เกาะกระแส
00 ดูตามรูปการณ์แล้วก็พอสบายใจได้แล้วว่ากำหนดการเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติที่กรุงนิวยอร์กสหรัฐฯของ "ลุงตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในระหว่างวันที่ 24-30 ก.ย.ไม่น่าจะมีเรื่องอะไรมากวนใจมากนัก เพราะเชื่อว่าทางการสหรัฐฯคงจะดูแลดีไม่เสียชื่อเจ้าบ้านแน่นอน อย่างไรก็ดีก็ต้องรอดูเหมือนกันว่าจะมีมวลชนกลุ่มหนุนและกลุ่มต้านออกมาต้อนจะมีเท่าไหร่กันแน่ เราจะได้เห็นพวกนักวิชาการที่ประกาศว่าจะเดินทางไปประท้วงที่นั่นกันกี่คน จะมี ปวิน ชัชวาลพงษ์พันธุ์ ร่วมด้วยหรือเปล่า
00 ตามคิวบอกว่าส่วนใหญ่จะมีพวกสื่อตะวันตกจองรอสัมภาษณ์กันเป็นหางว่าว แต่จากการแถลงของรองโฆษกรัฐบาล พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค เมื่อวันก่อนบอกว่าที่ชัวร์แล้วก็มีวอยซ์ออฟอเมริกา(วีโอเอ) ที่เหลือยังมีการประสานงานยืนยันกันอยู่ แต่เอาเป็นว่าคิวขอสัมภาษณ์กันยาวเหยียดเพียงแต่ว่าแล้วแต่ทางฝ่ายเราจะเจียดเวลาให้ได้หรือไม่เท่านั้นเอง เมื่อเป็นแบบนี้มองอีกมุมหนึ่งก็ต้องบอกว่านี่คือโอกาสดีที่จะได้ชี้แจงให้นานาชาติได้เข้าใจได้บ้าง แทนที่จะฟังแต่พวกล็อบบี้ยิสต์ของฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร ที่หากินกับการเลือกตั้งอ้างว่า"ฝ่ายประชาธิปไตย"อยู่ข้างเดียว
00 เริ่มสรุปตัวเลขเบื้องต้นออกมาแล้วสำหรับความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวจากปากของปลัดกระทรวงการคลัง รังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปิดเผยว่ามีความเสียหายรวมกันไม่ต่ำกว่า 7 แสนล้านบาทจากทุกรัฐบาลที่ผ่านมารวม 15 โครงการโดยแยกเป็นรัฐบาลก่อนจำนวน 1.63 แสนล้านบาท และสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 4 โครงการจำนวน 5.36 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่นิ่ง เพราะยังมีข้าวเสื่อมคุณภาพลงทุกวันที่ยังรอประมูลระบายขายออกไปแบบขาดทุนอยู่อีกประมาณ 17-18 ล้านตัน ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะหมด โดยเวลานี้ได้ระบายออกไปได้แค่ 4.7 ล้านตันเท่านั้น !!
00 อย่างไรก็ดีตัวเลขความเสียหายทั้งหมดจะต้องสรุปอย่างเป็นทางการภายในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ จากนั้นก็นำไปสู่การดำเนินการที่เรียกว่าให้"ชดใช้ค่าเสียหาย"ตามที่ รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย วิษณุ เครืองาม ชี้ช่องทางเอาไว้ ซึ่งวิธีนี้จะทำได้เร็วกว่าการฟ้องทางแพ่ง นั่นคือ "ยึดทรัพย์ได้เร็ว" แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการเอาจริงเอาจังกันแค่ไหน หรือเป็นเพียงแค่"เกมต่อรอง"ทางการเมืองให้อีกฝ่ายหยุดเคลื่อนไหวป่วนหรือไม่ ก็ต้องจับตาดูกันอย่างรู้ทันต่อไป เพราะที่ผ่านมาเห็นแบบนี้มาหลายครั้งจนเซ็ง แต่สำหรับเรื่องนี้คงไม่กล้าทำเล่นหรอก เพราะมันอ่อนไหวกับความรู้สึกของชาวบ้าน อีกทั้งความตื่นตัวที่มีสูงกว่าเมื่อก่อนมากนัก !!
00 สำหรับคนที่จะมานั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมการยกร่างรธน.จะมีการแบชื่อกันออกมาแล้วในอีกไม่นานนี้ ตามคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคสช.บอกว่าจะได้เห็นหลังจากกลับมาจากประชุมยูเอ็นวันที่ 30 ก.ย.แต่ยอมรับว่าได้ทาบทามทั้ง อานันท์ ปันยารชุน และ มีชัย ฤชุพันธุ์ ซึ่งทั้งคู่ถือว่าระดับเซียน แต่นาทีนี้ถ้าให้เดาเหมือนกับว่าคนหลังน่าจะมา เพราะถ้าพิจารณากันจากภูมิหลังแบบ"พิเศษ"ก็ใช่ แต่อย่างไรก็ดี มานั่งนึกอีกทางชื่อของ อานันท์ ก็เหมาะเหมือนกันในฐานะที่เคยเป็นประธานกรรมาธิการยกร่างฯปี 40 มาแล้ว ซึ่งก็เป็นฉบับที่มีการกล่าวขวัญถึงโดยเฉพาะในซีกพรรคเพื่อไทย และที่สำคัญเขาเป็นนักประสานและชี้แจงทำความเข้าใจกับสังคมได้ดีทีเดียว !!