"วัชระ" เตรียมหอบหลักฐานผู้บริหาร อสมท.ร่วมกับเอกชน "เครือทรูวิชั่น" ทุจริตสัญญาสัมปทานโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิก ยื่นป.ป.ช.สอบฐานละเว้นหน้าที่ พร้อมฟันผิด พ.ร.บ.ความผิดพนักงานองค์กรรัฐ
วานนี้ (23 ส.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชน เกี่ยวกับการทุจริตในองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทสไทย (อสทม.) กรณีการทำสัญญาร่วมดำเนินการกิจการโทรทัศน์ระบบตอบรับการเป็นสมาชิก ระหว่าง อสมท.กับ บริษัท ทรูวิชั่น ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 57
โดยก่อนสิ้นสุดสัญญาคณะกรรมการผู้บริหาร อสมท.ได้ทราบว่า ทรูวิชั่นเคเบิ้ล ได้ทำผิดสัญญา และอาจจะกระทำผิดอาญาต่ออสมท. แต่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการเอาผิด และหรือเรียกร้องค่าเสียหายให้กับองค์กร หรือเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนน้อยกว่าความเป็นจริง เป็นเหตุให้อสมท. ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ การกระทำความผิดดังกล่าว ประกอบด้วย 1. การให้บริการ ทรู เอนนี่แวร์ โดยมิชอบ มีการนำช่องรายการตามสัญญาไปให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตผ่านทางเว็บ บาร์วเซอร์ และทางเว็ปไซต์ ทรูวิชั่น แอพพิเคชั่น สำหรับแท็ปเล็ต และสมาร์ทโฟน และจัดให้มีการโฆษณาในระหว่างรับชม และขายแพ็กเก็จ ไม่ไดรับอนุญาต
2. การไม่นำส่งค่าโฆษณาของช่องรายการ TNN24 3. ส่วนแบ่งรายได้ที่ทรูนำส่งไม่ครบถ้วน 4. ทรัพย์สินที่ต้องมอบให้แก่อสม.ตามสัญญา และ 5. การดำเนินการกิจการของ ทรูวิชั่น กรุ๊ฟ
นายวัชระ กล่าวว่า จากเอกสารหน้านับร้อยหน้า มีข้อพิจารณา คือ บอร์ด อสมท. ได้ทราบเหตุข้อพิพาทดังกล่าวแล้ว และมีการจัดประชุมหลายครั้ง มีการตั้งประเด็นข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ข้อสัญญา และแนวทางเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว ทางฝ่ายบริหาร อสมท. กลับมีการพิจารณาในการประชุมครั้งที่ 8/2558 วันที่ 26 พ.ค. 58 และบันทึกข้อตกลงระหว่าง อสมท. กับ ทรูวิชั่น และทรูวิชั่น เคเบิล จำกัด ลงนามโดย นายศิวะพร พรมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ อสมท. และนายธนชัย วงศ์ทองศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท. เป็นพยาน โดยไม่มีการคำนึงถึงผลที่ควรได้ และต้องเสียไปของอสมท. ทั้งที่มีข้อบันทึกการตกลงระหว่าง บ.ทรูวิชั่น และ ทรู เคเบิล กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงค่าเรียกร้องผลประโยชน์ต่างๆ ตามสัญญาเดิมโดยเฉพาะ นายธนชัย และนายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นกรรมการในบ.ทรูวิชั่น กลับปล่อยปละละเลย ไม่ทำตามสัญญาที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งทราบดีว่าบ.ทรูวิชั่นกำลังหมดสัญญากับ อสมท. และมีพฤติกรรมทำผิดสัญญามาก่อนหน้านี้ กลับไม่มีมาตรการใดมารองรับให้ธุรกิจยังคงมีอยู่และเป็นของอสมท. อย่างน้อยแสดงออกถึงความตั้งใจเรียกร้องค่าเสียหายให้องค์กร โดยนายธนชัยยังลงนาม เป็นพยานในบันทึกที่เห็นชัดเจนว่า อสมท.เสียหาย และไม่สามารถฟ้องร้องค้าเสียหายกับคู่สัญญาได้อีก
ดังนั้นวันที่ 25 ส.ค.นี้ ตนจะนำเอกสารทั้งหมดส่งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการตรวจสอบผู้บริหาร และพนักงาน อสมท.ที่เกี่ยวข้อง ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต และให้ดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการความผิดพนักงานองค์กรของรัฐ และตามพ.ร.บ.ป.ป.ช.ต่อไป และหากเอกชนคู่สัญญามีส่วนรู้เห็นให้ถือว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของผู้บริหารอสมท.ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า ในสัญญาเริ่มต้น ระหว่าง อสมท. กับ ทรูวิชั่น มีลายเซ็นของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร อดีตภรรยาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ร่วมเป็นพยานด้วย.
วานนี้ (23 ส.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชน เกี่ยวกับการทุจริตในองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทสไทย (อสทม.) กรณีการทำสัญญาร่วมดำเนินการกิจการโทรทัศน์ระบบตอบรับการเป็นสมาชิก ระหว่าง อสมท.กับ บริษัท ทรูวิชั่น ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 57
โดยก่อนสิ้นสุดสัญญาคณะกรรมการผู้บริหาร อสมท.ได้ทราบว่า ทรูวิชั่นเคเบิ้ล ได้ทำผิดสัญญา และอาจจะกระทำผิดอาญาต่ออสมท. แต่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการเอาผิด และหรือเรียกร้องค่าเสียหายให้กับองค์กร หรือเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนน้อยกว่าความเป็นจริง เป็นเหตุให้อสมท. ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ การกระทำความผิดดังกล่าว ประกอบด้วย 1. การให้บริการ ทรู เอนนี่แวร์ โดยมิชอบ มีการนำช่องรายการตามสัญญาไปให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาตผ่านทางเว็บ บาร์วเซอร์ และทางเว็ปไซต์ ทรูวิชั่น แอพพิเคชั่น สำหรับแท็ปเล็ต และสมาร์ทโฟน และจัดให้มีการโฆษณาในระหว่างรับชม และขายแพ็กเก็จ ไม่ไดรับอนุญาต
2. การไม่นำส่งค่าโฆษณาของช่องรายการ TNN24 3. ส่วนแบ่งรายได้ที่ทรูนำส่งไม่ครบถ้วน 4. ทรัพย์สินที่ต้องมอบให้แก่อสม.ตามสัญญา และ 5. การดำเนินการกิจการของ ทรูวิชั่น กรุ๊ฟ
นายวัชระ กล่าวว่า จากเอกสารหน้านับร้อยหน้า มีข้อพิจารณา คือ บอร์ด อสมท. ได้ทราบเหตุข้อพิพาทดังกล่าวแล้ว และมีการจัดประชุมหลายครั้ง มีการตั้งประเด็นข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ข้อสัญญา และแนวทางเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว ทางฝ่ายบริหาร อสมท. กลับมีการพิจารณาในการประชุมครั้งที่ 8/2558 วันที่ 26 พ.ค. 58 และบันทึกข้อตกลงระหว่าง อสมท. กับ ทรูวิชั่น และทรูวิชั่น เคเบิล จำกัด ลงนามโดย นายศิวะพร พรมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ อสมท. และนายธนชัย วงศ์ทองศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท. เป็นพยาน โดยไม่มีการคำนึงถึงผลที่ควรได้ และต้องเสียไปของอสมท. ทั้งที่มีข้อบันทึกการตกลงระหว่าง บ.ทรูวิชั่น และ ทรู เคเบิล กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงค่าเรียกร้องผลประโยชน์ต่างๆ ตามสัญญาเดิมโดยเฉพาะ นายธนชัย และนายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นกรรมการในบ.ทรูวิชั่น กลับปล่อยปละละเลย ไม่ทำตามสัญญาที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งทราบดีว่าบ.ทรูวิชั่นกำลังหมดสัญญากับ อสมท. และมีพฤติกรรมทำผิดสัญญามาก่อนหน้านี้ กลับไม่มีมาตรการใดมารองรับให้ธุรกิจยังคงมีอยู่และเป็นของอสมท. อย่างน้อยแสดงออกถึงความตั้งใจเรียกร้องค่าเสียหายให้องค์กร โดยนายธนชัยยังลงนาม เป็นพยานในบันทึกที่เห็นชัดเจนว่า อสมท.เสียหาย และไม่สามารถฟ้องร้องค้าเสียหายกับคู่สัญญาได้อีก
ดังนั้นวันที่ 25 ส.ค.นี้ ตนจะนำเอกสารทั้งหมดส่งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการตรวจสอบผู้บริหาร และพนักงาน อสมท.ที่เกี่ยวข้อง ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต และให้ดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการความผิดพนักงานองค์กรของรัฐ และตามพ.ร.บ.ป.ป.ช.ต่อไป และหากเอกชนคู่สัญญามีส่วนรู้เห็นให้ถือว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของผู้บริหารอสมท.ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า ในสัญญาเริ่มต้น ระหว่าง อสมท. กับ ทรูวิชั่น มีลายเซ็นของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร อดีตภรรยาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ร่วมเป็นพยานด้วย.