รอยเตอร์/เอเอฟพี - ยอดเหยื่อระเบิดเทียนจินพุ่งสูงเป็น 112 ศพ โชคดีพบผู้รอดชีวิตวัย 50 ปี ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุไปราว 50 เมตร แต่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากสูดควันพิษมากเกินไป ขณะที่หัวหน้าเสนาธิการทหารแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีนประจำภูมิภาคปักกิ่งแถลงข่าวพบหลักฐานชี้ชัดมีการเก็บวัตถุเคมีพิษ “ไซยาไนด์” บริเวณคลังสินค้า 2 จุดที่เกิดระเบิดในวันพุธที่ผ่านมา
หลังจากเกิดระเบิดครั้งรุนแรงขึ้นที่คลังสินค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมเทียนจินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และทำให้มีเปลวไฟพุ่ง รวมไปถึงสารเคมีพิษ เช่น โซเดียมไซยาไนด์ กระจายฟุ้ง จนกระทั่งต้องสั่งกั้นรัศมีโดยรอบ 3 กม. จากจุดระเบิดเป็นเขตอันตรายห้ามเข้า
ล่าสุด เช้าวานนี้ (16 ส.ค.) ทางการจีนประกาศตัวเลขผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้เพิ่มขึ้นจาก 85 คน ไปอยู่ที่ 112 คน สูญหาย 95 คน ในขณะที่มีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ 721 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 33 คน ขณะที่ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้มีแถลงการณ์ออกมาในวันเสาร์ (15 ส.ค.) เรียกร้องให้มีการปรับปรุงความปลอดภัยในที่ทำงานเพิ่มมากขึ้น เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องจำเหตุการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียน
เอเอฟพี ชี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนประสบความยากลำบากในการระบุถึงชิ้นส่วนที่พบในที่เกิดเหตุ ก่อให้ความสับสนและกะงวลขึ้นในหมู่ประชาชนชาวเทียนจิน และสำนักข่าวซินหัว สื่อจีนรายงานเพิ่มเติมว่า ทางการจีนได้สั่งอพยพชาวบ้านที่แต่เดิมใช้โรงเรียนใกล้กับจุดเกิดเหตุเป็นศูนย์อพยพชั่วคราวให้ออกไป หลังจากในวันเสาร์ (15 ส.ค.) กระแสลมได้เปลี่ยนทิศทาง และเกรงว่าจะทำให้สารเคมีพิษฟุ้งกระจายเข้ามายังบริเวณแผ่นดินใหญ่ แต่ยังไม่แน่ชัดในเบื้องต้นว่ามีจำนวนผู้ต้องอพยพออไปจำนวนเท่าใด
รอยเตอร์รายงานว่า การสั่งอพยพรอบใหม่เกิดขึ้นหลังจากมีเปลวไฟปะทุเกิดขึ้นในจุดที่เกิดเพลิงไหม้ในคลังสินค้าในวันพุธ ซึ่งเป็นคลังสินค้าที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บสารเคมีอันตรายต่างๆ นอกจากนี้ ชาวบ้านที่ต้องถูกสั่งให้เคลื่อนย้ายออกไปได้รับคำแนะนำจากทางการจีนให้สวมกางเกงขายาว และหน้ากากป้องกัน เพราะเป็นการอพยพที่เป็นไปอย่างเคร่งครัด อ้างอิงจากการรายงานไมโครบล็อกอย่างเป็นทางการของสำนักงานสุขภาพและการวางแผนครอบครัวในเทียนจิน และถนนในเทียนจินดูสงบ
***พบผู้รอดชีวิตวัย 50 ปี
ทว่าความสับสนอลหม่านยังคงเกิดขึ้นเนื่องจากครอบครัวของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจีนที่สูญหายในระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ต้องการคำตอบ ในขณะบรรดาเจ้าหน้าที่ต่างพยายามกันให้ช่างภาพนักข่าวออกไป โดยกอง เจียนเชง (Gong Jiansheng) เจ้าหน้าที่เขตได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งอพยพ และท่ามกลางความสับสนมีข่าวดีปรากฏ สามารถพบผู้รอดชีวิตเป็นชายอายุ 50 ปี ที่ได้รับการช่วยเหลือห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุไปราว 50 ม. สำนักข่าวซินหัวรายงาน และพบว่าชายที่รอดชีวิตนี้มีปัญหาระบบการเดินหายใจตอนบนได้รับความเสียหายเนื่องมาจากสูดควันพิษมากเกินไป แต่อาการโดยรวมของผู้รอดชีวิตวัย 50 ปียังคงที่ CCTVสถานีโทรทัศน์จีน และสำนักข่าวซินหัวรายงาน
รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ตำรวจจีนยืนยันของการฟุ้งกระจายสารเคมีพิษ โซเดียมไซยาไนด์ ทั่วทางตะวันออกของบริเวณเกิดเหตุ ซึ่งหากเกิดสูดดมเข้าไปจะทำให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ทว่ายังไม่มีการระบุแน่ชัดว่ามีจำนวนมากเพียงใด หรือจะเป็นอันตรายต่อผู้อาศัยรอบโรงงานนิคมอุตสาหกรรมเทียนจินแห่งนี้มากเท่าใด แต่ชาวบ้านต่างกังวลถึงปัญหาคุณภาพอากาศและน้ำในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ
สื่อจีนยังรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณโดยรอบคลังสินค้าที่ระเบิดถูกกั้นเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าในรัศมี 3 กม.
ด้านสำนักงานบริหารสมุทรศาสตร์แห่งชาติจีนได้ออกมายืนยันผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่า ไม่พบการปนเปื้อนสารไซยาไนด์ในท้องน้ำบริเวณโดยรอบท่าเรือเทียนจิน และ CCTV รายงานผ่านไมโครบล็อกว่า เกิดเหตุการณ์ระเบิดขนาดเล็กขึ้นอีกครั้งในวันเสาร์ในบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ใหญ่ในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเปลวเพลิงลูกใหม่ได้เกิดขึ้นบริเวณลานจอดรถที่มีรถจอดอยู่ใกล้กับคลังสินค้าสารเคมีที่เกิดระเบิด แต่ทว่ามาจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบความเสียหายอย่างแน่ชัดว่าเหตุใดจึงเกิดเปลวไฟปะทุขึ้น
รอยเตอร์รายงานด้วยว่า แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมจีนได้เปิดเผยกับนักข่าวจีนก่อนหน้านี้ว่า ไม่พบสิ่งผิดปกติกับปัญหามลพิษเกิดขึ้น และไม่พบอนุภาคสารพิษในอากาศจากสถานีตรวจอากาศ 17 แห่วรอบเมืองเทียนจิน และผลจากเหตุระเบิดทำให้ประชาชนจีนในพื้นที่ต้องอพยพร่วม 6,300 คน รวมไปถึงตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 721 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 33 คน และเกิดคลื่นช็อกเวฟที่คนในพื้นที่รู้สึกได้บนตึกอพาร์ตเมนต์ห่างไปร่วมหลายกิโลเมตรในเทียนจินที่มีประชากรอาศัยร่วม 15 ล้านคน และในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักผจญเพลิงจีนต้องจบชีวิตไม่ต่ำกว่า 21 คน
ขณะที่บรรดาญาติของนักผจญเพลิงที่สูญหายต่างพยายามบุกเข้าไปยังศูนย์การข่าวด้วยความโกรธแค้นเพราะไม่ได้รับทราบข้อมูลของคนในครอบครัวที่สูญหาย “เราเดินทางไปโรงพยาบาลทุกแห่งแต่ไม่พบคนเหล่านั้น” หวาง เบาเซียะ (Wang Baoxia) น้องชายของนักผจญเพลิงจีนผู้สูญหายที่เป็นพี่ชายกล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
สื่อท้องถิ่นจีนรายงานว่า นักดับเพลิงจีนที่ส่วนใหญ่มีสัญญาว่าจ้างงาน 2 ปี ไม่ได้รับการฝึกฝนในการดับเพลิงหลังจากเข้ารับบรรจุ และหวางยังกล่าวต่อว่า “ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดยอมเปิดปากพูดคุยกับเรา ไม่แม้แต่คนเดียว” ซึ่งทางครอบครัวนักผจญเพลิงที่สูญหายให้ข้อมูลว่า มีจำนวนนักดับเพลิงจำนวน 25 คนที่มีสัญญาการจ้างงานไม่กี่ปีนั้นไม่ได้ถูกบรรจุประจำแผนกดับเพลิงของเมืองเทียนจิน
หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ในวันพุธ มีการตำหนินักดับเพลิงจีนที่ใช้น้ำในการดับเพลิงไหม้สารเคมี ที่อาจทำให้เกิดการลุกไหม้เพิ่มเติมเนื่องจากมีสารเคมีอยู่ในนั้น
***ยันพบไซยาไนด์นับร้อยตัน
วันเดียวกัน Shi Luze หัวหน้าเสนาธิการทหารแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีนประจำภูมิภาคปักกิ่งได้ออกแถลงการณ์ยืนยันล่าสุดถึงการมีอยู่ของ ”โซเดียมไซยาไนด์” และถือเป็นเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลจีนคนแรกที่ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการถึงการมีอยู่จริงสารเคมีพิษที่ถูกเก็บไว้ในโกดังเก็บของที่เกิดระเบิดทั้งสองแห่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา
การระเบิดครั้งมโหฬารทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่าร้อยคน และสูญหายอีก 95 คนที่รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจีนจำนวน 85 คน ถึงแม้ว่าอาจมีความเป็นไปได้ว่าคนที่สูญหายเหล่านี้อาจจะรวมอยู่ในศพที่ค้นพบอีก 88 ศพที่ยังไม่ได้รับการยืนยันด้านเอกลักษณ์บุคคล และยังรวมไปถึงผู้ได้รับบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 700 คนที่ถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลในละแวกนั้น
ในการแถลงข่าว พลเอก Shi ได้กล่าวว่า ได้มีการยืนยันการพบร่องรอยของไซยาไนด์มีอยู่จริงจากบริเวณที่เกิดเหตุทั้งสองจุด “จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มีการเก็บไซยาไนด์ไว้จำนวนหลายร้อยตัน”
ทั้งนี้ กองทัพจีนได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมีและนิวเคลียร์จำนวน 217 นายไปยังจุดเกิดเหตุก่อนหน้านี้ และสื่อท้องถิ่นจีนได้รายงานในเบื้องต้นว่า พบว่ามีการเก็บโซเดียมไซยาไนด์จำนวนร่วม 700 ตันไว้ที่คลังสินค้าบริเวณเกิดเหตุ และที่ผ่านมาทางการจีนยังได้เรียกผู้เชี่ยวชาญจากผู้ผลิตให้มาช่วยจัดการ และยังมีการใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นสารช่วยบรรเทาให้ความร้ายแรงลดลง ซึ่งไซยาไนด์ถือเป็นสารพิษที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตฉับพลันหากสูดดมเข้าไป ตามที่สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคระบาดสหรัฐฯ CDC ได้กล่าวไว้
ทางการจีนยังได้ประกาศประชาสัมพันธ์ต่อชาวเมืองเทียนจินเพื่อให้คลายความตระหนกว่า ถึงแม้สภาวะมลพิษจะมีระดับสูงกว่าปกติ แต่ทว่าคุณภาพอากาศในเทียนจินยังคง "ปลอดภัยสำหรับการหายใจ" อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวได้รายงานในช่วงเย็นวันเสาร์ (15 ส.ค.)ว่า มีการพบอัตราความหนาแน่นของไซยาไนด์ในน้ำเสียสูงถึง 10.9 เท่าของมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด 1 วันหลังจากการระเบิด
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ด้านกลุ่มกรีนพีซ เอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อมได้ออกแถลงการณ์ยืนยันในวันอาทิตย์ (16 ส.ค.)ว่า ทางกลุ่มได้ทำการทดสอบเก็บตัวอย่างน้ำจาก 4 จุดใหญ่ในเทียนจิน แต่ปรากฎว่าไม่พบโซเดียมไซยาไนด์ในระดับสูง
“จากการทดสอบพบว่า สภาพน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะของเทียนจินไม่ได้ปนเปื้อนในระดับขั้นร้ายแรงด้วยสารพิษไซยาไนด์” แต่ทว่าทางกรีนพีซชี้แจงว่า ผลทดสอบไม่ได้ยืนยันระบุว่า แหล่งน้ำสาธารณะมีสารพิษไซด์ยาไนด์อยู่หรือไม่.
หลังจากเกิดระเบิดครั้งรุนแรงขึ้นที่คลังสินค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมเทียนจินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และทำให้มีเปลวไฟพุ่ง รวมไปถึงสารเคมีพิษ เช่น โซเดียมไซยาไนด์ กระจายฟุ้ง จนกระทั่งต้องสั่งกั้นรัศมีโดยรอบ 3 กม. จากจุดระเบิดเป็นเขตอันตรายห้ามเข้า
ล่าสุด เช้าวานนี้ (16 ส.ค.) ทางการจีนประกาศตัวเลขผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้เพิ่มขึ้นจาก 85 คน ไปอยู่ที่ 112 คน สูญหาย 95 คน ในขณะที่มีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ 721 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 33 คน ขณะที่ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้มีแถลงการณ์ออกมาในวันเสาร์ (15 ส.ค.) เรียกร้องให้มีการปรับปรุงความปลอดภัยในที่ทำงานเพิ่มมากขึ้น เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องจำเหตุการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียน
เอเอฟพี ชี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนประสบความยากลำบากในการระบุถึงชิ้นส่วนที่พบในที่เกิดเหตุ ก่อให้ความสับสนและกะงวลขึ้นในหมู่ประชาชนชาวเทียนจิน และสำนักข่าวซินหัว สื่อจีนรายงานเพิ่มเติมว่า ทางการจีนได้สั่งอพยพชาวบ้านที่แต่เดิมใช้โรงเรียนใกล้กับจุดเกิดเหตุเป็นศูนย์อพยพชั่วคราวให้ออกไป หลังจากในวันเสาร์ (15 ส.ค.) กระแสลมได้เปลี่ยนทิศทาง และเกรงว่าจะทำให้สารเคมีพิษฟุ้งกระจายเข้ามายังบริเวณแผ่นดินใหญ่ แต่ยังไม่แน่ชัดในเบื้องต้นว่ามีจำนวนผู้ต้องอพยพออไปจำนวนเท่าใด
รอยเตอร์รายงานว่า การสั่งอพยพรอบใหม่เกิดขึ้นหลังจากมีเปลวไฟปะทุเกิดขึ้นในจุดที่เกิดเพลิงไหม้ในคลังสินค้าในวันพุธ ซึ่งเป็นคลังสินค้าที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บสารเคมีอันตรายต่างๆ นอกจากนี้ ชาวบ้านที่ต้องถูกสั่งให้เคลื่อนย้ายออกไปได้รับคำแนะนำจากทางการจีนให้สวมกางเกงขายาว และหน้ากากป้องกัน เพราะเป็นการอพยพที่เป็นไปอย่างเคร่งครัด อ้างอิงจากการรายงานไมโครบล็อกอย่างเป็นทางการของสำนักงานสุขภาพและการวางแผนครอบครัวในเทียนจิน และถนนในเทียนจินดูสงบ
***พบผู้รอดชีวิตวัย 50 ปี
ทว่าความสับสนอลหม่านยังคงเกิดขึ้นเนื่องจากครอบครัวของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจีนที่สูญหายในระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ต้องการคำตอบ ในขณะบรรดาเจ้าหน้าที่ต่างพยายามกันให้ช่างภาพนักข่าวออกไป โดยกอง เจียนเชง (Gong Jiansheng) เจ้าหน้าที่เขตได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งอพยพ และท่ามกลางความสับสนมีข่าวดีปรากฏ สามารถพบผู้รอดชีวิตเป็นชายอายุ 50 ปี ที่ได้รับการช่วยเหลือห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุไปราว 50 ม. สำนักข่าวซินหัวรายงาน และพบว่าชายที่รอดชีวิตนี้มีปัญหาระบบการเดินหายใจตอนบนได้รับความเสียหายเนื่องมาจากสูดควันพิษมากเกินไป แต่อาการโดยรวมของผู้รอดชีวิตวัย 50 ปียังคงที่ CCTVสถานีโทรทัศน์จีน และสำนักข่าวซินหัวรายงาน
รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ตำรวจจีนยืนยันของการฟุ้งกระจายสารเคมีพิษ โซเดียมไซยาไนด์ ทั่วทางตะวันออกของบริเวณเกิดเหตุ ซึ่งหากเกิดสูดดมเข้าไปจะทำให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ทว่ายังไม่มีการระบุแน่ชัดว่ามีจำนวนมากเพียงใด หรือจะเป็นอันตรายต่อผู้อาศัยรอบโรงงานนิคมอุตสาหกรรมเทียนจินแห่งนี้มากเท่าใด แต่ชาวบ้านต่างกังวลถึงปัญหาคุณภาพอากาศและน้ำในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ
สื่อจีนยังรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณโดยรอบคลังสินค้าที่ระเบิดถูกกั้นเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าในรัศมี 3 กม.
ด้านสำนักงานบริหารสมุทรศาสตร์แห่งชาติจีนได้ออกมายืนยันผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่า ไม่พบการปนเปื้อนสารไซยาไนด์ในท้องน้ำบริเวณโดยรอบท่าเรือเทียนจิน และ CCTV รายงานผ่านไมโครบล็อกว่า เกิดเหตุการณ์ระเบิดขนาดเล็กขึ้นอีกครั้งในวันเสาร์ในบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ใหญ่ในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเปลวเพลิงลูกใหม่ได้เกิดขึ้นบริเวณลานจอดรถที่มีรถจอดอยู่ใกล้กับคลังสินค้าสารเคมีที่เกิดระเบิด แต่ทว่ามาจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบความเสียหายอย่างแน่ชัดว่าเหตุใดจึงเกิดเปลวไฟปะทุขึ้น
รอยเตอร์รายงานด้วยว่า แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมจีนได้เปิดเผยกับนักข่าวจีนก่อนหน้านี้ว่า ไม่พบสิ่งผิดปกติกับปัญหามลพิษเกิดขึ้น และไม่พบอนุภาคสารพิษในอากาศจากสถานีตรวจอากาศ 17 แห่วรอบเมืองเทียนจิน และผลจากเหตุระเบิดทำให้ประชาชนจีนในพื้นที่ต้องอพยพร่วม 6,300 คน รวมไปถึงตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 721 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 33 คน และเกิดคลื่นช็อกเวฟที่คนในพื้นที่รู้สึกได้บนตึกอพาร์ตเมนต์ห่างไปร่วมหลายกิโลเมตรในเทียนจินที่มีประชากรอาศัยร่วม 15 ล้านคน และในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักผจญเพลิงจีนต้องจบชีวิตไม่ต่ำกว่า 21 คน
ขณะที่บรรดาญาติของนักผจญเพลิงที่สูญหายต่างพยายามบุกเข้าไปยังศูนย์การข่าวด้วยความโกรธแค้นเพราะไม่ได้รับทราบข้อมูลของคนในครอบครัวที่สูญหาย “เราเดินทางไปโรงพยาบาลทุกแห่งแต่ไม่พบคนเหล่านั้น” หวาง เบาเซียะ (Wang Baoxia) น้องชายของนักผจญเพลิงจีนผู้สูญหายที่เป็นพี่ชายกล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
สื่อท้องถิ่นจีนรายงานว่า นักดับเพลิงจีนที่ส่วนใหญ่มีสัญญาว่าจ้างงาน 2 ปี ไม่ได้รับการฝึกฝนในการดับเพลิงหลังจากเข้ารับบรรจุ และหวางยังกล่าวต่อว่า “ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดยอมเปิดปากพูดคุยกับเรา ไม่แม้แต่คนเดียว” ซึ่งทางครอบครัวนักผจญเพลิงที่สูญหายให้ข้อมูลว่า มีจำนวนนักดับเพลิงจำนวน 25 คนที่มีสัญญาการจ้างงานไม่กี่ปีนั้นไม่ได้ถูกบรรจุประจำแผนกดับเพลิงของเมืองเทียนจิน
หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ในวันพุธ มีการตำหนินักดับเพลิงจีนที่ใช้น้ำในการดับเพลิงไหม้สารเคมี ที่อาจทำให้เกิดการลุกไหม้เพิ่มเติมเนื่องจากมีสารเคมีอยู่ในนั้น
***ยันพบไซยาไนด์นับร้อยตัน
วันเดียวกัน Shi Luze หัวหน้าเสนาธิการทหารแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีนประจำภูมิภาคปักกิ่งได้ออกแถลงการณ์ยืนยันล่าสุดถึงการมีอยู่ของ ”โซเดียมไซยาไนด์” และถือเป็นเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลจีนคนแรกที่ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการถึงการมีอยู่จริงสารเคมีพิษที่ถูกเก็บไว้ในโกดังเก็บของที่เกิดระเบิดทั้งสองแห่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา
การระเบิดครั้งมโหฬารทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่าร้อยคน และสูญหายอีก 95 คนที่รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจีนจำนวน 85 คน ถึงแม้ว่าอาจมีความเป็นไปได้ว่าคนที่สูญหายเหล่านี้อาจจะรวมอยู่ในศพที่ค้นพบอีก 88 ศพที่ยังไม่ได้รับการยืนยันด้านเอกลักษณ์บุคคล และยังรวมไปถึงผู้ได้รับบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 700 คนที่ถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลในละแวกนั้น
ในการแถลงข่าว พลเอก Shi ได้กล่าวว่า ได้มีการยืนยันการพบร่องรอยของไซยาไนด์มีอยู่จริงจากบริเวณที่เกิดเหตุทั้งสองจุด “จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มีการเก็บไซยาไนด์ไว้จำนวนหลายร้อยตัน”
ทั้งนี้ กองทัพจีนได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมีและนิวเคลียร์จำนวน 217 นายไปยังจุดเกิดเหตุก่อนหน้านี้ และสื่อท้องถิ่นจีนได้รายงานในเบื้องต้นว่า พบว่ามีการเก็บโซเดียมไซยาไนด์จำนวนร่วม 700 ตันไว้ที่คลังสินค้าบริเวณเกิดเหตุ และที่ผ่านมาทางการจีนยังได้เรียกผู้เชี่ยวชาญจากผู้ผลิตให้มาช่วยจัดการ และยังมีการใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นสารช่วยบรรเทาให้ความร้ายแรงลดลง ซึ่งไซยาไนด์ถือเป็นสารพิษที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตฉับพลันหากสูดดมเข้าไป ตามที่สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคระบาดสหรัฐฯ CDC ได้กล่าวไว้
ทางการจีนยังได้ประกาศประชาสัมพันธ์ต่อชาวเมืองเทียนจินเพื่อให้คลายความตระหนกว่า ถึงแม้สภาวะมลพิษจะมีระดับสูงกว่าปกติ แต่ทว่าคุณภาพอากาศในเทียนจินยังคง "ปลอดภัยสำหรับการหายใจ" อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวได้รายงานในช่วงเย็นวันเสาร์ (15 ส.ค.)ว่า มีการพบอัตราความหนาแน่นของไซยาไนด์ในน้ำเสียสูงถึง 10.9 เท่าของมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด 1 วันหลังจากการระเบิด
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ด้านกลุ่มกรีนพีซ เอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อมได้ออกแถลงการณ์ยืนยันในวันอาทิตย์ (16 ส.ค.)ว่า ทางกลุ่มได้ทำการทดสอบเก็บตัวอย่างน้ำจาก 4 จุดใหญ่ในเทียนจิน แต่ปรากฎว่าไม่พบโซเดียมไซยาไนด์ในระดับสูง
“จากการทดสอบพบว่า สภาพน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะของเทียนจินไม่ได้ปนเปื้อนในระดับขั้นร้ายแรงด้วยสารพิษไซยาไนด์” แต่ทว่าทางกรีนพีซชี้แจงว่า ผลทดสอบไม่ได้ยืนยันระบุว่า แหล่งน้ำสาธารณะมีสารพิษไซด์ยาไนด์อยู่หรือไม่.