ASTV ผู้จัดการรายวัน - ครม.ประยุทธ์ 3 หลุดเก้าอี้ 11 คน มาใหม่ 10 ทหารยังอยู่ครบ แถมมาเพิ่มมาอีกสอง “อุ๋ย” ไปยกทีม “สมคิด” พาทีมใหม่เสียบ “อนันตพร” คุมพลังงาน “ศิริชัย” แรงงาน “อภิศักดิ์” คลัง “อรรชกา” อุตสาหกรรม กระทรวงหมอหลุดคู่ ให้ “หมอปิยะสกล” คุมคนเดียว “บิ๊กตู่” ยันไม่ปรับฝ่ายมั่นคง เตรียมดึงอดีตรัฐมนตรีเป็นที่ปรึกษา ย้ำ ครม.ชุดใหม่ ต้องทำงานหนักกว่าเก่า ส่วนตำแหน่ง ผบ.ทบ.ยังไม่รู้ใครนั่ง อ้างยังไม่เห็นชื่อ “พิชัย” เชื่อปรับไปก็เท่านั้น ชี้เป็นการวัดกึ๋นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนใหม่จะเจ๋งจริงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (19 ส.ค.) ในสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่คาดว่าจะโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งใหม่ หรือ ครม.ประยุทธ์ 3 จากรายชื่อล่าสุดปรากฏว่า มีการปรับเปลี่ยนรวมทั้งสิ้น 19 ตำแหน่ง โดยในส่วนของผู้ถูกสลับตำแหน่ง ประกอบด้วย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็น รมว.ศึกษาธิการ แทน พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ที่จะขยับไปเป็นรองนายกฯ และให้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแทน กระทรวงแรงงานดึง พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหมที่กำลังจะเกษียณอายุราชการเข้ามาเป็น รมว.แรงงาน ขณะที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ จะถูกปรับเหลือตำแหน่งรองนายกฯ ตำแหน่งเดียว และให้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ เป็น รมว.ต่างประเทศ แทน ส่วน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ และให้นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ ขึ้นเป็น รมว.พาณิชย์ แทน ส่วน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ถูกโยกไปเป็นรองนายกฯ โดยให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม ขึ้นเป็น รมว.คมนาคม แทน
สำหรับรัฐมนตรีที่หลุดออกไป มีจำนวน 11 ราย ได้แก่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ ด้านสังคม นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุข และนายกฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ
ส่วนรัฐมนตรีใหม่เข้ามาจำนวน 10 ราย ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง นายออมสิน ชีวพฤกษ์ รมช.คมนาคม นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ มีผู้ที่หลุดตำแหน่งออกไปมากกว่าผู้ที่เข้ามาใหม่ 1 ราย ส่งผลให้มีรัฐมนตรีรวมนายกฯ 34 คน จากเดิมใน ครม.ประยุทธ์ 2 มีรัฐมนตรีรวมนายกฯ 35 คน ขณะที่รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 กำหนดให้ ครม.ประกอบด้วย นายกฯ 1 คน และรัฐมนตรีอื่นอีกจำนวนไม่เกิน 35 คน รวม 36 คน และยังเป็นที่น่าสังเกตว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ ไม่มีทหารหรืออดีตนายทหารหลุดจากตำแหน่งแม้แต่รายเดียว ทั้งยังมีนายทหารเข้ามาอยู่ใน ครม. เพิ่มอีก 2 ราย ส่งผลให้มีนายทหารและอดีตนายทหารใน ครม.ประยุทธ์เพิ่มเป็น 14 ราย
***ยันปรับออกไม่ได้บกพร่อง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่าก็มีเป็นสิบตำแหน่ง มีทั้งปรับตำแหน่งเพื่อเอาคนใหม่เข้ามา สลับหมุนเวียนด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงการปรับทีมเศรษฐกิจยกทีม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทำไม ใครเป็นคนปรับ ก็บอกแล้วว่า ถึงเวลาผมก็ปรับของผม ที่ปรับ ไม่ได้ถือว่าเขาบกพร่องอะไรเลย เพราะท่านเหล่านั้น ถือว่าได้เริ่มต้นไว้ให้เราแล้ว 1 ปีที่ผ่านมา เขาทำงานหนัก หลายคนก็สูงอายุแล้ว ก็ผ่าน ให้ได้พักผ่อนบ้าง และมาช่วยเป็นที่ปรึกษาให้กับผม และทุกคนก็ตอบรับดี
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า ครม.เศรษฐกิจจะถูกปรับยกชุด ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็น่าจะหมด เป็นการหมุนเวียน
เมื่อถามว่าการปรับทีมเศรษฐกิจ จะทำให้การทำงานของรัฐบาลดีขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องให้ปรับเปลี่ยน ก่อนหน้านี้ ก็เคยบอกไปแล้วว่า การปรับเปลี่ยนเรื่องตัวบุคคลจะได้ผลหรือไม่ได้ผล ก็ยังไม่รู้ เพราะเป็นเรื่องการทำงานข้างหน้าที่ไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่สภาพวะแวดล้อมปัจจัยภายใน ภายนอก ทำให้เศรษฐกิจเรามีปัญหาหมด
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่า เมื่อปรับ ครม.เศรษฐกิจแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น นายกฯ กล่าวย้อนว่า ก็คิดว่าอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นจะปรับทำไม ยืนยันว่า คนเก่าไม่ได้บกพร่อง
***สลับ “หม่อมอุ๋ย” ไปเป็นที่ปรึกษา
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่มีข่าวว่าให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา คสช. เข้ามาช่วยงานเป็นรองนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ท่านอยู่กับผมมาอยู่แล้ว อยู่ในคณะที่ปรึกษา คสช. มาตั้งแต่ต้น ก็ให้สลับกันให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ไปเป็นที่ปรึกษา ก็ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนผมได้มอบหมายให้ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปพูดคุยแล้ว และทุกคนก็ยินดีที่จะมาเป็นที่ปรึกษาของผม ที่ผ่านมา ไม่เคยทาบทาม แต่ไปพูด และตัดสินใจเอง
เมื่อถามว่าใน ครม.ชุดใหม่ ยังมีนายทหารเข้าร่วมอยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนว่า แล้วทำไม คุณรังเกียจทหารนักหรือ ชุดใหม่ก็มีเพิ่มมานิดหน่อยในกระทรวงที่จำเป็น เป็นคนที่เกษียณแล้ว แต่ไม่มาก ซึ่งรองนายกฯ ยังมีฝ่ายมั่นคงที่ยังอยู่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ด้านกฎหมาย ยังอยู่ ส่วนนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ ด้านสังคม ให้มาเป็นที่ปรึกษาผม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ ด้านการต่างประเทศ ก็ยังเป็นรองนายกฯ อยู่ ส่วนงานในต่างประเทศก็อาจจะเปลี่ยนบ้าง คือให้คนในกระทรวงขึ้นมา
***ครม.ชุดใหม่ทำงานหนักกว่าชุดเดิม
ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดหวังกับครม.ที่จะเข้ามาทำงานอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่คาดหวังแล้วจะตั้งขึ้นมาทำไม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผม เพราะเป็นคนขับเคลื่อนงานอยู่แล้ว การทำงานในระยะที่ 1 มีปัญหาเยอะ ท่านที่ทำงานมาก่อนเขาแก้ปัญหาให้ในการเดินหน้าประเทศในระดับมหภาคเขาทำแล้ว ส่วนการลงรายละเอียดในระยะสอง ที่จะต้องเหน็ดเหนื่อย และเร่งรีบตามเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดประมาณปีกว่า ก็ต้องว่าไปตามนั้น ซึ่ง ครม.ชุดใหม่ที่จะเข้ามาต้องทำงานหนักกว่าชุดแรกด้วยซ้ำ เพราะจะให้ทำเรื่องของการปฏิรูปด้วย โดยนำข้อมูลการปฏิรูปของการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นำมาพิจารณากลั่นกรองว่า เรื่องใดควรทำต่อเพื่อส่งแผนการปฏิรูปให้กับคณะกรรมการขับเคลื่อนชุดใหม่ ถ้าจะต้องมีและก็น่าจะต้องมีเพราะจะต้องอยู่ไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ส่วนการปฏิรูปเรื่องใดที่ทำมาแล้วก็ตัดไป หรือมีเรื่องใดที่จะต้องทำเพิ่มเติมจึงต้องมีการวางแผนล่วงหน้าแต่ไม่ได้บอกสื่อเท่านั้นเอง และไม่ได้บอกใคร เพราะคิดและตัดสินใจเองเพราะการเป็นผู้นำรัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจ
**ยังไม่รู้ใครนั่งผบ.ทบ. อ้างยังไม่เห็นชื่อ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพล ว่า ยังไม่ได้ส่งมาจากกระทรวงกลาโหม แต่เขาคุยกันหมดแล้ว ในคณะกรรมการของกระทรวงกลาโหม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ใครเป็นผู้บัญชาการทหารบก นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่รู้ เพราะตนไม่ได้เป็นคณะกรรมการกลาโหม เลยยังไม่เห็น แต่ได้ให้นโยบายไปหมดแล้ว เพราะผบ.เหล่าทัพ ก็หารือ และส่งชื่อกันมาแล้ว
เมื่อถามว่าจะทูลเกล้าฯ ได้เมื่อใด นายกฯ กล่าวว่า กระทรวงกลาโหม ยังไม่ส่งมาเลย จะทูลเกล้าฯ ได้ไง ต้องรอเขาส่งมาก่อน
** "วิษณุ"เชื่อปรับทุกด้านไม่เฉพาะเศรษฐกิจ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับครม. ว่า ในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ ได้กล่าวกับรัฐมนตรีทุกคน โดยแจ้งให้ทราบว่ามีการปรับ ครม. โดยนำรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ ขึ้นกราบบังคมทูลฯ แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ส.ค. และได้ขอบคุณรัฐมนตรีทุกคน ไม่ว่ายังอยู่ หรือต้องออก หรือต้องสลับกระทรวง หากคนใดที่ต้องออกไปเลย ก็ขอเชิญให้มาเป็นที่ปรึกษา เพราะมีภารกิจให้ทำ
"นายกฯ ใช้คำว่า เราเป็นผู้เล่น ก็เปลี่ยนไปเป็นบทโค้ชบ้าง เพื่อจะช่วยคนเข้ามาทำงานใหม่ แต่หากไม่สะดวกใจ ก็ให้ช่วยบอกมาอีกที และได้ย้ำว่าไม่มีผู้ใดออกไปโดยมีความผิด และไม่มีความขุ่นข้องหมองใจใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีใครที่ปฏิบัติงานหย่อนประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐมนตรีหลายคนก็มีความเข้าใจ เพราะผมเห็นนั่งพยักหน้ากัน ส่วนจะปรับใคร อย่างไรบ้างนั้นผมไม่ทราบ"
เมื่อถามว่าปรับครม.แล้ว ภาคเศรษฐกิจจะเรียกความเชื่อมั่นได้มากขึ้นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ครั้งนี้ตนเชื่อว่า ปรับหมดทุกด้าน ทั้งด้านสังคมจิตวิทยา เศรษฐกิจ ความมั่นคง ต่างประเทศ ไม่ใช่ปรับเฉพาะเศรษฐกิจ ดังนั้น ก็รอยลโฉมกันอีกที
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับครม.ครั้งนี้ จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้เมือนกัน นึกไม่ออก ก็เอาคุณสมคิดไปสร้างความเชื่อมั่นก็แล้วกัน จากนั้นนายวิษณุ ได้หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอีกครั้งว่า ไม่ว่าคุณสมคิดจะได้เข้ามาหรือไม่ จากการปรับ ครม. ครั้งนี้ แต่คุณสมคิด ก็มีหน้าที่ไปสร้างความเชื่อมั่นในฐานะที่ปรึกษา คสช. อยู่แล้ว เป็นภารกิจของท่าน ไม่ว่าในฐานะที่ปรึกษา คสช. หรือถ้าอยู่ในฐานะรัฐบาล นายสมคิด ถือเป็นผู้ที่บรรยายเรื่องความเชื่อมั่นในหลายๆ ที่มาแล้ว
*** "รองยงยุทธ์"สั่งเจ้าหน้าที่เก็บของ
เมื่อเวลา 16.30น.วานนี้ นายยงยุทธ์ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านสังคม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี เพียงสั้นๆ ก่อนเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลถึงการปรับ ครม. ที่เป็นหนึ่งในรายชื่อของรัฐมนตรีที่อาจจะถูกปรับออกว่า การปรับครม. จะมีรายชื่ออย่างไร ขอให้สื่อไปถามจากนายกฯ ส่วนตนไม่ทราบราบรายละเอียด
เมื่อถามว่ารู้สึกสบายใจหรือไม่ นายยงยุทธ์ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า รู้สึกสบายใจ หากปรับแล้ว ไม่มีชื่อตนเป็นรัฐมนตรี ก็คงไปทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ส่วนรองนายกรัฐมนตรี ที่จะมาดูแลงานด้านสังคมท่านต่อไป ตนยังไม่ทราบว่าเป็นใคร และหากได้มีโอกาสที่จะได้พูดคุย ก็จะส่งมอบงานทุกๆ ด้านที่เกี่ยวกับด้านสังคมกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยงยุทธ์ ได้ยอมรับด้วยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ขนของออกจากห้องทำงานรองนายกรัฐมนตรี ที่ตึกบัญชาการ1 ในทำเนียบรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว
***ยัน"ฉัตรชัย"เหมาะสมรมว.เกษตร
นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการปรับครม.ว่า คงเป็นที่ชัดเจนแล้ว เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในประชุมครม. ครั้งที่ผ่านมา กับบรรดารัฐมนตรีว่าจำเป็นต้องมีการปรับในบางตำแหน่ง ส่วนที่มีรายชื่อของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ นั้น ถ้านายกฯ สั่ง ก็เหมาะสมทุกประการ
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ไปร่วมปรับทุกข์กับบรรดารัฐมนตรีที่มีชื่อถูกปรับออก นายอำนวย กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการปรับทุกข์ แต่ไปพูดคุยกันว่าจะมีการส่งไม้ต่อให้คนที่จะเข้ามาทำงานต่อด้วยวิธีการใด เพื่อที่จะทำงานได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการปรับครม. จะทำให้การต่อเนื่องหรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะไม่ว่ารัฐมนตรีหน้าเก่า หรือใหม่ แต่นายกฯ ยังเป็นคนเดิม และนโยบายยังเป็นนโยบายเดิมที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
"ผมไม่รู้สึกกังวลอะไร และไม่น้อยใจ ผมมีสปิริตเต็มร้อยอยู่แล้ว แม้ว่าจะเข้ามาร่วม ครม. หลังคนอื่น 2 เดือน เพราะนายกฯ ย้ำอยู่เสมอว่าทุกปัญหาเป็นเรื่องของทุกคนไม่ว่าใครก็ต้องร่วมกันแก้ปัญหา" นายอำนวยกล่่าว
***"อนันตพร"ตอบยังไม่รู้เป็นรมว.พลังงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงเย็น พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ที่ปรึกษานายกฯ ได้เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแนวโน้มที่จะได้รับการโปรดเกล้าฯ เข้ารับตำแหน่ง รมว.พลังงาน พล.อ.อนันตพร ตอบสั้นๆว่า "รู้ได้ยังไง" พร้อมระบุว่า ยังไม่ได้เก็บของออกจากห้องทำงานในทำเนียบรัฐบาลเลย
** "พิชัย"เชื่อปรับครม.ก็ยังฟื้นเศรษฐกิจยาก
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย และอดีตรมว.พลังงาน กล่าวถึงการปรับครม. ในครั้งนี้ โดยเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจเกือบทั้งหมด ว่า เป็นการแสดงว่ารัฐบาลยอมรับความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจที่ผ่านมาอย่างชัดเจน และที่น่าห่วง เศรษฐกิจในปัจจุบันอาการหนักกว่าปีก่อน ส่งออกลด ลงทุนหาย บริโภคต่ำ และยังได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ กระทบต่อการท่องเที่ยว โดยเห็นว่า ครม.เศรษฐกิจใหม่ ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้ หากยังแก้ปัญหาหลักเรื่องความเชื่อมั่นของต่างประเทศไม่ได้ และยิ่งจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ก็จะยิ่งแย่ รวมถึงยังมีปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ และประมงผิดกฎหมาย ซึ่งยังถูกสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปกดดันและกีดกันอยู่
"อยากฝากไปถึงนายสมคิด ที่เข้ามาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนใหม่ ให้เร่งแก้ปัญหาเสาหลักเศรษฐกิจที่เสื่อมโทรมทั้งการส่งออก การลงทุน และการบริโภคตามที่เคยได้พูดไว้เองให้ได้ เพราะหนึ่งปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าเสาหลักดังกล่าวเสื่อมลงเร็วมาก"
***"สมหมาย"ฝากสานต่องานเพียบ
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า ได้หารือกับนายสมคิด โดยแจ้งให้ทราบว่ามีเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการอีก 2-3 เรื่อง ได้แก่ การผลักดันภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังบริหารหนี้จากการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว และเงินชดเชยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และกองทุนประกันสังคม วงเงิน 7.3 แสนล้านบาท รวมทั้งขอให้เร่งปฏิรูปโครงสร้างภาษี และการแก้ไขกฎหมายให้เอกชนเช่าที่ราชพัสดุทำโครงการเชิงพาณิชย์ เป็นต้น
***ส.อ.ท.แนะทีมเศรษฐกิจเร่งฟื้นกำลังซื้อ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า รายชื่อทีมเศรษฐกิจใหม่ เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านเศรษฐกิจ , นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เป็นรมว.คลัง , นางอรรชกา สีบุญเรือง เป็นรมว.อุตสาหกรรม ภาพรวมเชื่อว่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ โดยสิ่งที่คาดหวังการดำเนินงาน คือ ควรเร่งแก้ปัญหากำลังซื้อของคนไทยที่ถดถอยกลับคืนมาโดยเร็ว เพราะขณะนี้ประชาชนไม่เชื่อมั่นเศรษฐกิจจึงไม่กล้าจับจ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (19 ส.ค.) ในสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่คาดว่าจะโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งใหม่ หรือ ครม.ประยุทธ์ 3 จากรายชื่อล่าสุดปรากฏว่า มีการปรับเปลี่ยนรวมทั้งสิ้น 19 ตำแหน่ง โดยในส่วนของผู้ถูกสลับตำแหน่ง ประกอบด้วย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็น รมว.ศึกษาธิการ แทน พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ที่จะขยับไปเป็นรองนายกฯ และให้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแทน กระทรวงแรงงานดึง พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหมที่กำลังจะเกษียณอายุราชการเข้ามาเป็น รมว.แรงงาน ขณะที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ จะถูกปรับเหลือตำแหน่งรองนายกฯ ตำแหน่งเดียว และให้นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ เป็น รมว.ต่างประเทศ แทน ส่วน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ และให้นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ ขึ้นเป็น รมว.พาณิชย์ แทน ส่วน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ถูกโยกไปเป็นรองนายกฯ โดยให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม ขึ้นเป็น รมว.คมนาคม แทน
สำหรับรัฐมนตรีที่หลุดออกไป มีจำนวน 11 ราย ได้แก่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ ด้านสังคม นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุข และนายกฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ
ส่วนรัฐมนตรีใหม่เข้ามาจำนวน 10 ราย ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง นายออมสิน ชีวพฤกษ์ รมช.คมนาคม นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ มีผู้ที่หลุดตำแหน่งออกไปมากกว่าผู้ที่เข้ามาใหม่ 1 ราย ส่งผลให้มีรัฐมนตรีรวมนายกฯ 34 คน จากเดิมใน ครม.ประยุทธ์ 2 มีรัฐมนตรีรวมนายกฯ 35 คน ขณะที่รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 กำหนดให้ ครม.ประกอบด้วย นายกฯ 1 คน และรัฐมนตรีอื่นอีกจำนวนไม่เกิน 35 คน รวม 36 คน และยังเป็นที่น่าสังเกตว่า การปรับ ครม.ครั้งนี้ ไม่มีทหารหรืออดีตนายทหารหลุดจากตำแหน่งแม้แต่รายเดียว ทั้งยังมีนายทหารเข้ามาอยู่ใน ครม. เพิ่มอีก 2 ราย ส่งผลให้มีนายทหารและอดีตนายทหารใน ครม.ประยุทธ์เพิ่มเป็น 14 ราย
***ยันปรับออกไม่ได้บกพร่อง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการปรับ ครม.ว่าก็มีเป็นสิบตำแหน่ง มีทั้งปรับตำแหน่งเพื่อเอาคนใหม่เข้ามา สลับหมุนเวียนด้วย
ผู้สื่อข่าวถามถึงการปรับทีมเศรษฐกิจยกทีม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทำไม ใครเป็นคนปรับ ก็บอกแล้วว่า ถึงเวลาผมก็ปรับของผม ที่ปรับ ไม่ได้ถือว่าเขาบกพร่องอะไรเลย เพราะท่านเหล่านั้น ถือว่าได้เริ่มต้นไว้ให้เราแล้ว 1 ปีที่ผ่านมา เขาทำงานหนัก หลายคนก็สูงอายุแล้ว ก็ผ่าน ให้ได้พักผ่อนบ้าง และมาช่วยเป็นที่ปรึกษาให้กับผม และทุกคนก็ตอบรับดี
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า ครม.เศรษฐกิจจะถูกปรับยกชุด ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็น่าจะหมด เป็นการหมุนเวียน
เมื่อถามว่าการปรับทีมเศรษฐกิจ จะทำให้การทำงานของรัฐบาลดีขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนเรียกร้องให้ปรับเปลี่ยน ก่อนหน้านี้ ก็เคยบอกไปแล้วว่า การปรับเปลี่ยนเรื่องตัวบุคคลจะได้ผลหรือไม่ได้ผล ก็ยังไม่รู้ เพราะเป็นเรื่องการทำงานข้างหน้าที่ไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่สภาพวะแวดล้อมปัจจัยภายใน ภายนอก ทำให้เศรษฐกิจเรามีปัญหาหมด
เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่า เมื่อปรับ ครม.เศรษฐกิจแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น นายกฯ กล่าวย้อนว่า ก็คิดว่าอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นจะปรับทำไม ยืนยันว่า คนเก่าไม่ได้บกพร่อง
***สลับ “หม่อมอุ๋ย” ไปเป็นที่ปรึกษา
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่มีข่าวว่าให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา คสช. เข้ามาช่วยงานเป็นรองนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ท่านอยู่กับผมมาอยู่แล้ว อยู่ในคณะที่ปรึกษา คสช. มาตั้งแต่ต้น ก็ให้สลับกันให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ไปเป็นที่ปรึกษา ก็ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนผมได้มอบหมายให้ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปพูดคุยแล้ว และทุกคนก็ยินดีที่จะมาเป็นที่ปรึกษาของผม ที่ผ่านมา ไม่เคยทาบทาม แต่ไปพูด และตัดสินใจเอง
เมื่อถามว่าใน ครม.ชุดใหม่ ยังมีนายทหารเข้าร่วมอยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนว่า แล้วทำไม คุณรังเกียจทหารนักหรือ ชุดใหม่ก็มีเพิ่มมานิดหน่อยในกระทรวงที่จำเป็น เป็นคนที่เกษียณแล้ว แต่ไม่มาก ซึ่งรองนายกฯ ยังมีฝ่ายมั่นคงที่ยังอยู่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ด้านกฎหมาย ยังอยู่ ส่วนนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ ด้านสังคม ให้มาเป็นที่ปรึกษาผม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ ด้านการต่างประเทศ ก็ยังเป็นรองนายกฯ อยู่ ส่วนงานในต่างประเทศก็อาจจะเปลี่ยนบ้าง คือให้คนในกระทรวงขึ้นมา
***ครม.ชุดใหม่ทำงานหนักกว่าชุดเดิม
ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดหวังกับครม.ที่จะเข้ามาทำงานอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่คาดหวังแล้วจะตั้งขึ้นมาทำไม ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผม เพราะเป็นคนขับเคลื่อนงานอยู่แล้ว การทำงานในระยะที่ 1 มีปัญหาเยอะ ท่านที่ทำงานมาก่อนเขาแก้ปัญหาให้ในการเดินหน้าประเทศในระดับมหภาคเขาทำแล้ว ส่วนการลงรายละเอียดในระยะสอง ที่จะต้องเหน็ดเหนื่อย และเร่งรีบตามเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดประมาณปีกว่า ก็ต้องว่าไปตามนั้น ซึ่ง ครม.ชุดใหม่ที่จะเข้ามาต้องทำงานหนักกว่าชุดแรกด้วยซ้ำ เพราะจะให้ทำเรื่องของการปฏิรูปด้วย โดยนำข้อมูลการปฏิรูปของการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นำมาพิจารณากลั่นกรองว่า เรื่องใดควรทำต่อเพื่อส่งแผนการปฏิรูปให้กับคณะกรรมการขับเคลื่อนชุดใหม่ ถ้าจะต้องมีและก็น่าจะต้องมีเพราะจะต้องอยู่ไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ส่วนการปฏิรูปเรื่องใดที่ทำมาแล้วก็ตัดไป หรือมีเรื่องใดที่จะต้องทำเพิ่มเติมจึงต้องมีการวางแผนล่วงหน้าแต่ไม่ได้บอกสื่อเท่านั้นเอง และไม่ได้บอกใคร เพราะคิดและตัดสินใจเองเพราะการเป็นผู้นำรัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจ
**ยังไม่รู้ใครนั่งผบ.ทบ. อ้างยังไม่เห็นชื่อ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพล ว่า ยังไม่ได้ส่งมาจากกระทรวงกลาโหม แต่เขาคุยกันหมดแล้ว ในคณะกรรมการของกระทรวงกลาโหม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ใครเป็นผู้บัญชาการทหารบก นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่รู้ เพราะตนไม่ได้เป็นคณะกรรมการกลาโหม เลยยังไม่เห็น แต่ได้ให้นโยบายไปหมดแล้ว เพราะผบ.เหล่าทัพ ก็หารือ และส่งชื่อกันมาแล้ว
เมื่อถามว่าจะทูลเกล้าฯ ได้เมื่อใด นายกฯ กล่าวว่า กระทรวงกลาโหม ยังไม่ส่งมาเลย จะทูลเกล้าฯ ได้ไง ต้องรอเขาส่งมาก่อน
** "วิษณุ"เชื่อปรับทุกด้านไม่เฉพาะเศรษฐกิจ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับครม. ว่า ในที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ ได้กล่าวกับรัฐมนตรีทุกคน โดยแจ้งให้ทราบว่ามีการปรับ ครม. โดยนำรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ ขึ้นกราบบังคมทูลฯ แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ส.ค. และได้ขอบคุณรัฐมนตรีทุกคน ไม่ว่ายังอยู่ หรือต้องออก หรือต้องสลับกระทรวง หากคนใดที่ต้องออกไปเลย ก็ขอเชิญให้มาเป็นที่ปรึกษา เพราะมีภารกิจให้ทำ
"นายกฯ ใช้คำว่า เราเป็นผู้เล่น ก็เปลี่ยนไปเป็นบทโค้ชบ้าง เพื่อจะช่วยคนเข้ามาทำงานใหม่ แต่หากไม่สะดวกใจ ก็ให้ช่วยบอกมาอีกที และได้ย้ำว่าไม่มีผู้ใดออกไปโดยมีความผิด และไม่มีความขุ่นข้องหมองใจใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีใครที่ปฏิบัติงานหย่อนประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐมนตรีหลายคนก็มีความเข้าใจ เพราะผมเห็นนั่งพยักหน้ากัน ส่วนจะปรับใคร อย่างไรบ้างนั้นผมไม่ทราบ"
เมื่อถามว่าปรับครม.แล้ว ภาคเศรษฐกิจจะเรียกความเชื่อมั่นได้มากขึ้นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ครั้งนี้ตนเชื่อว่า ปรับหมดทุกด้าน ทั้งด้านสังคมจิตวิทยา เศรษฐกิจ ความมั่นคง ต่างประเทศ ไม่ใช่ปรับเฉพาะเศรษฐกิจ ดังนั้น ก็รอยลโฉมกันอีกที
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับครม.ครั้งนี้ จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นจากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้เมือนกัน นึกไม่ออก ก็เอาคุณสมคิดไปสร้างความเชื่อมั่นก็แล้วกัน จากนั้นนายวิษณุ ได้หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอีกครั้งว่า ไม่ว่าคุณสมคิดจะได้เข้ามาหรือไม่ จากการปรับ ครม. ครั้งนี้ แต่คุณสมคิด ก็มีหน้าที่ไปสร้างความเชื่อมั่นในฐานะที่ปรึกษา คสช. อยู่แล้ว เป็นภารกิจของท่าน ไม่ว่าในฐานะที่ปรึกษา คสช. หรือถ้าอยู่ในฐานะรัฐบาล นายสมคิด ถือเป็นผู้ที่บรรยายเรื่องความเชื่อมั่นในหลายๆ ที่มาแล้ว
*** "รองยงยุทธ์"สั่งเจ้าหน้าที่เก็บของ
เมื่อเวลา 16.30น.วานนี้ นายยงยุทธ์ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านสังคม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี เพียงสั้นๆ ก่อนเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลถึงการปรับ ครม. ที่เป็นหนึ่งในรายชื่อของรัฐมนตรีที่อาจจะถูกปรับออกว่า การปรับครม. จะมีรายชื่ออย่างไร ขอให้สื่อไปถามจากนายกฯ ส่วนตนไม่ทราบราบรายละเอียด
เมื่อถามว่ารู้สึกสบายใจหรือไม่ นายยงยุทธ์ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า รู้สึกสบายใจ หากปรับแล้ว ไม่มีชื่อตนเป็นรัฐมนตรี ก็คงไปทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ส่วนรองนายกรัฐมนตรี ที่จะมาดูแลงานด้านสังคมท่านต่อไป ตนยังไม่ทราบว่าเป็นใคร และหากได้มีโอกาสที่จะได้พูดคุย ก็จะส่งมอบงานทุกๆ ด้านที่เกี่ยวกับด้านสังคมกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยงยุทธ์ ได้ยอมรับด้วยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ขนของออกจากห้องทำงานรองนายกรัฐมนตรี ที่ตึกบัญชาการ1 ในทำเนียบรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว
***ยัน"ฉัตรชัย"เหมาะสมรมว.เกษตร
นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการปรับครม.ว่า คงเป็นที่ชัดเจนแล้ว เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในประชุมครม. ครั้งที่ผ่านมา กับบรรดารัฐมนตรีว่าจำเป็นต้องมีการปรับในบางตำแหน่ง ส่วนที่มีรายชื่อของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ นั้น ถ้านายกฯ สั่ง ก็เหมาะสมทุกประการ
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ไปร่วมปรับทุกข์กับบรรดารัฐมนตรีที่มีชื่อถูกปรับออก นายอำนวย กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการปรับทุกข์ แต่ไปพูดคุยกันว่าจะมีการส่งไม้ต่อให้คนที่จะเข้ามาทำงานต่อด้วยวิธีการใด เพื่อที่จะทำงานได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการปรับครม. จะทำให้การต่อเนื่องหรือไม่นั้น ตนคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะไม่ว่ารัฐมนตรีหน้าเก่า หรือใหม่ แต่นายกฯ ยังเป็นคนเดิม และนโยบายยังเป็นนโยบายเดิมที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
"ผมไม่รู้สึกกังวลอะไร และไม่น้อยใจ ผมมีสปิริตเต็มร้อยอยู่แล้ว แม้ว่าจะเข้ามาร่วม ครม. หลังคนอื่น 2 เดือน เพราะนายกฯ ย้ำอยู่เสมอว่าทุกปัญหาเป็นเรื่องของทุกคนไม่ว่าใครก็ต้องร่วมกันแก้ปัญหา" นายอำนวยกล่่าว
***"อนันตพร"ตอบยังไม่รู้เป็นรมว.พลังงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงเย็น พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ที่ปรึกษานายกฯ ได้เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแนวโน้มที่จะได้รับการโปรดเกล้าฯ เข้ารับตำแหน่ง รมว.พลังงาน พล.อ.อนันตพร ตอบสั้นๆว่า "รู้ได้ยังไง" พร้อมระบุว่า ยังไม่ได้เก็บของออกจากห้องทำงานในทำเนียบรัฐบาลเลย
** "พิชัย"เชื่อปรับครม.ก็ยังฟื้นเศรษฐกิจยาก
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย และอดีตรมว.พลังงาน กล่าวถึงการปรับครม. ในครั้งนี้ โดยเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจเกือบทั้งหมด ว่า เป็นการแสดงว่ารัฐบาลยอมรับความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจที่ผ่านมาอย่างชัดเจน และที่น่าห่วง เศรษฐกิจในปัจจุบันอาการหนักกว่าปีก่อน ส่งออกลด ลงทุนหาย บริโภคต่ำ และยังได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ กระทบต่อการท่องเที่ยว โดยเห็นว่า ครม.เศรษฐกิจใหม่ ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้ หากยังแก้ปัญหาหลักเรื่องความเชื่อมั่นของต่างประเทศไม่ได้ และยิ่งจะมีรัฐธรรมนูญใหม่ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ก็จะยิ่งแย่ รวมถึงยังมีปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์ และประมงผิดกฎหมาย ซึ่งยังถูกสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปกดดันและกีดกันอยู่
"อยากฝากไปถึงนายสมคิด ที่เข้ามาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนใหม่ ให้เร่งแก้ปัญหาเสาหลักเศรษฐกิจที่เสื่อมโทรมทั้งการส่งออก การลงทุน และการบริโภคตามที่เคยได้พูดไว้เองให้ได้ เพราะหนึ่งปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าเสาหลักดังกล่าวเสื่อมลงเร็วมาก"
***"สมหมาย"ฝากสานต่องานเพียบ
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า ได้หารือกับนายสมคิด โดยแจ้งให้ทราบว่ามีเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการอีก 2-3 เรื่อง ได้แก่ การผลักดันภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังบริหารหนี้จากการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว และเงินชดเชยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และกองทุนประกันสังคม วงเงิน 7.3 แสนล้านบาท รวมทั้งขอให้เร่งปฏิรูปโครงสร้างภาษี และการแก้ไขกฎหมายให้เอกชนเช่าที่ราชพัสดุทำโครงการเชิงพาณิชย์ เป็นต้น
***ส.อ.ท.แนะทีมเศรษฐกิจเร่งฟื้นกำลังซื้อ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า รายชื่อทีมเศรษฐกิจใหม่ เช่น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านเศรษฐกิจ , นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เป็นรมว.คลัง , นางอรรชกา สีบุญเรือง เป็นรมว.อุตสาหกรรม ภาพรวมเชื่อว่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ โดยสิ่งที่คาดหวังการดำเนินงาน คือ ควรเร่งแก้ปัญหากำลังซื้อของคนไทยที่ถดถอยกลับคืนมาโดยเร็ว เพราะขณะนี้ประชาชนไม่เชื่อมั่นเศรษฐกิจจึงไม่กล้าจับจ่าย