก่อนระหว่างที่เขาเข้าร่วมประชุมใหญ่ประจำปีของสหประชาชาติ โดยยืนยันชัดเจนว่าจะต้องมีการเลือกตั้งในปี 2560 โดยย้ำว่า เวลาที่เหลืออีกปีกว่าจะดำเนินการปฏิรูปและสร้างเสถียรภาพภายในประเทศตามที่ให้สัญญาเอาไว้ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันเพื่อรอส่งมอบให้รัฐบาลใหม่ รวมทั้งเพื่อรองรับการลงทุนที่เป็นธรรมและโปร่งใสต่อไป
00 เอาเป็นว่า นี่คือความชัดเจนที่เชื่อถือได้ เพราะนี่คือการประกาศต่อนานาชาติ เหมือนกับเป็นสัญญาประชาคมที่ไม่อาจบิดพลิ้วได้ ถ้าตุกติก็ได้แต่ จะ "เสียคน" แน่ เครดิตที่เหลืออยู่น้อยนิดสายตาตะวันตกก็จะไม่เหลือ ซึ่งก็ต้องพูดกันแบบตรงไปตรงมาว่า มันเป็นแบบนั้นจริง เพราะเขาไม่ได้มาตามเส้นทางเลือกตั้ง แม้ว่าการเลือกตั้งในบ้านเราจะเป็นแบบคนละความหมาย เต็มไปด้วยความฉ้อฉล ทุจริตคดโกง แต่สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถยืนอยู่ได้ก็เป็นเพราะ ความสนับสนุนจากประชาชนภายในประเทศที่ยังเชื่อมั่นในแนวทางของเขาที่ประกาศว่า ไม่ทุจริต จะวางรากฐานการพัฒนา นี่ต่างหาก ดังนั้นเมื่อประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งภายในปี 60 ก็โอเค แม้ว่าที่ผ่านมาตามสูตร 6-4 และ 6-4 เวลา 20 เดือน อาจลดลงมาเหลือ 18 เดือน มีการรับรู้กันแล้ว แต่คราวนี้คงไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้แล้ว
00 ในประเด็นต่อไปก็คือ ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศไปแล้วว่า เขาจะไม่ลงเลือกตั้ง ไม่กลับมาเป็นนายกฯ อีก ความหมายก็คือ ไม่รับประโยชน์จากรธน.ฉบับใหม่ที่ประกาศใช้ นั่นก็ต้องหมายความว่า ภายในปี 60 เขาก็จะปิดฉากทางการเมืองในแบบเฉพาะตัวแบบนี้ หลังมีรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งเข้ามา !!
00 การเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อร่วมประชุมสหประชาชาติระหว่างวันที่ 24-30 ก.ย.นี้ ก็ถือว่าสำเร็จตามเป้าหมายใช้ได้ ในเรื่องของการต้อนรับโดยเฉพาะจากภาคธุรกิจชั้นนำ อย่างกรณี "สภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน" การไปโชว์แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในที่ประชุมใหญ่ "ที่เน้น"ความสมดุล" การพึ่งพาตัวเอง ลดความเหลื่อมล้ำ ความยากจน ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางในอนาคต ที่จะนำพาโลกให้อยู่รอดปลอดภัย ก็ถือว่าได้รับความสนใจ ไม่น่าเป็นห่วงว่าจะเกิดการต่อต้านมากมาย ตรงกันข้าม กลับมีการต้อนรับให้กำลังใจกันแบบล้นหลาม
00 หันมาในประเทศกันบ้าง เวลานี้เชื่อว่ารายชื่อคณะกรรมการยกร่างรธน. จำนวน 21 คน คงรวบรวมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และรอการประกาศหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับถึงไทย แต่ที่น่าจับตาก็คือ ใครจะมานั่งเป็นประธานยกร่าง ซึ่งนาทีนี้ก็คงมั่นใจได้แล้วว่า ต้องเป็น "มีชัย ฤชุพันธุ์" แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นปูมหลัง เส้นทางเชื่อมโยงกับกลุ่ม"อำนาจใหม่" ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ก็ล้วนอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรือล่าสุดแม้แต่ "กำนันสุเทพ" สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็หนุนสุดตัว มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันมานาน เมื่อเข้าใจแบบนี้ก็ต้องบอกว่า นี่แหละ ใช่เลย !!
00 แม้ว่าเส้นทางข้างหน้ายังไกลพอสมควร แต่สำหรับความเคลื่อนไหวของบางคนอย่าง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หลายคนมองแบบรู้ทันว่า การออกมาเที่ยวนี้ เธอหมายมั่นปั้นมือว่าต้องการแรงสนับสนุนจาก ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย ในการชิงอำนาจกลับมาผ่านทางเลือกตั้งคราวหน้า และในยุคที่คนในครอบครัวชินวัตร ยังซวนเซ โดยเฉพาะในช่วงที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังโดนคดีหนักๆ จึงน่าจะเป็นโอกาสดี ที่จะสอดแทรกเข้ามาทำตามความฝัน ขอเป็นนายกฯหญิง อีกคน ก็ว่ากันไป เพราะคิดฝันกันได้ แต่จะเป็นจริงได้หรือไม่ นั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง !!
00 เอาเป็นว่า นี่คือความชัดเจนที่เชื่อถือได้ เพราะนี่คือการประกาศต่อนานาชาติ เหมือนกับเป็นสัญญาประชาคมที่ไม่อาจบิดพลิ้วได้ ถ้าตุกติก็ได้แต่ จะ "เสียคน" แน่ เครดิตที่เหลืออยู่น้อยนิดสายตาตะวันตกก็จะไม่เหลือ ซึ่งก็ต้องพูดกันแบบตรงไปตรงมาว่า มันเป็นแบบนั้นจริง เพราะเขาไม่ได้มาตามเส้นทางเลือกตั้ง แม้ว่าการเลือกตั้งในบ้านเราจะเป็นแบบคนละความหมาย เต็มไปด้วยความฉ้อฉล ทุจริตคดโกง แต่สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถยืนอยู่ได้ก็เป็นเพราะ ความสนับสนุนจากประชาชนภายในประเทศที่ยังเชื่อมั่นในแนวทางของเขาที่ประกาศว่า ไม่ทุจริต จะวางรากฐานการพัฒนา นี่ต่างหาก ดังนั้นเมื่อประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งภายในปี 60 ก็โอเค แม้ว่าที่ผ่านมาตามสูตร 6-4 และ 6-4 เวลา 20 เดือน อาจลดลงมาเหลือ 18 เดือน มีการรับรู้กันแล้ว แต่คราวนี้คงไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้แล้ว
00 ในประเด็นต่อไปก็คือ ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศไปแล้วว่า เขาจะไม่ลงเลือกตั้ง ไม่กลับมาเป็นนายกฯ อีก ความหมายก็คือ ไม่รับประโยชน์จากรธน.ฉบับใหม่ที่ประกาศใช้ นั่นก็ต้องหมายความว่า ภายในปี 60 เขาก็จะปิดฉากทางการเมืองในแบบเฉพาะตัวแบบนี้ หลังมีรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งเข้ามา !!
00 การเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อร่วมประชุมสหประชาชาติระหว่างวันที่ 24-30 ก.ย.นี้ ก็ถือว่าสำเร็จตามเป้าหมายใช้ได้ ในเรื่องของการต้อนรับโดยเฉพาะจากภาคธุรกิจชั้นนำ อย่างกรณี "สภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน" การไปโชว์แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในที่ประชุมใหญ่ "ที่เน้น"ความสมดุล" การพึ่งพาตัวเอง ลดความเหลื่อมล้ำ ความยากจน ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางในอนาคต ที่จะนำพาโลกให้อยู่รอดปลอดภัย ก็ถือว่าได้รับความสนใจ ไม่น่าเป็นห่วงว่าจะเกิดการต่อต้านมากมาย ตรงกันข้าม กลับมีการต้อนรับให้กำลังใจกันแบบล้นหลาม
00 หันมาในประเทศกันบ้าง เวลานี้เชื่อว่ารายชื่อคณะกรรมการยกร่างรธน. จำนวน 21 คน คงรวบรวมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และรอการประกาศหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับถึงไทย แต่ที่น่าจับตาก็คือ ใครจะมานั่งเป็นประธานยกร่าง ซึ่งนาทีนี้ก็คงมั่นใจได้แล้วว่า ต้องเป็น "มีชัย ฤชุพันธุ์" แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นปูมหลัง เส้นทางเชื่อมโยงกับกลุ่ม"อำนาจใหม่" ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ก็ล้วนอยู่ในกลุ่มเดียวกัน หรือล่าสุดแม้แต่ "กำนันสุเทพ" สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็หนุนสุดตัว มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันมานาน เมื่อเข้าใจแบบนี้ก็ต้องบอกว่า นี่แหละ ใช่เลย !!
00 แม้ว่าเส้นทางข้างหน้ายังไกลพอสมควร แต่สำหรับความเคลื่อนไหวของบางคนอย่าง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หลายคนมองแบบรู้ทันว่า การออกมาเที่ยวนี้ เธอหมายมั่นปั้นมือว่าต้องการแรงสนับสนุนจาก ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย ในการชิงอำนาจกลับมาผ่านทางเลือกตั้งคราวหน้า และในยุคที่คนในครอบครัวชินวัตร ยังซวนเซ โดยเฉพาะในช่วงที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังโดนคดีหนักๆ จึงน่าจะเป็นโอกาสดี ที่จะสอดแทรกเข้ามาทำตามความฝัน ขอเป็นนายกฯหญิง อีกคน ก็ว่ากันไป เพราะคิดฝันกันได้ แต่จะเป็นจริงได้หรือไม่ นั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง !!
