ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์
คุณท่านผู้นำได้คัดสรรคณะเสนาบดีชุดใหม่ มีทั้งหน้าเดิมสลับตำแหน่งในลักษณะไทยๆ คือรักษาหน้า รักษาน้ำใจ ตัดบัวยังเหลือใย ถนอมเอาไว้เพื่อใช้ประโยชน์ ใน วันข้างหน้า ที่เห็นชัดคือการโละทีมเศรษฐกิจออก ดูชื่อกลุ่มคนมาแทนดูเหมือนมีทางเลือกจำกัด
มีเสียง “ยี้” หรือ “ชื่นชม” หรือรู้สึกเฉยๆ ก็สุดแล้วแต่คนสนใจการบ้านการเมือง
ยุคนี้หาคนดีมีฝีมือยาก หรือว่ามีแต่ไม่อยากเปลืองตัว กลัวว่าเข้ามาแล้วจะทำอะไรไม่ได้ เพราะระบบเพื่อนพ้องน้องพี่ยังเข้มข้น เป็นประเด็นซึ่งถูกให้มองว่าคุณท่าน ไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านภาพลักษณ์ ขาดการเน้นคุณภาพจำเป็นในภาวะปัจจุบัน
หรือว่ามาด้วยต้นทุนต่ำ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับคะแนนนิยม เลือกใครก็ได้ที่สม ประโยชน์ในช่วงที่กุมอำนาจอยู่ จะจัดการอย่างไรไม่ต้องกลัวใครคัดค้านชุมนุมขับไล่ มีกฎหมายกดหัวประชาชน จำกัดสิทธิเสรีภาพไม่ให้เคลื่อนไหว จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง
อ๊ะ! แต่ว่ารัฐธรรมนูญใหม่ส่อแววแล้วนี่ ถึงมีเลือกตั้งแล้ว ก็ใช่ว่าจะไม่อยู่ต่อ! ตามหลักยุทธศาสตร์อยู่ยาวเพื่อการปรองดองสมานฉันท์ มิตรไมตรีภาคบังคับ
มีอะไรดีมั้ย ในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้? มีแน่! นั่นคือการสะดุดหยุดลงของความเสียหายที่กำลังเกิดขึ้น และอาจเกิดต่อไป ถ้าคนหน้าเดิมบางคนยังอยู่ในตำแหน่งเดิมหลังจากชาวบ้านได้เห็นศักยภาพด้านการเร่งสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองและพวกพ้อง
มีบางพวกที่ไม่รู้งาน ความสามารถต่ำ แต่สร้างค่าใช้จ่ายสูงให้รัฐ ยึดหลักสุขนิยมให้ตัวเองและสมาชิกครอบครัวด้วยเงินภาษีของประชาชน บางคนเข้ามานั่งเก้าอี้ให้อุ่น ไม่ให้ฝุ่นเกาะนึกว่าเป็นเกียรติยศชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล แต่เป็นความอัปยศของชาติ
คุณท่านน่าจะรู้ว่าในกลุ่มที่คุณท่านคัดสรรเข้ามาชุดแรกมีใครเป็นตัวถ่วง ตัวปัญหา สร้างภาพลักษณ์ติดลบด้วยพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจว่ามือสะอาด ดมพิสูจน์ได้
ต้องมองว่าพวกที่หลุดจากตำแหน่งหลักได้เสียความไว้วางใจ ความเชื่อมั่นของคุณท่านไปแล้ว น่าจะเก็บสิ่งของไปบ้าน แทนการไปรับตำแหน่งลอยๆ ไร้ความหมาย
การเปลี่ยนแปลงมีผลดี คือช่วยปรับเปลี่ยนอารมณ์ ลดความเบื่อหน่ายของชาวบ้านได้บ้างหลังจากจำเจกับท่าที พฤติกรรม ท่าทีไม่น่าไว้ใจ ถูกสงสัยว่าเป็นนักงาบ เพียงแต่อาศัยความน่าเกรงขามของชาวคณะและระบบ ทำให้การตรวจสอบแผ่วพลัง
มีบรรยากาศแห่งความน่าสงสัย มีเงื่อนงำ สภาพแวดล้อมแห่งพฤติกรรมส่อเค้าว่าถ้ายังอยู่ในตำแหน่งคุมโครงการขนาดใหญ่ หรืออำนาจเดินหน้าอนุมัติ คุณท่านนั่นแหละต้องลำบาก ตอบคำถามยากๆ ไม่ได้ จำต้องปรับแต่รับเอาไว้ ใครจะว่าก็จำทน
ชาวบ้านมองว่าเมื่อมีอำนาจ อยากทำอะไรก็ตามใจ เพียงอยากรู้ว่าจะมีใคร หน้าไหนรับผิดชอบต่อผลของการตัดสินใจ การกระทำเมื่อเกิดความเสียหายหรือไม่ ดังเช่นเสนาบดีอุตสาหกรรมคนเก่าที่อนุมัติสัมปทานขุดแร่โปแตชให้อีก 4-5 รายในภาคอีสาน
สะบัดก้นออกไปแล้ว ชาวอีสานรอความหายนะที่จะเกิด เหมือนดังโครงการโปแตชในโคราชก่อนหน้านี้ และยังมีข่าวว่าจะเสนอออกใบอนุญาตให้เปิดโรงงานน้ำตาลอีก 10 โรง ลงทุนรวมกัน 5 หมื่นล้านบาท ไม่ต้องคิดมากว่า “หวาน” แค่ไหน
การปรับ ครม. ของคุณท่านทำให้บางคนพลาดโอกาสแสดงศักยภาพให้ถึงขีดสุดในการบริหารจัดการโครงการเมกะโปรเจ็กท์หลายแสนล้าน เพื่อให้ผู้รับเหมากินยาวไปหลายปี เอ๊ะ! หรือว่าสรุปอะไรเรียบร้อยไปแล้ว จึงเปิดทางให้ออกไปหลีกน้ำลดตอผุด?
โครงการฟื้นฟูอภิมหาโครงการโคตรโกง โคตรโง่น้ำเน่าคลองด่าน จะทุ่มเงินอีก 300 ล้านเติมค่าโง่เดิม คงต้องเลิกรากันไป เมื่อเจ้าของความคิดต้องไปทดลองงานในอีกกระทรวง หลังจากสร้างความผิดหวังรุนแรง ล้มเหลวในการทวงแผ่นดินคืนจากนักบุกรุก
ชาวปากน้ำต้องการเห็นความต่อเนื่องของธรรมชาติจัดสรร พร้อมกับการคืนมาของป่าชายเลนคงหายใจด้วยความโล่งอก พวกที่จ้องงบโครงการศึกษาวิจัยต้องผิดหวัง
หลังจากประเมินฝีมือของชุดแรกผิดพลาด งานนี้คุณท่านยังเปิดโอกาสให้พวกที่ล้มเหลว ผลงานไม่เข้าตาในกระทรวงที่เคยจัดการ ไปลองผิดลองถูกต่ออีกในกระทรวงอื่น เอาภารกิจสำคัญของบ้านเมืองเป็นที่ทดลองงาน รองรับพวกพ้องที่เกษียณอายุ
นี่คือการละเลยหลักการคัดเลือกคนให้เหมาะกับงานตามความรู้ ความสามารถ ภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ ยุคนี้คำว่า “ความเหมาะสม” “สถานการณ์พิเศษ” สำคัญที่สุด ความเกรงใจ การรักษาหน้าเพื่อนพ้องน้องพี่ ทำให้งานไม่เข้าเป้า เสียหายด้วย
โดยรวมแล้วดูดีกว่าเดิมมั้ย? อ๋อ! ต้องดูดีกว่าแน่เพราะมีความเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยที่สุดพวกที่สร้างปัญหาความน่าเชื่อถือ มือไม่ถึง สร้างแต่เรื่อง ได้ถูกคัดออกไปให้เป็นชาวบ้านธรรมดา เอานิสัยเดิมมาใช้แทนความอหังการที่ไม่แยแสเสียงของชาวบ้าน
สร้างความหวังอะไรได้บ้าง? อ๋อ! ต้องรอให้แสดงฝีมือก่อน และมีหลายประเด็นซึ่งจะต้องพิสูจน์ความกล้าหาญของคนกลุ่มใหม่ว่าใจถึงพึ่งใด้ น่าไว้ใจ หรือไม่ และชาวบ้านต้องสอดส่องให้ดีว่ามี “เด็กเจ้าสัว” ฝากเข้ามาเพื่อสานต่อผลประโยชน์มั้ย
โดยรวมแล้ว ปริมาณเต็มโควต้า แต่ประเมินคะแนนตั้งต้นน่าจะให้ได้สัก 60 เปอร์เซ็นต์ แบบอวยกันสุดๆ มองโลกสวย ลืมไปว่าพวกหน้าเดิมที่ฝังรากลึกจะปรับปรุงพฤติกรรม ยกระดับความตั้งใจบริหารจัดการงานให้เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านหรือไม่
วิกฤตการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและงานด้านอื่นๆ ที่หนักหนาสาหัส ควรได้คณะใหม่ที่มีฝีมือน่าไว้ใจ ฟื้นฟูความหวังได้มากกว่านี้ แต่เมื่อเป็นสถานการณ์พิเศษ ชาวบ้านต้องทำใจเป็นพิเศษเช่นกัน บ้างคงถอนหายใจนึกถึงเวรกรรมเก่าไปโน่น
ต้องซูฮก “หม่อมอุ๋ย” ปฏิเสธงานที่ปรึกษา เคารพตัวเองมากกว่ายอมรับสภาพกำมะลอ เรื่องเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี ไม่ต้องพูดถึง เพียงปฏิบัติให้เห็นก็พิสูจน์ตัวเองได้แล้วว่าไม่ใช่คนหิวตำแหน่ง เมื่อไม่ได้รับความไว้วางใจ จะมาอยู่ให้ชาวบ้านจ้องหน้าทำไม
ตัวตนของแต่ละคน ไม่เลือกยากดีมีจน วัดกันได้ตรงนี้แหละ!