เกาะกระแส
00 เมื่อวันที่ 30 ก.ย.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกม.ได้เปิดเผยว่าคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวจากทั้งสองกระทรวงคือ คลังและพาณิชย์ได้สรุปตัวเลขความเสียหายและรายงานเข้ามาแล้วตามกำหนด จากนั้นก็จะมีการตรวจสอบทบทวน เสนอนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พิจารณา แล้วส่งต่อไห้กรมบัญชีกลางตรวจสอบโน่นนี่นั่น เอาเป็นหาไม่มีอะไรติดขัดอีกเขายืนยันว่าการดำเนินการทางแพ่งจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้โดยไม่กระทบอายุความ ความหมายก็คือขั้นตอนการเรียกค่าเสียหายจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะดำเนินการได้ภายในปีนี้ ส่วนจะได้เงินชดใช้มาได้ครบจำนวนหรือเปล่าและต้องใช้เวลานานกี่ปีนั้นก็ต้องย้อนกลับไปดูคำพูดเก่าๆของ รองวิษณุ ก็พอได้คำตอบว่าความเสียหายมีไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท และใช้เวลาดำเนินการเรียกค่าเสียหายไม่เกิน 2 ปี !!
00 นี่คือความเสียหายทางแพ่งที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง และได้เห็นจำนวนตัวเลขมหาศาล มีจำนวนถึง 5 แสนล้านบาท เป็นเงินงบประมาณของชาติ ซึ่งจะปล่อยให้เงียบหายกับสายลมไม่ได้ ต้องมีการพิสูจน์กันด้วยกระบวนการยุติธรรมที่เป็นสากล แม้ว่าฝ่ายที่ถูกกล่าวหาจะไม่ยอมรับ อ้างถึงความไม่ยุติธรรม แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติ เพราะไม่เคยมีโจรที่ไหนที่จะยอมรับว่าตัวเองผิด มีแต่พูดว่า"เขาหาว่า"แทบทั้งสิ้น แต่ถึงอย่างไรการเดินไปตามทางของกระบวนการยุติธรรมจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด เพราะนี่คือการหาข้อยุติที่ดีที่สุด
00 นั่นคือความเสียหายทางแพ่ง แต่ก่อนหน้านั้นก็มีคดีอาญาจากโครงการเดียวกันที่เวลานี้คดีได้อยู่ในศาลฎีกาฯเรียบร้อย เริ่มเดินหน้าจนไม่น่าจะมีอะไรมาหยุดยั้งได้แล้ว แม้ว่าจะมีความพยายามดิ้นรนให้"ยื้อ"เวลาออกไปอีก ด้วยการยื่นฟ้องอัยการสูงสุดและคณะทำงานอัยการฟ้องคดีรับจำนำข้าวอีก 3 คน ก็ต้องว่าไปตามสิทธิ์ ไม่มีปัญหาก็ในที่สุดศาลก็จะชี้ขาดว่าจะรับฟ้องหรือไม่ เพราะก็ต้องเข้าใจว่านี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับชีวิตของเธอ อนาคตของเธอ เนื่องจากต้องเสี่ยงคุกและการชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล นอกเหนือจากก่อนหน้านี้เธอได้ถูกถอดถอนและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี มีแนวโน้มถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต หากรธน.ฉบับใหม่บัญญัติเรื่องคุณสมบัติต้องห้ามของนักการเมืองตามเสียงเรียกร้องของประชาชน
00 ขณะที่หันมามอง ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นพี่ชายของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเวลานี้บ้าง หลังจากโดนรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้กระบวนการทางกม.รื้อฟื้นมาดำเนินการ ทั้งในเรื่องของการทำตามระเบียบเก่าๆในเรื่องการเพิกถอนพาสปอร์ต และถอดยศ รวมไปถึงคดีในศาลที่ต้องเดินไปตามเวลาของมัน ล่าสุดไม่กี่สัปดาห์ก่อนศาลฎีกาก็ได้พิพากษาคดีเงินกู้ธ.กรุงไทยมิชอบจำนวนร่วมหมื่นล้านบาทมีการจำคุกอดีตผู้บริหารที่เกี่ยวข้องกันระนาว และสำหรับทักษิณที่เป็นจำเลยที่ 1 ก็โดนออกหมายจับฐานหลบหนี แต่ที่น่าสนใจก็คือผลจากคดีดังกล่าวกำลังทำให้เกิด"แรงกระเพื่อม"ออกไปไกลไปถึงคนในครอบครัวที่จะถูกดำเนินคดีอาญาหลังจากถูกซุกไว้ใต้พรมมานาน อย่างน้อยที่น่าจะโดนแน่ก็คือ "ฟอกเงิน" หมายถึงเสี่ยงคุกทั้งสิ้น หรือแม้แต่ผลของคำพิพากษาและการชี้มูลของปปช.ในเรื่องให้ เอไอเอส ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 7 หมื่นล้านบาทในยุคที่ครอบครัว ทักษิณ เป็นเจ้าของ ก็กำลังตามมาหลอกหลอนอีก ดังนั้นคำพูดของ ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยกล่าวแบบเท่ๆว่า"ทำไมยังไม่ก้าวข้ามผมไปสักที"นั้นก็ต้องบอกว่ายังก้าวข้ามไปไม่ได้หรอก ต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยทุกเรื่องเสียก่อน และแต่ละเรื่องมันเป็นเรื่องสำคัญทั้งสิ้น !!
00 ตามกำหนดการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.กลับถึงไทยแล้ว และตามกำหนดก็จะเป็นคนเคาะชื่อคณะกรรมการยกร่างรธน.21 คน และคณะกรรมการปฏิรูปและขับเคลื่อนประเทศอีกจำนวน 200 คน ส่วนคณะกรรมการยกร่างฯนาทีนี้คงชัดเจนแล้วว่าต้องเป็น "มีชัย ฤชุพันธุ์"แน่นอน เพราะต้องการความชัวร์ ตามโรดแมป"ลุงตู่"ก็ต้องคนนี้ ใช่เลย !!