รอยเตอร์/เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หลังจากเกิดระเบิดครั้งรุนแรงขึ้นที่คลังสินค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมเทียนจินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และทำให้มีเปลวไฟพุ่ง รวมไปถึงสารเคมีพิษ เช่น โซเดียมไซยาไนด์ กระจายฟุ้ง จนกระทั่งต้องสั่งกั้นรัศมีโดยรอบ 3 กม. จากจุดระเบิดเป็นเขตอันตรายห้ามเข้า ล่าสุด ในวันนี้ทางการจีนประกาศ (16) ตัวเลขผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้เพิ่มขึ้นจาก 85 คน ไปอยู่ที่ 112 คน สูญหาย 95 คน ในขณะที่มีจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ 721 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 33 คน และมีการพบผู้รอดชีวิตวัย 50 ปีห่างจากจุดระเบิดไปราว 50 ม. ในขณะที่ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้มีแถลงการณ์ออกมาในวันเสาร์ (15) เรียกร้องให้มีการปรับปรุงความปลอดภัยในที่ทำงานเพิ่มมากขึ้น
เมื่อวานนี้ (15) ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้ออกแถลงการณ์ถึงเหตุระเบิดนิคมอุตสาหกรรมเทียนจินซึ่งเกิดขึ้นในวันพุธ (12) และทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องจำเหตุการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียน
ในขณะที่ตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดในวันอาทิตย์ (16) จากการแถลงของผู้ช่วยหัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์เมืองเทียนจิน กอง เจียนเชง (Gong Jiansheng) กล่าวว่า “มาจนถึงเวลา 9.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันที่ 16 สิงหาคม 2015 ยอดรวมตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 112 คน” เอเอฟพีรายงาน
และกล่าวต่อไปว่า ทางการสามารถระบุร่างผู้เสียชีวิตไปแล้ว 24 ศพ และยังมี 88 ศพที่ต้องรอการพิสูจน์" กองกล่าวต่อ
ทั้งนี้ในวันอาทิตย์(16) พบว่ามีตัวเลขผู้สูญหายที่ 95 คน
เอเอฟพี ชี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนประสบความยากลำบากในการระบุถึงชิ้นส่วนที่พบในที่เกิดเหตุ ก่อให้ความสับสนและกะงวลขึ้นในหมู่ประชาชนชาวเทียนจิน
และสำนักข่าวซินหัว สื่อจีนรายงานเพิ่มเติมว่า ทางการจีนได้สั่งอพยพชาวบ้านที่แต่เดิมใช้โรงเรียนใกล้กับจุดเกิดเหตุเป็นศูนย์อพยพชั่วคราวให้ออกไป หลังจากในวันเสาร์ (15) กระแสลมได้เปลี่ยนทิศทาง และเกรงว่าจะทำให้สารเคมีพิษฟุ้งกระจายเข้ามายังบริเวณแผ่นดินใหญ่
แต่ยังไม่แน่ชัดในเบื้องต้นว่ามีจำนวนผู้ต้องอพยพออไปจำนวนเท่าใด
รอยเตอร์รายงานว่า การสั่งอพยพรอบใหม่เกิดขึ้นหลังจากมีเปลวไฟปะทุเกิดขึ้นในจุดที่เกิดเพลิงไหม้ในคลังสินค้าในวันพุธ (12) ซึ่งเป็นคลังสินค้าที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บสารเคมีอันตรายต่าง ๆ
และนอกจากนี้ ชาวบ้านที่ต้องถูกสั่งให้เคลื่อนย้ายออกไปได้รับคำแนะนำจากทางการจีนให้สวมกางเกงขายาว และหน้ากากป้องกัน เพราะเป็นการอพยพที่เป็นไปอย่างเคร่งครัด อ้างอิงจากการรายงานไมโครบล็อกอย่างเป็นทางการของสำนักงานสุขภาพและการวางแผนครอบครัวในเทียนจิน และถนนในเทียนจินดูสงบ
แต่ทว่าความสับสนอลหม่านยังคงเกิดขึ้นเนื่องจากครอบครัวของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจีนที่สูญหายในระหว่างการปฎิบัติหน้าที่ต้องการคำตอบ ในขณะบรรดาเจ้าหน้าที่ต่างพยายามกันให้ช่างภาพนักข่าวออกไป โดยกอง เจียนเชง (Gong Jiansheng) เจ้าหน้าที่เขตได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งอพยพ
และท่ามกลางความสับสนมีข่าวดีปรากฏ สามารถพบผู้รอดชีวิตเป็นชายอายุ 50 ปี ที่ได้รับการช่วยเหลือห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุไปราว 50 ม. สำนักข่าวซินหัวรายงาน และพบว่าชายที่รอดชีวิตนี้มีปัญหาระบบการเดินหายใจตอนบนได้รับความเสียหายเนื่องมาจากสูดควันพิษมากเกินไป แต่อาการโดยรวมของผู้รอดชีวิตวัย 50 ปียังคงที่ CCTVสถานีโทรทัศน์จีน และสำนักข่าวซินหัวรายงาน
และรอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ตำรวจจีนยืนยันของการฟุ้งกระจายสารเคมีพิษ โซเดียมไซยาไนด์ ทั่วทางตะวันออกของบริเวณเกิดเหตุ ซึ่งหากเกิดสูดดมเข้าไปจะทำให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ทว่ายังไม่มีการระบุแน่ชัดว่ามีจำนวนมากเพียงใด หรือจะเป็นอันตรายต่อผู้อาศัยรอบโรงงานนิคมอุตสาหกรรมเทียนจินแห่งนี้มากเท่าใด แต่ชาวบ้านต่างกังวลถึงปัญหาคุณภาพอากาศและน้ำในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ
สื่อจีนยังรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณโดยรอบคลังสินค้าที่ระเบิดถูกกั้นเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าในรัศมี 3 กม.
ด้านสำนักงานบริหารสมุทรศาสตร์แห่งชาติจีนได้ออกมายืนยันผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่า ไม่พบการปนเปื้อนสารไซยาไนด์ในท้องน้ำบริเวณโดยรอบท่าเรือเทียนจิน
และ CCTV รายงานผ่านไมโครบล็อกว่า เกิดเหตุการณ์ระเบิดขนาดเล็กขึ้นอีกครั้งในวันเสาร์(15)ในบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ใหญ่ในวันพุธ (12) ที่ผ่านมา ซึ่งเปลวเพลิงลูกใหม่ได้เกิดขึ้นบริเวณลานจอดรถที่มีรถจอดอยู่ใกล้กับคลังสินค้าสารเคมีที่เกิดระเบิด แต่ทว่ามาจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบความเสียหายอย่างแน่ชัดว่าเหตุใดจึงเกิดเปลวไฟปะทุขึ้น
รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมจีนได้เปิดเผยกับนักข่าวจีนก่อนหน้านี้ว่า ไม่พบสิ่งผิดปกติกับปัญหามลพิษเกิดขึ้น และไม่พบอนุภาคสารพิษในอากาศจากสถานีตรวจอากาศ 17 แห่วรอบเมืองเทียนจิน
และผลจากเหตุระเบิดทำให้ประชาชนจีนในพื้นที่ต้องอพยพร่วม 6,300 คน
รวมไปถึงตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 721 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 33 คน และเกิดคลื่นช็อกเวฟที่คนในพื้นที่รู้สึกได้บนตึกอพาร์ตเมนต์ห่างไปร่วมหลายกิโลเมตรในเทียนจินที่มีประชากรอาศัยร่วม 15 ล้านคน
และในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักผจญเพลิงจีนต้องจบชีวิตไม่ต่ำกว่า 21 คน
ในขณะที่บรรดาญาติของนักผจญเพลิงที่สูญหายต่างพยายามบุกเข้าไปยังศูนย์การข่าวด้วยความโกรธแค้นเพราะไม่ได้รับทราบข้อมูลของคนในครอบครัวที่สูญหาย “เราเดินทางไปโรงพยาบาลทุกแห่งแต่ไม่พบคนเหล่านั้น” หวาง เบาเซียะ (Wang Baoxia) น้องชายของนักผจญเพลิงจีนผู้สูญหายที่เป็นพี่ชายกล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
สื่อท้องถิ่นจีนรายงานว่า นักดับเพลิงจีนที่ส่วนใหญ่มีสัญญาว่าจ้างงาน 2 ปี ไม่ได้รับการฝึกฝนในการดับเพลิงหลังจากเข้ารับบรรจุ
และหวางยังกล่าวต่อว่า “ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดยอมเปิดปากพูดคุยกับเรา ไม่แม้แต่คนเดียว” ซึ่งทางครอบครัวนักผจญเพลิงที่สูญหายให้ข้อมูลว่า มีจำนวนนักดับเพลิงจำนวน 25 คนที่มีสัญญาการจ้างงานไม่กี่ปีนั้นไม่ได้ถูกบรรจุประจำแผนกดับเพลิงของเมืองเทียนจิน
หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ในวันพุธ (12) มีการตำหนินักดับเพลิงจีนที่ใช้น้ำในการดับเพลิงไหม้สารเคมี ที่อาจทำให้เกิดการลุกไหม้เพิ่มเติมเนื่องจากมีสารเคมีอยู่ในนั้น