xs
xsm
sm
md
lg

ดันลงทุน17โครงการเม็ดเงินกว่า1.6 ล้านล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“อาคม”ดันลงทุน 17โครงการ มูลค่ากว่า1.6 ลล.เร่งประมูลในปี 59 ตามแผนกระตุ้นศก.ระยะเร่งด่วน เข็นประมูลรถไฟทางคู่ 6 สาย ชงครม.อนุมัติรถไฟฟ้า 4 สาย ส่วนรถไฟไทย-จีนไม่ฟันธงตอกเข็มได้ตามแผนเดิมธ.ค.59 รอหารือจีน ต้นก.ย.ก่อน มั่นใจการลงทุนภาคขนส่งช่วยหนุนจีดีพีครึ่งปีหลัง เผยแบ่งงาน คุมหน่วยงานอากาศและระบบรางรถไฟไทย-ญี่ปุ่นเองส่วน”ออมสิน”คุมทางน้ำและรถไฟไทย-จีน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว ในโอกาศประชุมมอบนโยบายและแนวทางการทำงานให้แก่ผู้บริหารหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ว่า เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ ในปี 2556 - 2560 โดยมีโครงการเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2558-2559 มี 5 เรื่อง คือ 1.ขับเคลื่อนและผลักดันโครงการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง จำนวน 17 โครงการ มูลค่าประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท รวมทั้งเร่งรัดการลงทุน โครงการต่าง ๆ ทั้งในส่วนของงบประมาณประจำปี และงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 2. การใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ขนส่งให้เป็นประโยชน์และเชื่อมโยงกัน ทั้งด้านท่องเที่ยว,ด้านสุขภาพ ซึ่งจะมีโครงการทางจักรยานเป็นหลัก,เศรษฐกิจชุมชนการเกษตร และเศรษฐกิจการค้าการลงทุนเชื่อมเขตเศรษฐกิจพิเศษ 3. การปรับปรุงคุณภาพและบริการของระบบขนส่งสาธารณะ โดยภายในปี 2559 จะต้องเชื่อมระบบตั๋วร่วมกับขนส่งทุกโหมดและเชื่อมบัตร Easy Pass ของทางด่วนและบัตร M Passของมอเตอร์เวย์ให้สามารถใช้งานได้ในใบเดียวกันภายในกลางปี 2559

4. การแก้ไขปัญหาและสร้างมาตรฐานใหม่ ของการเป็น หน่วยงานกำกับดูแลและหน่วยงานการให้บริการ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาและการสร้างมาตรฐานใหม่ เช่นแก้ปัญหา IUU ประเด็นการทำประมงผิดกฎหมาย และการแก้ไขปัญหามาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน หรือ SSC 5. การดำเนินการตามแผนฟื้นฟูหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ
สำหรับโครงการ 17 โครงการที่จะขับเคลื่อนนั้น มีที่ได้รับการอนุมัติแล้ว 5 โครงการคือ มอเตอร์เวย์ 3 สาย โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) และ ศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่แหลมฉบัง (SRTO) โดยเหลือ 12 โครงการ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการพิจารณาโครงการที่อยู่ในแผนปีต่อไปหากมีความจำเป็นก็จะเร่งรัดในการดำเนินการก่อนได้ โดยในปลายปีนี้คาดว่าโครงการที่จะเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้คือ รถไฟฟ้า 4 สาย คือ สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) สีเหลือง( ลาดพร้าว-สำโรง) สีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) และสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) รวมถึงความร่วมมือไทย-จีน รถไฟขนาดราง 1 .435 เมตร เส้นทางกรุงเทพ- แก่งคอย,แก่งคอย-มาบตาพุด ,แก่งคอย -โคราช, โคราช-หนองคาย ระยะทาง 873 กม. ความร่วมมือรถไฟไทย-ญี่ปุ่น และโครงการรถไฟความเร็วสูง (กรุงเทพ-ระยอง) และเส้นทางกรุงเทพ-หัวหินส่วนโครงการที่จะเปิดประกวดราคาได้ภายในปีนี้ คือ รถไฟทางคู่ 6 เส้นทางซึ่งขณะนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ประกาศร่างทีโออาร์แล้ว 2 เส้นทาง คือ ฉะเชิงเทรา - คลองสิบเก้า - แก่งคอย และจิระ-ขอนแก่น และอยู่ระหว่างนำเสนอครม. คือ มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระและที่อยู่ระหว่างการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ช่วงประจวบคีรีขันธ์- ชุมพร ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ และช่วงนครปฐม-หัวหิน

นายอาคมกล่าวถึงรถไฟไทย-จีน ว่า จากกำหนดที่จะตอกเข็มในเดือนต.ค.หรืออย่างช้าเดือนธ.ค.2559 สำหรับตอนที่ 1 กรุงเทพฯ-แก่งคอย และตอนที่3 แก่งคอย-นครราชสีมา นั้น จะมีความชัดเจนหลังการประชุมร่วมครั้งที่7 ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 10-11 ก.ย.2558เพราะตามขั้นตอนจะต้องมีการขออนุมัติและจะต้องดูความเป็นไปได้ของผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ซึ่งทางจีนจะส่งมาในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ซึ่งจะพิจารณารายละเอียดมาพิจารณา ว่ามีความครบถ้วนหรือไม่ รวมถึงเห็นชอบร่วมกันก่อน จึงจะยืนยันได้ว่าจะสามารถตอกเข็มได้ในเดือนต.ค.หรือไม่ หากผลศึกษายังไม่ได้รับความเห็นชอบเวลาในการตอกเข็มจะต้องขยับออกไป

“งานของคมนาคม ถือเป็นหนึ่งในเสาหลักของทีมเศรษฐกิจที่จะร่วมผลักดันขับเคลื่อนการลงทุนดังนั้น จะเร่งรัดผลักดันทุกทางเพื่อให้เป็นรูปธรรม ในปี 58-59 ส่วนโครงการที่เกินจากปี 2559 ไป จะส่งมอบให้รัฐบาลชุดต่อไปขับเคลื่อน ”

นายอาคมกล่าวว่า การลงทุนด้านคมนาคมขนส่งที่คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1% ของ GDPจะมีเม็ดเงินออกมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง ให้GDP เติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก ที่เติบโตได้ราว 2.9% ซึ่ง โดยมีภาคการท่องเที่ยวเป็นตัวหลัก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/58 จะมีการเบิกจ่ายงบ40,000 ล้านบาทที่เป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่ระบบบวกกับเม็ดเงินต้นปีงบประมาณ 2559 จะทยอยออกมา
กำลังโหลดความคิดเห็น