"มาร์ค" ร่วมเวที สศช. จัดประชุมแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 12 "บิ๊กตู่" ถือโอกาสแจงไม่เคยคิดสืบทอดอำนาจ บอกไม่อยากอยู่แม้แต่วันเดียว ที่เข้ามาเพราะนักการเมืองแก้ปัญหาไม่ได้ ยอมรับขณะนี้มีวิ่งเต้นร่วมสภาขับเคลื่อนฯ และ กรธ.จำนวนมาก ขู่ใครวิ่งเต้นขีดชื่อทิ้งทันที พร้อมลั่นไม่อยากได้โรดแมป 20 เดือน พร้อมคืนอำนาจ แต่ยังไม่สงบ ฝาก "อภิสิทธิ์" บูรณาการงานทุกกระทรวง วอนวันนี้ทุกพรรคหยุดตีกกัน วอนรัฐบาลใหม่ร่วมมือปฏิรูปประเทศ ป้องกันรัฐประหาร ลั่นอย่าเสียเวลากับประชาธิปไตยที่ไม่เป็นธรรม
วานนี้ (14ก.ย.) ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมประจำปี 2558 ของ สศช. เรื่อง"ทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)"ว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 12 นี้ ถือว่ามีความสำคัญ เพราะอยู่ระยะที่ คสช.เข้ามาทำงาน โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนเกิดความมั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืน และไม่ทำให้เกิดปัญหาในอนาคต
ยุทธศาสตร์วันนี้ต้องมองไปข้างหน้าอีก 20 ปี ต้องทำทุกอย่างให้ดีขึ้นทุกด้าน อย่าให้ลูกหลานผิดหวัง โดยต้องสอดคล้องทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพราะจะมีการแข่งขันมากขึ้น การพัฒนาประเทศจะถูกล็อกด้วยกฎหมายกติกาต่างๆ จำนวนมาก ช่วงที่ผ่านมาเราก็ทำเฉยๆไว้ แต่พอรื้อออกมา จึงรู้ว่ามีหลายเรื่องที่ไม่ได้ทำ ตอนนี้ก็ต้องมาเร่งแก้ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะทุกประเทศก็คุยกับตนดี
" ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผมมาอย่างไร แต่ปัญหาหลักคือ เขาสนใจว่าเศรษฐกิจเขาจะไปอย่างไร เพราะเศรษฐกิจบ้านเขาอยู่ในบ้านเรามาก แต่ยืนยันว่า เราดูแลเขาอย่างดี ไม่เคยกดดันหรือปิดกั้น มีแต่อำนวยความสะดวกมากขึ้น และทำอย่างไร เราจะอยู่ร่วมกันได้ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับกฎหมาย ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ทำให้ทุกคนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน "
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก่อนวันที่ 22 พ.ค. 57 ทุกคนทราบดี ตนคงไม่ต้องพูดอะไรอีก เพราะทุกอย่างมันไปไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ ก็ทราบดีว่า ทุกอย่างมันไปไม่ได้ เนื่องจากมีปัญหาที่ทับซ้อนและเกี่ยวโยงกัน เริ่มจากนักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน ที่ต้องเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน ไม่ให้ใครมาบิดเบือน
"ขอเรียนท่านอภิสิทธิ์ เลยว่า ผมไม่ต้องการที่จะสืบทอดอำนาจอยู่แล้ว ขอให้บอกกับพวกเขาเลยว่า ผมไม่ต้องการ วันเดียวยังไม่อยากอยู่เลย วันนี้เมื่อมันมีปัญหาเยอะ พวกท่านก็ต้องช่วยผม นักการเมืองที่ดีต้องช่วยให้ผมทำอย่างไรให้สร้างรากฐานประเทศก่อน ที่ผ่านมาสร้างไม่ได้ เพราะการแข่งขันทางการเมืองสูง ประชาชนเลยต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองเป็นส่วนใหญ่ ไม่สนใจเรื่องอื่น สนใจแต่เรื่องการเมือง ดังนั้น ทำอย่างไรจะทำให้การเมือง คือเรื่องการบริหารประเทศ ทำให้ทุกคนเข้าใจเดินหน้าไปให้ได้ โดยมีธรรมาภิบาล ไม่ใช่มาต้อสู้กัน โดยเอาประชาชนมาต่อสู้ ผมก็ไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าให้มีขึ้นอีกก็แล้วกัน วันนี้เรากำหนดประเด็นการปฏิรูป 11 ด้าน สำหรับเรื่องรัฐธรรมนูญ ก็เหมือนเดิม ผมไม่ได้ต้องการให้ผ่าน หรือไม่ให้ผ่าน ผมไม่สนใจ เพียงแต่ให้ไปทำ ไปคิดกันมา อย่าให้ผมต้องรับผิดชอบทุกเรื่อง ถ้าผมรับผิดชอบเอง คงไม่ต้องตั้งสปช. กรธ. ผมคงเขียนรัฐธรรมนูญเอง ซึ่งหลายประเทศก็ทำกัน แต่ผมก็แต่งตั้งคนให้ไปร่างรัฐธรรมนูญมา แต่เมื่อร่างฯ เสร็จ ก็ไม่เห็นชอบ ก็กลับมาให้เป็นอำนาจของนายกฯ เป็นคนตั้ง โดยหัวหน้า คสช. เป็นผู้รับผิดชอบร่วมด้วย เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมกับผมเท่าไหร่ ดังนั้นคราวหน้าถ้าใครไม่เข้ามาอยู่ใน สปช. ก็ห้ามไปพูดในทุกๆที่ มีอะไรก็ให้ไปพูดในสปช. แล้วกรธ. ก็จะเป็นผู้ทำ โดยรับฟังจากความคิดเห็นทุกฝ่าย ซึ่งวันนี้ไม่ต้องมาวิ่งเต้นกับผม ใครวิ่งเต้นเข้ามาก็จะขีดชื่อทิ้งก่อนเลย วันนี้เยอะมาก วันนี้ได้มี สปช. ที่เสนอเรื่องการปฏิรูป 37 ประเด็น และมีสนช. ทำงานต่อในเรื่องกฎหมาย อะไรที่ทำได้วันนี้ผมก็จะพิจารณาและทำ อยากให้เข้าใจกันเสียที ไม่ใช่บ่นว่า ไม่ได้ทำอะไร เมื่อปฏิรูปเสร็จออกมา สนช.ก็จะเป็นผู้ออกกฎหมาย ไม่เช่นนั้นใครจะทำก็ต้องฝากรัฐบาลหน้าแล้วเขาจะทำไหม"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การดำเนินการในระยะที่ 2 ของรัฐบาลในขณะนี้ หลังการนำปัญหาเดิมมาแก้ปัญหา เริ่มสิ่งใหม่ๆ ทำกฎหมาย 300- 400 ฉบับ และเรื่องต่างๆ ที่ไม่สากล เราได้ทำทั้งหมด วางรากฐานประเทศ ทั้งนี้เรามีความอ่อนแอหลายด้าน โดยเฉพาะเศรษฐกิจ ทำให้เราไม่เข้มแข็งเพียงพอที่จะเผชิญต่อสถานการณ์โลกในตอนนี้ การดำเนินการตามโรดแมปในระยะที่สามก็ขอให้รอหน่อย ตอนนี้มันเลื่อนไป 20 เดือน ถ้าเร็วขึ้นได้ก็เร็ว และ 20 เดือนนี้จริง ๆ พวกตนไม่อยากได้เลย แต่มันเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ ตนไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ตนไปสั่งให้ผ่าน หรือไม่ผ่าน มันไม่ใช่ อย่าไปคิดว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ให้คิดว่าสิ่งที่เราทำไว้และเริ่มในวันนี้ ใครจะมาทำต่อ เป็นเรื่องของ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่ากันไป ถ้าทำเร็ว ก็เร็วกว่า 20 เดือน ไม่รู้ว่าท่าน อภิสิทธิ์ จะเตรียมตัวทันหรือไม่ แต่ก็เชื่อว่าทุกคนพร้อมอยู่แล้ว ตนก็พร้อมที่จะให้ แต่ปัญหาคือมันยังไม่เรียบร้อย ไม่สงบ
สำหรับการพัฒนาประเทศ คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกพรรคการเมืองต้องร่วมมือกันเดินหน้าประเทศ วันนี้อย่าเพิ่งตีกัน ถ้าเราดีกันวันนี้ วันหน้าก็จะไม่ทะเลาะกัน ปัญหาของเราคือ การเป็นรัฐบาลผสม พรรคดูกันคนละกระทรวง วันนี้เราต้องทำงบประมาณร่วมกันทุกกระทรวง เรื่องน้ำมีกระทรวงไหนบ้าง ไม่ใช่ต่างคนต่างมี มันจะทำให้เสียหาย รัฐบาลต้องมีคณะกรรมการขับเคลื่อน ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องต่างๆ ฝากตรงนี้ไว้ด้วย เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนประเทศต่อไปในระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ทุกระทรวงเดินหน้าไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ขอแค่ 5 ปีพอ ถ้าทุกระทรวงมีเป้าหมาย แล้วนำงบประมาณมาบูรณาการร่วมกัน ก็จะไม่ซ้ำที่เดิม
พล.อ.ประยุทธ์ กฃล่าวด้วยว่า ตนไม่ได้เสนอให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) เพื่อไม่ให้มันไปไม่ได้ แต่ตนเห็นสปช. คิดมา เขาเริ่มต้นมาแล้ว ก็มาดูว่ามันไปได้หรือเปล่า ไม่ได้ต้องการไม่ให้ผ่านเพื่อจะมาอยู่ตรงนี้ แต่มันทิ้งไม่ได้ เพราะยังไม่พร้อม ถ้าพร้อมวันนี้แล้วพวกหนึ่งขี้นมาเป็นรัฐบาล อีกพวกหนึ่งจะเลิกไหม มันไม่เลิกทั้งคู่ แล้วจะทำยังไง ฝากนักการเมืองไว้ด้วย ท่านอยากจะเลือกตั้ง ตนไม่มีปัญหา แต่หากมันเกิดเรื่องขึ้นมาอีกครั้ง คงไม่มีใครมาอยู่ตรงนี้อีกแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "คน ถือว่าสำคัญที่สุด คนกับความคิดของคน ถ้ามันคิดไม่ดี คนมันก็ไม่ดี ถ้าเป็นคนดี คนเก่ง แล้วคิดดีทุกอย่างก็ไปโลด อย่าสอนให้คนสุดโต่ง เพราะถ้าบ้านเมืองไหนไม่มีวินัยภายในชาติมันก็ไปไม่รอด
ส่วนเรื่องการทุจริตต่างๆ รัฐบาลนี้ไม่ได้เริ่มขึ้น แต่เกิดมาก่อนหน้านี้นานแล้ว แต่ไม่ถูกดำเนินคดี อยู่ในองค์กรตรวจสอบต่างๆ ซึ่งตนก็ให้รวบมาเข้าสู่กระบวนการเพื่อจะได้จบเสียที ไม่เช่นนั้นก็คาอยู่อย่างนั้น
ตอนนี้รัฐบาลทำโครงสร้างเรื่องการปฏิรูป และฝากให้รัฐบาลต่อไปทำ สิ่งไหนทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็คุยกัน อย่าไปกลัว ทำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก นั่นแหละเขาเรียกว่าการแก้การรัฐประหาร ซึ่งก็ต้องมี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ (คปป.) วันนี้ ทุกคนบอกว่าจะไม่มีเรื่อง เอาอะไรมาประกันว่าไม่มีเรื่อง ทุกวันนี้ก็เห็นตัวอยู่แล้ว ใครจะเป็นรัฐบาลมันมีแค่นั้น จะเลิกกันได้หรือยัง ต้องกรีดเลือดสาบานกันก่อนไหม
" ถ้าถึงเวลาก็ต้องมีการเลือกตั้ง เราจะดูการเลือกตั้งให้ปลอดภัย ขอให้ช่วยกันทำบ้านเมืองสงบในช่วงนี้ ไม่นานนักหรอก อย่าเสียเวลาไปกับประชาธิปไตยที่มาจากความไม่เป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำ ไม่มีธรรมาภิบาล อย่าเสียเวลาอีกเลย มองดูว่ารัฐธรรมนูญ เราควรจะเป็นอย่างไรเพื่อคนไทยทุกคน และเพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และศักดิ์ศรีของประเทศในสายตาต่างชาติ เราต้องเติบโตเข้มแข็งไปด้วยกัน อย่าไปเอาใครเข้ามาทาบทับใช้อำนาจตรวจสอบ พวกนี้มันท่าทางจะบ้า ถ้าไทยตัดสินใจอะไรไม่ได้แล้วเอาใครเข้ามา มันก็จะเหมือนบ้านอื่นเขา เหมือนผู้อพยพจากยุโรปไง รับไหมล่ะ แบบนั้น มาจากทุกที่ เขายังไม่รับเลย มาวันละ 40,000 คนไหวไหม วันนี้บ้านเราก็เป็นทางผ่าน คนไม่ดีก็มีก็มีค้ามนุษย์ ก็แก้จนจะหมดแล้วยังลากเขาเข้ามายุ่งกับเราอีก ขอร้องเถอะครับ สื่อทุกคนด้วย บางเรื่องไม่จำเป็นก็อย่ามาคุ้ยเขี่ยให้เป็นเรื่องราว "
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนท้ายว่า วันนี้พูดเหนื่อยมาก เอกสาร 70 หน้า เดี๋ยวบ่ายพูดอีก ขอให้ทนๆ กันหน่อย และขอแซว นายอภิสิทธิ์ ให้ทนๆ หน่อย อย่างไรก็เคยทำงานมาด้วยกัน และอีกหลายๆ คนก็เคยร่วมงาน
วานนี้ (14ก.ย.) ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมประจำปี 2558 ของ สศช. เรื่อง"ทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564)"ว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 12 นี้ ถือว่ามีความสำคัญ เพราะอยู่ระยะที่ คสช.เข้ามาทำงาน โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนเกิดความมั่นคง มั่นคั่ง และยั่งยืน และไม่ทำให้เกิดปัญหาในอนาคต
ยุทธศาสตร์วันนี้ต้องมองไปข้างหน้าอีก 20 ปี ต้องทำทุกอย่างให้ดีขึ้นทุกด้าน อย่าให้ลูกหลานผิดหวัง โดยต้องสอดคล้องทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพราะจะมีการแข่งขันมากขึ้น การพัฒนาประเทศจะถูกล็อกด้วยกฎหมายกติกาต่างๆ จำนวนมาก ช่วงที่ผ่านมาเราก็ทำเฉยๆไว้ แต่พอรื้อออกมา จึงรู้ว่ามีหลายเรื่องที่ไม่ได้ทำ ตอนนี้ก็ต้องมาเร่งแก้ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะทุกประเทศก็คุยกับตนดี
" ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผมมาอย่างไร แต่ปัญหาหลักคือ เขาสนใจว่าเศรษฐกิจเขาจะไปอย่างไร เพราะเศรษฐกิจบ้านเขาอยู่ในบ้านเรามาก แต่ยืนยันว่า เราดูแลเขาอย่างดี ไม่เคยกดดันหรือปิดกั้น มีแต่อำนวยความสะดวกมากขึ้น และทำอย่างไร เราจะอยู่ร่วมกันได้ ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับกฎหมาย ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ทำให้ทุกคนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน "
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก่อนวันที่ 22 พ.ค. 57 ทุกคนทราบดี ตนคงไม่ต้องพูดอะไรอีก เพราะทุกอย่างมันไปไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ ก็ทราบดีว่า ทุกอย่างมันไปไม่ได้ เนื่องจากมีปัญหาที่ทับซ้อนและเกี่ยวโยงกัน เริ่มจากนักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน ที่ต้องเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน ไม่ให้ใครมาบิดเบือน
"ขอเรียนท่านอภิสิทธิ์ เลยว่า ผมไม่ต้องการที่จะสืบทอดอำนาจอยู่แล้ว ขอให้บอกกับพวกเขาเลยว่า ผมไม่ต้องการ วันเดียวยังไม่อยากอยู่เลย วันนี้เมื่อมันมีปัญหาเยอะ พวกท่านก็ต้องช่วยผม นักการเมืองที่ดีต้องช่วยให้ผมทำอย่างไรให้สร้างรากฐานประเทศก่อน ที่ผ่านมาสร้างไม่ได้ เพราะการแข่งขันทางการเมืองสูง ประชาชนเลยต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองเป็นส่วนใหญ่ ไม่สนใจเรื่องอื่น สนใจแต่เรื่องการเมือง ดังนั้น ทำอย่างไรจะทำให้การเมือง คือเรื่องการบริหารประเทศ ทำให้ทุกคนเข้าใจเดินหน้าไปให้ได้ โดยมีธรรมาภิบาล ไม่ใช่มาต้อสู้กัน โดยเอาประชาชนมาต่อสู้ ผมก็ไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องมันผ่านไปแล้ว อย่าให้มีขึ้นอีกก็แล้วกัน วันนี้เรากำหนดประเด็นการปฏิรูป 11 ด้าน สำหรับเรื่องรัฐธรรมนูญ ก็เหมือนเดิม ผมไม่ได้ต้องการให้ผ่าน หรือไม่ให้ผ่าน ผมไม่สนใจ เพียงแต่ให้ไปทำ ไปคิดกันมา อย่าให้ผมต้องรับผิดชอบทุกเรื่อง ถ้าผมรับผิดชอบเอง คงไม่ต้องตั้งสปช. กรธ. ผมคงเขียนรัฐธรรมนูญเอง ซึ่งหลายประเทศก็ทำกัน แต่ผมก็แต่งตั้งคนให้ไปร่างรัฐธรรมนูญมา แต่เมื่อร่างฯ เสร็จ ก็ไม่เห็นชอบ ก็กลับมาให้เป็นอำนาจของนายกฯ เป็นคนตั้ง โดยหัวหน้า คสช. เป็นผู้รับผิดชอบร่วมด้วย เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมกับผมเท่าไหร่ ดังนั้นคราวหน้าถ้าใครไม่เข้ามาอยู่ใน สปช. ก็ห้ามไปพูดในทุกๆที่ มีอะไรก็ให้ไปพูดในสปช. แล้วกรธ. ก็จะเป็นผู้ทำ โดยรับฟังจากความคิดเห็นทุกฝ่าย ซึ่งวันนี้ไม่ต้องมาวิ่งเต้นกับผม ใครวิ่งเต้นเข้ามาก็จะขีดชื่อทิ้งก่อนเลย วันนี้เยอะมาก วันนี้ได้มี สปช. ที่เสนอเรื่องการปฏิรูป 37 ประเด็น และมีสนช. ทำงานต่อในเรื่องกฎหมาย อะไรที่ทำได้วันนี้ผมก็จะพิจารณาและทำ อยากให้เข้าใจกันเสียที ไม่ใช่บ่นว่า ไม่ได้ทำอะไร เมื่อปฏิรูปเสร็จออกมา สนช.ก็จะเป็นผู้ออกกฎหมาย ไม่เช่นนั้นใครจะทำก็ต้องฝากรัฐบาลหน้าแล้วเขาจะทำไหม"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การดำเนินการในระยะที่ 2 ของรัฐบาลในขณะนี้ หลังการนำปัญหาเดิมมาแก้ปัญหา เริ่มสิ่งใหม่ๆ ทำกฎหมาย 300- 400 ฉบับ และเรื่องต่างๆ ที่ไม่สากล เราได้ทำทั้งหมด วางรากฐานประเทศ ทั้งนี้เรามีความอ่อนแอหลายด้าน โดยเฉพาะเศรษฐกิจ ทำให้เราไม่เข้มแข็งเพียงพอที่จะเผชิญต่อสถานการณ์โลกในตอนนี้ การดำเนินการตามโรดแมปในระยะที่สามก็ขอให้รอหน่อย ตอนนี้มันเลื่อนไป 20 เดือน ถ้าเร็วขึ้นได้ก็เร็ว และ 20 เดือนนี้จริง ๆ พวกตนไม่อยากได้เลย แต่มันเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ ตนไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่ตนไปสั่งให้ผ่าน หรือไม่ผ่าน มันไม่ใช่ อย่าไปคิดว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ให้คิดว่าสิ่งที่เราทำไว้และเริ่มในวันนี้ ใครจะมาทำต่อ เป็นเรื่องของ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่ากันไป ถ้าทำเร็ว ก็เร็วกว่า 20 เดือน ไม่รู้ว่าท่าน อภิสิทธิ์ จะเตรียมตัวทันหรือไม่ แต่ก็เชื่อว่าทุกคนพร้อมอยู่แล้ว ตนก็พร้อมที่จะให้ แต่ปัญหาคือมันยังไม่เรียบร้อย ไม่สงบ
สำหรับการพัฒนาประเทศ คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกพรรคการเมืองต้องร่วมมือกันเดินหน้าประเทศ วันนี้อย่าเพิ่งตีกัน ถ้าเราดีกันวันนี้ วันหน้าก็จะไม่ทะเลาะกัน ปัญหาของเราคือ การเป็นรัฐบาลผสม พรรคดูกันคนละกระทรวง วันนี้เราต้องทำงบประมาณร่วมกันทุกกระทรวง เรื่องน้ำมีกระทรวงไหนบ้าง ไม่ใช่ต่างคนต่างมี มันจะทำให้เสียหาย รัฐบาลต้องมีคณะกรรมการขับเคลื่อน ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ และเรื่องต่างๆ ฝากตรงนี้ไว้ด้วย เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนประเทศต่อไปในระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ทุกระทรวงเดินหน้าไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ขอแค่ 5 ปีพอ ถ้าทุกระทรวงมีเป้าหมาย แล้วนำงบประมาณมาบูรณาการร่วมกัน ก็จะไม่ซ้ำที่เดิม
พล.อ.ประยุทธ์ กฃล่าวด้วยว่า ตนไม่ได้เสนอให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) เพื่อไม่ให้มันไปไม่ได้ แต่ตนเห็นสปช. คิดมา เขาเริ่มต้นมาแล้ว ก็มาดูว่ามันไปได้หรือเปล่า ไม่ได้ต้องการไม่ให้ผ่านเพื่อจะมาอยู่ตรงนี้ แต่มันทิ้งไม่ได้ เพราะยังไม่พร้อม ถ้าพร้อมวันนี้แล้วพวกหนึ่งขี้นมาเป็นรัฐบาล อีกพวกหนึ่งจะเลิกไหม มันไม่เลิกทั้งคู่ แล้วจะทำยังไง ฝากนักการเมืองไว้ด้วย ท่านอยากจะเลือกตั้ง ตนไม่มีปัญหา แต่หากมันเกิดเรื่องขึ้นมาอีกครั้ง คงไม่มีใครมาอยู่ตรงนี้อีกแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "คน ถือว่าสำคัญที่สุด คนกับความคิดของคน ถ้ามันคิดไม่ดี คนมันก็ไม่ดี ถ้าเป็นคนดี คนเก่ง แล้วคิดดีทุกอย่างก็ไปโลด อย่าสอนให้คนสุดโต่ง เพราะถ้าบ้านเมืองไหนไม่มีวินัยภายในชาติมันก็ไปไม่รอด
ส่วนเรื่องการทุจริตต่างๆ รัฐบาลนี้ไม่ได้เริ่มขึ้น แต่เกิดมาก่อนหน้านี้นานแล้ว แต่ไม่ถูกดำเนินคดี อยู่ในองค์กรตรวจสอบต่างๆ ซึ่งตนก็ให้รวบมาเข้าสู่กระบวนการเพื่อจะได้จบเสียที ไม่เช่นนั้นก็คาอยู่อย่างนั้น
ตอนนี้รัฐบาลทำโครงสร้างเรื่องการปฏิรูป และฝากให้รัฐบาลต่อไปทำ สิ่งไหนทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็คุยกัน อย่าไปกลัว ทำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก นั่นแหละเขาเรียกว่าการแก้การรัฐประหาร ซึ่งก็ต้องมี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ (คปป.) วันนี้ ทุกคนบอกว่าจะไม่มีเรื่อง เอาอะไรมาประกันว่าไม่มีเรื่อง ทุกวันนี้ก็เห็นตัวอยู่แล้ว ใครจะเป็นรัฐบาลมันมีแค่นั้น จะเลิกกันได้หรือยัง ต้องกรีดเลือดสาบานกันก่อนไหม
" ถ้าถึงเวลาก็ต้องมีการเลือกตั้ง เราจะดูการเลือกตั้งให้ปลอดภัย ขอให้ช่วยกันทำบ้านเมืองสงบในช่วงนี้ ไม่นานนักหรอก อย่าเสียเวลาไปกับประชาธิปไตยที่มาจากความไม่เป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำ ไม่มีธรรมาภิบาล อย่าเสียเวลาอีกเลย มองดูว่ารัฐธรรมนูญ เราควรจะเป็นอย่างไรเพื่อคนไทยทุกคน และเพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และศักดิ์ศรีของประเทศในสายตาต่างชาติ เราต้องเติบโตเข้มแข็งไปด้วยกัน อย่าไปเอาใครเข้ามาทาบทับใช้อำนาจตรวจสอบ พวกนี้มันท่าทางจะบ้า ถ้าไทยตัดสินใจอะไรไม่ได้แล้วเอาใครเข้ามา มันก็จะเหมือนบ้านอื่นเขา เหมือนผู้อพยพจากยุโรปไง รับไหมล่ะ แบบนั้น มาจากทุกที่ เขายังไม่รับเลย มาวันละ 40,000 คนไหวไหม วันนี้บ้านเราก็เป็นทางผ่าน คนไม่ดีก็มีก็มีค้ามนุษย์ ก็แก้จนจะหมดแล้วยังลากเขาเข้ามายุ่งกับเราอีก ขอร้องเถอะครับ สื่อทุกคนด้วย บางเรื่องไม่จำเป็นก็อย่ามาคุ้ยเขี่ยให้เป็นเรื่องราว "
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนท้ายว่า วันนี้พูดเหนื่อยมาก เอกสาร 70 หน้า เดี๋ยวบ่ายพูดอีก ขอให้ทนๆ กันหน่อย และขอแซว นายอภิสิทธิ์ ให้ทนๆ หน่อย อย่างไรก็เคยทำงานมาด้วยกัน และอีกหลายๆ คนก็เคยร่วมงาน