xs
xsm
sm
md
lg

"ประสาร"แจงคงดบ.พยุงศก.รอฟื้นปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้ว่าการ ธปท.เผยคงอัตราดอกบี้ยนโยบายเพราะไม่ต้องการซ้ำเติมความไม่แน่นอนตลาดการเงิน คาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะเริ่มเห็นผลในปี 59 ระบุการเคลื่อนไหวบาทเกาะกลุ่มสกุลเงินภูมิภาคและไม่ว่าทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐออกมาอย่างไร มั่นใจทุนไหลออกไม่มากและไทยรับมือได้

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เหตุผลสำคัญคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.50%ต่อปีในการประชุมครั้งล่าสุด มองว่าระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายและค่าเงินในปัจจุบันสามารถประคองเศรษฐกิจไทยได้ค่อนข้างดี อีกทั้งไม่ต้องการเพิ่มปัจจัยความไม่แน่นอน ซึ่งขณะนี้ความไม่แน่นอนในตลาดการเงินมีพอสมควร ฉะนั้น การดำเนินนโยบายการเงินเกี่ยวกับตลาดการเงินคำนึงเสถียรภาพเป็นเรื่องสำคัญ
"หลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตไม่สูงนัก ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไทยมีการขยายตัวเศรษฐกิจเฉลี่ย 3%ในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโตเท่าไร ขึ้นอยู่กับศักยภาพของเราด้วย ปัจจัยรองรับศักยภาพหลายตัวในระยะหลังอ่อนแอลง จำเป็นต้องเสริมเข้มแข็ง ทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจสูงได้ ในทางกลับกันหากไม่เสริมความเข้มแข็งก็จะส่งผลต่อศักยภาพไม่เหมือนกัน"
ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจใหม่ในรัฐบาลปัจจุบันได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อบรรเทาปัญหาผู้มีรายได้น้อย ส่วนใหญ่เป็นผลระยะสั้นมากกว่าและจากการศึกษาของเจ้าหน้าที่ธปท.มองว่าผลของมาตรการดังกล่าวจะไม่สำแดงในปีนี้ แต่จะเริ่มมีผลในช่วงต้นปี 59 ส่วนจะมีผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน ขณะนี้ ธปท.กำลังติดตาม แต่เชื่อว่าจะไม่เป็นผลระยะยาว
กรณีเงินบาทกลับแข็งค่าขึ้น เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) มองว่าการเคลื่อนไหวค่าเงินบาท ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยประกอบกัน ซึ่งบางปัจจัยควบคุมไม่ได้อย่างตลาดการเงินโลก โดยขณะนี้การเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาทสอดคล้องสกุลเงินภูมิภาค และเมื่อเทียบกับสกุลเงินเศรษฐกิจกำลังพัฒนา การเคลื่อนไหวเงินบาทอยู่ระดับกลางและมีเสถียรภาพค่อนข้างดี รวมถึงความผันผวนค่อนข้างน้อย
ประเด็นหลายฝ่ายห่วงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุม 16-17 ก.ย.นี้ ทางบอร์ดกนง.ได้ประเมินสถานะและเครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่ก็มองว่าจะส่งผลกระทบต่อไทยค่อนข้างจำกัด จึงไม่น่าห่วง ขณะเดียวกันมองว่าการเคลื่อนย้ายเงินทุนไม่มากเกินไปและไม่น่าห่วง เพราะไทยยังมีทุนสำรองทางการระหว่างประเทศมากกว่าหนี้ต่างประเทศ ปัจจุบันไทยมีปริมาณหนี้ต่างประเทศไม่สูงเกินไปอยู่ที่ 1.30 แสนล้านเหรียญสหรัฐทั้งในรูปเงินบาทและเงินตราต่างประเทส ส่วนทุนสำรองทางการระหว่างประเทศอยู่ที่ 1.70 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่ามีความเชื่อมั่นพอสมควร
นอกจากนี้ ปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นไทยมากกว่า 30% ส่วนใหญ่เป็นการถือระยะยาว ส่วนถือสั้นก็มองว่ามีกลไกตลาดปรับตัวอยู่แล้ว ขณะที่ต่างชาติถือพันธบัตรรัฐบาลและธปท.ค่อนข้างน้อย 8% เท่านั้น อีกทั้งปัจจุบันดุลยภาพด้านต่างประเทศของไทยค่อนข้างดี ซึ่งธปท.คาดการณ์ตลอดปี 58 ไทยจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐผลจากด้านนำเข้าหดตัวมากกว่าส่งออก
ผู้ว่าการธปท.กล่าวถึงกรณีเลื่อนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า เรื่องเศรษฐกิจเกี่ยวข้องหลายส่วนและต้องการความต่อเนื่องทั้งการเมืองและบทบาทรัฐ ซึ่งต่างชาติคุ้นเคยระบบการเมืองที่มีผู้แทน ถือว่าไทยยังไม่อยู่ภาวะปกติ ทำให้มีผลต่อการตัดสินใจการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติบ้าง จึงเป็นคำถามกลับมาไทยเองอยากได้สิ่งใด อยากได้ระบบการเมืองแบบไหน รวมถึงการตกลงกติกาแบบใหม่อย่างไร.
กำลังโหลดความคิดเห็น