เมื่อเวลา 07.00 น. วานนี้ (10 ส.ค.) ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1.รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ ให้คณะรัฐมนตรี ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือนระดับสูง และคนสนิท พร้อมทั้งอดีตข้าราชการ เข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายเกิดครบรอบ 70 ปี วันที่ 11 ส.ค. โดยมีบุคคลในรัฐบาลเดินทางเข้าร่วมงานคือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการครม.
ส่วนข้าราชการในเหล่าทัพ ประกอบไปด้วย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดฯกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ในขณะที่ข้าราชการระดับสูงในกองทัพบกที่เข้าร่วมงาน คือ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ในฐานะรองผบ.ทบ. พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสธ.ทบ. เข้าร่วมอวยพรอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดช นำคณะข้าราชการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอวยพร ว่า ขอถือโอกาสอันเป็นมงคลนี้ พร้อมใจกันอำนวยพรและร่วมแสดงมุทิตาจิตแด่ พล.อ.ประวิตร ด้วยความเคารพรักเป็นอย่างยิ่ง โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกตน ได้ประจักษ์ถึงความวิริยะ อุตสาหะ ความทุ่มเท เสียสละ พร้อมทั้งอุดมการณ์อันแน่วแน่ของท่านที่ได้สร้างความมั่นคง ความเข้มแข็ง และความสมานฉันท์ ให้เกิดขึ้นในสังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน ตลอดจนความมุ่งมั่นในการพิทักษ์รักษา และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติ ด้วยความจงรักภักดีอย่างสูงสุด ทั้งนี้ การดำเนินงานของพวกเราทั้งปวงจึงทำไปเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนโดยแม้จริง รวมทั้งได้สร้างคุณประโยชน์ให้ส่วนรวมนานัปประการ
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า จะปฏิบัติหน้าที่สนองนโยบายที่พล.อ.ประวิตร มอบให้แก่ข้าราชการกระทรวงกลาโหมอย่างดีที่สุด และจะยึดถือแนวทางของท่านในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อพัฒนาชาติบ้านเมืองเป็นปึกแผ่น มั่นคงยิ่งขึ้นไป
จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอขอบคุณ พล.อ.อนุพงษ์ ที่มาอวยพรในวันนี้ เนื่องจากมีความอาวุโสสุด รวมถึง พล.อ.อุดมเดช และน้องๆ เพื่อนๆ พร้อมทั้งผู้ร่วมงานที่รักทุกคน ที่แสดงน้ำใจไมตรีที่ทุกท่านมอบให้กับตน ทั้งนี้ในวันคล้ายวันเกิดของตนเมื่อปีที่ผ่านมา จำได้ว่าก็มายืน ณ จุดนี้ แล้วก็มีน้องๆ เพื่อนๆ มาอวยพร ซึ่งตอนนั้นตนก็ได้พูดถึงนายกรัฐมนตรีไว้มาก เกี่ยวกับความเสียสละของท่าน ที่ทำเพื่อประเทศชาติ ตอนนั้นตนยังไม่เข้ามาเป็นรัฐมนตรี แล้ว 1 ปีก็ผ่านไปไวมาก แถมก็มีอะไรต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตามในปีนี้ ตนได้เข้ามาอยู่ในรัฐบาล ทำงานมาเกือบ 1 ปี ได้ทำงานร่วมกับน้องๆ ตลอดจนร่วมกับท่านนายกฯ จะเห็นได้ว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราทุกคน โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม ได้ทุ่มเทเสียสละอย่างยิ่ง เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขต่อไป ซึ่งพวกเราก็ผ่านพ้นมาได้ ดังนั้นตนคิดว่าคงต้องอาศัยน้องๆ และข้าราชการทั้งหมดจำเป็นต้องทุ่มเทเสียสละให้กันนายกฯ เพื่อทำให้บ้านเมืองของเราเดินไปข้างหน้าให้ได้ เพราะสถานการณ์โลก โดนเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ เป็นอุปสรรคมากมาย ทำให้เกิดปัญหาที่เราต้องแก้ไข
"ปีที่แล้ว ผมอายุ 69 ปี พรุ่งนี้ (11 ส.ค. ) ผมจะอายุ70 ปีเต็ม ถือว่าอายุมากแล้ว พวกน้องๆ จะต้องเติบโตขึ้นมา เพื่อดูแลรักษาบ้านเมือง และต้องมาช่วยกัน เพื่อให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองให้ได้ ภายใต้การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2559 ผมอยากฝากน้องๆ และข้าราชการทุกคนต้องช่วยกันทำให้ประเทศชาติ และสถาบัน เพราะพระองค์ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยมามากแล้ว รวมถึงอีกหลายพระองค์ที่เสียสละเพื่อประเทศชาติมาตลอด ดังนั้น เราจะต้องรักษาให้ได้ ผมก็ขอให้เราช่วยกัน และหวังอย่างยิ่งว่าในวันเกิด 70 ปีของผม จะทำใก้พวกเราร่วมมือร่วมใจทำให้ประเทศชาติ ทุกคนก็มีความตั้งใจทำให้ส่วนรวมทั้งสิ้น"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เดินทางมาร่วมอวยพร พล.อ.ประวิตร โดยนำเอาแจกันดอกไม้และกระเช้าผลไม้ มอบให้ด้วย ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ในวันนี้เอาของขวัญชิ้นในมอบ พล.อ.ประวิตร ให้เป็นพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า "หัวใจ" นอกจากนี้ยังมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. และน.ส.นวลพรรณ ล่ำซำ ก็เดินทางมาร่วมอวยพรด้วย ส่วนภายในงานอวยพรวันเกิด พล.อ.ประวิตร นั้น มีบรรยากาศชื่นมื่น และคึกคักมาก เพราะมีคนมาร่วมงานจำนวนมากจนเต็มล้นพื้นที่มูลนิธิ จนแทบจะไม่มีที่ยืน
พล.อ.ประยุทธ เปิดเผยหลังอวยพรวันเกิดของ พล.อ.ประวิตร ว่า ในฐานะที่พล.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ และเป็นอดีตผู้บังคัญบัญชาที่ตนเคารพนับถือมาก ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และยังเป็นพี่เลี้ยงตนมาตั้งแต่เด็ก พอจบการศึกษามา ก็ไปรายงานตัวกับ พล.อ.ประวิตร ตั้งแต่เป็นผู้บังคับกองร้อย และเป็นผู้หมวด อีกทั้งอยู่กองร้อยเดียวกับ พล.อ.ประวิตร ซึ่งท่านสอนผมมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นสิ่งใดก็ตามที่ดีๆ ตนได้รับการสั่งสอนมาจากพี่ๆ ทั้งหมด ถ้าสิ่งใดที่ไม่ดี ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเราเอง วันนี้ตนได้มาอวยพรท่านในฐานะที่เป็นพี่ที่รัก เพราะการเป็นพี่เป็นน้อง แค่วันเดียวหรือชั่วโมงเดียวก็เป็นทั้งชีวิต ดังนั้นเราต้องเคารพซึ่งกันและกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์จบ พล.อ.ประวิตร ได้เดินไปส่ง พล.อ.ประยุทธ์ ที่รถยนต์ประจำตำแหน่ง และ เดินกลับมาเจอกับผู้สื่อข่าว จึงได้กล่าวทักทายอย่างอารมณ์ดี ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า เมื่อเช้าพูดเหมือนจะถอดใจ จะส่งไม้ให้น้องๆ ทำงานต่อ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่ถอดใจ ยังสู้ ยังไหว" พร้อมชูกำปั้นที่แขนซ้านด้านล่างยังใส่เฝือกอ่อนโชว์ความแข็งแรง ให้ผู้สื่อข่าวดู
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร นายพรเพชร วิชิตชลชัย ปธ.สนช. และพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. ภายในห้องรับรอง เป็นการส่วนตัว ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมงานวันชาติ ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า ได้เห็นถึงความก้าวหน้าและความเจริญของสิงคโปร์ ซึ่งผู้สื่อข่าวคงไม่ได้มองเรื่องนั้น เพราะมุ่งแต่เขียนข่าวโจมตีเรื่องการซื้ออาวุธ ดังนั้นจะให้ประเทศไทยเจริญแบบสิงคโปร์ คงเป็นไปไม่ได้
"วันนี้ผมมาหารือกับท่าน พล.อ.ประวิตร กับ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งไม่ได้มาหารือกันว่าจะอยู่ต่อ หรือไม่อยู่ต่อ แต่คุยกันว่าการปฏิรูปในระยะต่อไป จะทำกันอย่างไร และที่ผ่านมาปีหนึ่งเป็นช่วงระยะต้น และจะทำอยู่ในระยะที่ 2 โดยจะนำสิ่งที่ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ดำเนินการ มาดูว่าจะดำเนินการได้แค่ไหน แต่ผมไม่อยากจะให้รื้อกันทั้งระบบ หรือรื้อโน่น รื้อนี่ ยืนยันว่าไม่ได้อยากจะอยู่ต่อ แต่ถามว่าทำไมต้องทำให้พวกท่านด้วย อย่างที่บอกว่าประเทศไทยอยู่เหมือนไก่ในเทศกาลตรุษจีน ไปไหนไม่ได้หรอก พอถึงเวลาก็ถูกเชือดหมด ดังนั้น เราควรจะเอาสิ่งที่ไปเห็นมา มาพัฒนาประเทศให้มีศักยภาพ ทางด้านความมั่นคง ทั้งกำลังรบทั้งที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน"
พล.อ. ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวในโซเชี่ยลมีเดีย ที่ระบุถึง คสช. สั่งคว่ำร่างรัฐธรรมนูญว่า "อย่างที่ผมบอก ถ้าไม่อ่านพวกนี้เลย ก็โง่ ถ้าเชื่อมาก็บ้า"
ส่วนข้าราชการในเหล่าทัพ ประกอบไปด้วย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดฯกลาโหม พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ในขณะที่ข้าราชการระดับสูงในกองทัพบกที่เข้าร่วมงาน คือ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ในฐานะรองผบ.ทบ. พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสธ.ทบ. เข้าร่วมอวยพรอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดช นำคณะข้าราชการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอวยพร ว่า ขอถือโอกาสอันเป็นมงคลนี้ พร้อมใจกันอำนวยพรและร่วมแสดงมุทิตาจิตแด่ พล.อ.ประวิตร ด้วยความเคารพรักเป็นอย่างยิ่ง โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกตน ได้ประจักษ์ถึงความวิริยะ อุตสาหะ ความทุ่มเท เสียสละ พร้อมทั้งอุดมการณ์อันแน่วแน่ของท่านที่ได้สร้างความมั่นคง ความเข้มแข็ง และความสมานฉันท์ ให้เกิดขึ้นในสังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน ตลอดจนความมุ่งมั่นในการพิทักษ์รักษา และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติ ด้วยความจงรักภักดีอย่างสูงสุด ทั้งนี้ การดำเนินงานของพวกเราทั้งปวงจึงทำไปเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนโดยแม้จริง รวมทั้งได้สร้างคุณประโยชน์ให้ส่วนรวมนานัปประการ
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า จะปฏิบัติหน้าที่สนองนโยบายที่พล.อ.ประวิตร มอบให้แก่ข้าราชการกระทรวงกลาโหมอย่างดีที่สุด และจะยึดถือแนวทางของท่านในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อพัฒนาชาติบ้านเมืองเป็นปึกแผ่น มั่นคงยิ่งขึ้นไป
จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอขอบคุณ พล.อ.อนุพงษ์ ที่มาอวยพรในวันนี้ เนื่องจากมีความอาวุโสสุด รวมถึง พล.อ.อุดมเดช และน้องๆ เพื่อนๆ พร้อมทั้งผู้ร่วมงานที่รักทุกคน ที่แสดงน้ำใจไมตรีที่ทุกท่านมอบให้กับตน ทั้งนี้ในวันคล้ายวันเกิดของตนเมื่อปีที่ผ่านมา จำได้ว่าก็มายืน ณ จุดนี้ แล้วก็มีน้องๆ เพื่อนๆ มาอวยพร ซึ่งตอนนั้นตนก็ได้พูดถึงนายกรัฐมนตรีไว้มาก เกี่ยวกับความเสียสละของท่าน ที่ทำเพื่อประเทศชาติ ตอนนั้นตนยังไม่เข้ามาเป็นรัฐมนตรี แล้ว 1 ปีก็ผ่านไปไวมาก แถมก็มีอะไรต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตามในปีนี้ ตนได้เข้ามาอยู่ในรัฐบาล ทำงานมาเกือบ 1 ปี ได้ทำงานร่วมกับน้องๆ ตลอดจนร่วมกับท่านนายกฯ จะเห็นได้ว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราทุกคน โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม ได้ทุ่มเทเสียสละอย่างยิ่ง เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขต่อไป ซึ่งพวกเราก็ผ่านพ้นมาได้ ดังนั้นตนคิดว่าคงต้องอาศัยน้องๆ และข้าราชการทั้งหมดจำเป็นต้องทุ่มเทเสียสละให้กันนายกฯ เพื่อทำให้บ้านเมืองของเราเดินไปข้างหน้าให้ได้ เพราะสถานการณ์โลก โดนเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ เป็นอุปสรรคมากมาย ทำให้เกิดปัญหาที่เราต้องแก้ไข
"ปีที่แล้ว ผมอายุ 69 ปี พรุ่งนี้ (11 ส.ค. ) ผมจะอายุ70 ปีเต็ม ถือว่าอายุมากแล้ว พวกน้องๆ จะต้องเติบโตขึ้นมา เพื่อดูแลรักษาบ้านเมือง และต้องมาช่วยกัน เพื่อให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองให้ได้ ภายใต้การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2559 ผมอยากฝากน้องๆ และข้าราชการทุกคนต้องช่วยกันทำให้ประเทศชาติ และสถาบัน เพราะพระองค์ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยมามากแล้ว รวมถึงอีกหลายพระองค์ที่เสียสละเพื่อประเทศชาติมาตลอด ดังนั้น เราจะต้องรักษาให้ได้ ผมก็ขอให้เราช่วยกัน และหวังอย่างยิ่งว่าในวันเกิด 70 ปีของผม จะทำใก้พวกเราร่วมมือร่วมใจทำให้ประเทศชาติ ทุกคนก็มีความตั้งใจทำให้ส่วนรวมทั้งสิ้น"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เดินทางมาร่วมอวยพร พล.อ.ประวิตร โดยนำเอาแจกันดอกไม้และกระเช้าผลไม้ มอบให้ด้วย ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ในวันนี้เอาของขวัญชิ้นในมอบ พล.อ.ประวิตร ให้เป็นพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า "หัวใจ" นอกจากนี้ยังมี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. และน.ส.นวลพรรณ ล่ำซำ ก็เดินทางมาร่วมอวยพรด้วย ส่วนภายในงานอวยพรวันเกิด พล.อ.ประวิตร นั้น มีบรรยากาศชื่นมื่น และคึกคักมาก เพราะมีคนมาร่วมงานจำนวนมากจนเต็มล้นพื้นที่มูลนิธิ จนแทบจะไม่มีที่ยืน
พล.อ.ประยุทธ เปิดเผยหลังอวยพรวันเกิดของ พล.อ.ประวิตร ว่า ในฐานะที่พล.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ และเป็นอดีตผู้บังคัญบัญชาที่ตนเคารพนับถือมาก ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และยังเป็นพี่เลี้ยงตนมาตั้งแต่เด็ก พอจบการศึกษามา ก็ไปรายงานตัวกับ พล.อ.ประวิตร ตั้งแต่เป็นผู้บังคับกองร้อย และเป็นผู้หมวด อีกทั้งอยู่กองร้อยเดียวกับ พล.อ.ประวิตร ซึ่งท่านสอนผมมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นสิ่งใดก็ตามที่ดีๆ ตนได้รับการสั่งสอนมาจากพี่ๆ ทั้งหมด ถ้าสิ่งใดที่ไม่ดี ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเราเอง วันนี้ตนได้มาอวยพรท่านในฐานะที่เป็นพี่ที่รัก เพราะการเป็นพี่เป็นน้อง แค่วันเดียวหรือชั่วโมงเดียวก็เป็นทั้งชีวิต ดังนั้นเราต้องเคารพซึ่งกันและกัน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์จบ พล.อ.ประวิตร ได้เดินไปส่ง พล.อ.ประยุทธ์ ที่รถยนต์ประจำตำแหน่ง และ เดินกลับมาเจอกับผู้สื่อข่าว จึงได้กล่าวทักทายอย่างอารมณ์ดี ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า เมื่อเช้าพูดเหมือนจะถอดใจ จะส่งไม้ให้น้องๆ ทำงานต่อ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่ถอดใจ ยังสู้ ยังไหว" พร้อมชูกำปั้นที่แขนซ้านด้านล่างยังใส่เฝือกอ่อนโชว์ความแข็งแรง ให้ผู้สื่อข่าวดู
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร นายพรเพชร วิชิตชลชัย ปธ.สนช. และพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. ภายในห้องรับรอง เป็นการส่วนตัว ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมงานวันชาติ ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า ได้เห็นถึงความก้าวหน้าและความเจริญของสิงคโปร์ ซึ่งผู้สื่อข่าวคงไม่ได้มองเรื่องนั้น เพราะมุ่งแต่เขียนข่าวโจมตีเรื่องการซื้ออาวุธ ดังนั้นจะให้ประเทศไทยเจริญแบบสิงคโปร์ คงเป็นไปไม่ได้
"วันนี้ผมมาหารือกับท่าน พล.อ.ประวิตร กับ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งไม่ได้มาหารือกันว่าจะอยู่ต่อ หรือไม่อยู่ต่อ แต่คุยกันว่าการปฏิรูปในระยะต่อไป จะทำกันอย่างไร และที่ผ่านมาปีหนึ่งเป็นช่วงระยะต้น และจะทำอยู่ในระยะที่ 2 โดยจะนำสิ่งที่ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ดำเนินการ มาดูว่าจะดำเนินการได้แค่ไหน แต่ผมไม่อยากจะให้รื้อกันทั้งระบบ หรือรื้อโน่น รื้อนี่ ยืนยันว่าไม่ได้อยากจะอยู่ต่อ แต่ถามว่าทำไมต้องทำให้พวกท่านด้วย อย่างที่บอกว่าประเทศไทยอยู่เหมือนไก่ในเทศกาลตรุษจีน ไปไหนไม่ได้หรอก พอถึงเวลาก็ถูกเชือดหมด ดังนั้น เราควรจะเอาสิ่งที่ไปเห็นมา มาพัฒนาประเทศให้มีศักยภาพ ทางด้านความมั่นคง ทั้งกำลังรบทั้งที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน"
พล.อ. ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวในโซเชี่ยลมีเดีย ที่ระบุถึง คสช. สั่งคว่ำร่างรัฐธรรมนูญว่า "อย่างที่ผมบอก ถ้าไม่อ่านพวกนี้เลย ก็โง่ ถ้าเชื่อมาก็บ้า"