เกาะกระแส
00 เห็นโฉมหน้าของ รธน.ฉบับชั่วคราวปี 57 กันไปแล้ว ตามที่รับปากสัญญากันไว้คือภายในเดือน ก.ค.สาระสำคัญไม่ได้ผิดไปจากที่เคยแย้มออกมาจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.ที่ว่ามีไม่เกิน 50 มาตรา ของจริงที่ประกาศมี 48 มาตรา แต่คราวนี้มีเรื่องที่ผิดไปจากคาดหมายมากกว่าเดิมคือให้อำนาจกับ หัวหน้าคสช.และ คสช.กันแบบเต็มพิกัด ทั้งอำนาจปลดนายกฯ ปลดรมต.(ม19วรรค3) แจ้งให้ครม.ดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง และเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงให้คสช.ประชุมร่วมกับ ครม.(ม.42) ให้อำนาจ "หัวหน้าคสช."ใช้อำนาจทั้งนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ในการระงับยับยั้งหรือดำเนินการเพื่อรักษาความสงบ ป้องกันการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อย(ม.44)
00 ให้อำนาจ คสช.แก้ไขรธน.ฉบับชั่วคราว โดยให้สภานิติบัญญัติเห็นชอบเท่านั้น ห้ามแก้ไขร่างที่เสนอแก้ไข(ม.46) ประกาศและคำสั่งของ คสช.ที่ผ่านมาทั้งหมดให้บังคับใช้ต่อไป(ม.47) และตบท้ายด้วย ม.48 นิรโทษกรรม คสช.
00 อ้อเกือบลืมไปต้องบอกตัวเลขจำนวน ครม.รวมนายกฯ 36 คน สมาชิก สนช.220 สปร.250 คน กมธ.ยกร่างรธน.อีก 36 คน มาจาก สภาปฏิรูป(สปร.) 20 คน จากสนช.และครม.ฝ่ายละ 5 คน และจากคสช.6 คน(ในจำนวนนั้นต้องเป็นประธานกมธ.ด้วย) และที่สำคัญในการยกร่างรธน.ฉบับถาวรที่จะมีขึ้นยังให้อำนาจ คสช.ในการแก้ไขร่างที่ กมธ.ยกร่างเสร็จแล้วด้วย และที่ชัดเจนก็คือจะไม่มีการกำหนดในเรื่องการ"ลงประชามติ"เอาไว้ใน รธน.ฉบับชั่วคราวนี้แต่อย่างใด
00 นั่นเป็นสรุปสาระสำคัญที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับภารกิจ "ปฏิรูปเฟสสอง"ที่ถือว่าสำคัญที่สุดต่ออนาคตของประเทศและคนไทยในประเทศนี้ เพราะหากออกแบบและก่อสร้างมาไม่ดี หรือก่อสร้างผิดแบบ คนคุมงานไม่รับผิดชอบมันก็มีโอกาสพังถล่มเดือดร้อนยิ่งกว่าเดิมอีก ดังนั้นก็ต้องช่วยกันจับตามองอย่าให้คลาดสายตาเป็นอันขาด โดยเฉพาะอำนาจของ หัวหน้าคสช.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช.ที่มีมากมายมหาศาล เพราะอำนาจที่กำหนดไว้ใน รธน.ฉบับชั่วคราวดังกล่าว ไม่ใช่ควบคู่ไปกับรัฐบาล แต่"อยู่เหนือรัฐบาลและนายกฯ"อย่างชัดเจน มิหนำซ้ำยังสามารถใช้อำนาจในทาง บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการได้ด้วย หากเห็นว่าเข้าข่ายกระทบกับความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
00 ดังนั้นเมื่อมีอำนาจมากมายล้นฟ้าแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนมีอำนาจจะใช้อำนาจไปในทางใด แต่ที่ผ่านมาก็เบาใจได้ไปเปลาะหนึ่งแล้ว จากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคยเตือนสติตัวเองว่า "ผมรู้ดีว่ามีอำนาจมาก แต่ต้องทำตัวให้เล็กลง"ซึ่งหวังว่าจะแสดงให้เห็นตลอดไป เพราะการใช้อำนาจโดยชอบและโดยธรรมเท่านั้นที่จะยั่งยืน แต่ที่ผ่านมามีไม่น้อยที่ "เมาในอำนาจ"และเสียคนในที่สุด จากคนที่เคยได้รับความรักอย่างเต็มเปี่ยม แต่ภายหลังเมื่อมีอำนาจแล้วกลับทรยศต่อความไว้วางใจและความรักต่อประชาชน ตัวอย่างเห็นชัดที่สุดก็คือ ทักษิณ ชินวัตร ไงละ และยิ่งปัจจุบันเป็นยุคดิจิตอล ยุคสื่อสารออนไลน์ทุกอย่างฉับไวเข้าถึงกันเร็ว ปิดปากกันได้แต่ห้ามไม่ได้หรอก ถ้าทำไม่ดีก็จบเกม !!
00 อย่างไรก็ดีเมื่อปี่กลองเริ่มเชิด บรรยากาศเริ่มสนุก มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะมีรายการวิ่งเต้นต่อสายตรงกันจ้าละหวั่น ส่วนจะสำเร็จหรือเข้าถึงกันได้แค่ไหนนั้นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะไม่ว่าจะมีภารกิจปฏิรูป มีรัฐบาลแบบไหนก็ตาม มันก็ต้องมีรายการแบบนี่วันยังค่ำ แต่ถ้าระดับหัวไม่ส่าย ยังนิ่งและรักษาระยะห่างอย่างมั่นคง เมื่อแบโผออกมาแล้วไม่มีเสียงยี้ตามมาก็ผ่าน แต่ถ้าเริ่มต้นไม่สวย ภารกิจวันหน้าก็เป็นเรื่องยาก ดังนั้นองค์ประกอบแบบนี้แหละสำคัญอย่าให้พลาดเป็นอันขาด นะ "ลุงตู่"!!
00 บินลัดฟ้ากันไปแล้วสำหรับว่าที่จำเลยคดีอาญาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมด้วยเครือญาติใกล้ชิดเท่าที่มีรายชื่อน่าสนใจก็คือ พจมาน ณ ป้อมเพชร์ ภายนอกก็บอกว่าไปเที่ยวพักผ่อนที่ยุโรป ไปร่วมฉลองวันเกิดครบ 65 ปี ของพี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร แต่ในทางลึกก็แหงอยู่แล้วว่าต้องมีการวางหมากวางเกมตั้งรับและรอรุกคืนอำนาจในวันข้างหน้า เพราะหากคำสัญญาของ คสช.เป็นจริงว่าจะให้เลือกตั้งภายในเดือนตุลาคม 58 นี่ก็เหลือเวลาอีกแค่ปีเศษเท่านั้น อย่างไรก็ต้องจับตาดูว่าจะมีการดำเนินคดีอะไรเพิ่มเติม หรือขอตัวมาดำเนินคดี มีการถอดยศ เพิกถอนหนังสือเดินทางหรือไม่ !!