สุราษฎร์ธานี - “สิระ เจนจาคะ” สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านสังคม เมินล็อบบี้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ย้ำหากรัฐธรรมนูญถูกคว่ำจริงยินดีแสดงความรับผิดชอบคืนเงินทุกบาททุกสตางค์
วันนี้ (8 ส.ค.) นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านสังคม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตาม และตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของนักเรียนตาบอดภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนตาบอด จำนวน 112 คน เพื่อเตรียมผลักดันงบประมาณด้านการฝึกอาชีพให้แก่นักเรียนที่จบการศึกษา โดยมีครู บุคลากร และสมาคมศิษย์เก่านักเรียนตาบอดภาคใต้ให้การต้อนรับ
พร้อมกันนี้ ได้มีตัวแทนสมาคมศิษย์เก่านักเรียนตาบอดภาคใต้ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับกรณีที่มีข้าราชการครูคนหนึ่งซึ่งเป็นบุคคลปกติได้ทำหนังสือขอโยกย้ายมาประจำตำแหน่งที่มีไว้สำหรับคนพิการ (ตาบอด) 1 ตำแหน่ง เท่ากับเป็นการเบียดบัง หรือปิดโอกาสแก่คนพิการทั้งที่มีคนพิการที่เรียนจบ และพร้อมที่จะบรรจุตำแหน่งนี้ แต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บริหาร จึงได้ร้องขอให้ นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านสังคม ช่วยพิจารณาเพื่อผลักดันแก้ไขในเรื่องนี้ด้วย โดยที่ นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ รับปากที่จะช่วยแก้ไขปัญหา และช่วยผลักดันเกี่ยวกับเรื่องการฝึกอาชีพให้แก่นักเรียนตาบอดที่จบการศึกษาเพื่อจะได้มีงานทำ
นอกจากนั้น นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านสังคม ยังได้กล่าวเกี่ยวกับกรณีที่มีขบวนการรวบรวมรายชื่อเพื่อให้สมาชิก สปช. ลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่มีเหตุผล ซึ่ง สปช.ทำกับมือแล้วจะคว่ำเสียเอง อันไหนที่มีปัญหาควรเข้าไปแก้ไข ไม่ใช่คว่ำโดยไม่มีเหตุผล ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์เสร็จแล้วมาวิจารณ์จะคว่ำ หรือไม่คว่ำค่อยมาว่ากันตรงนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์เลย รวมทั้งกรณีที่มีข่าวว่าจะมีการล็อบบี้ตนเองเพื่อแลกต่อการเข้าดำรงตำแหน่งในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศนั้น ตนมีความรู้สึกว่าคนที่คว่ำรัฐธรรมนูญที่ไม่ผ่านไม่สมควรที่จะไปสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ถ้าท่านนายกรัฐมนตรีหรือบุคคลที่ทำให้รัฐธรรมนูญไม่ผ่านเป็นคนที่ทำงานล้มเหลวคิดว่าประชาชนผู้เสียภาษีคงจะไม่ยอม แต่ถ้าทำงานได้สำเร็จประชาชนได้ใช้ เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด และสมบูรณ์ที่สุดสมควรที่จะไปสภาขับเคลื่อนมากกว่าที่จะมาคว่ำโดยใช้เงินภาษีประชาชนเป็นพันล้าน และเสียเวลามาเป็น 11 เดือน
ส่วนตนเองยังยืนยันต่อว่า ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้โดนคว่ำโดยสภาปฏิรูปแห่งชาติตนถือว่าทำงานล้มเหลว และต้องรับผิดชอบเรื่องเงินเดือนที่ได้รับจากการเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติตนเองยินดีคืนเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้ต้องมีหน้าที่ โดยที่ไม่ใช่เฉพาะตนเพียงคนเดียว ยังมี สปช.อีกคนหนึ่งที่ถูกล็อบบี้ให้เซ็นชื่อ และได้รับการปฏิเสธเช่นเดียวกัน
นายสิระ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ สปช.เปรียบเสมือนผู้รับเหมาสร้างบ้านเบิกเงินเป็นรายงวดมาแล้ว พอถึงเวลาส่งมอบก็ทุบทิ้งเฉยๆ รัฐธรรมนูญก็เช่นเดียวกันพอถึงเวลาส่งมอบก็คว่ำทิ้ง ตนมีจุดยืนที่ชัดเจนว่า เมื่อได้รับการคัดเลือกเข้ามาทำหน้าที่ สปช. ก็ต้องทำรัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับที่ดีที่สุดต่อประชาชน