xs
xsm
sm
md
lg

เชื่อมั่นต่ำสุดรอบ14เดือน กังวล"ศก.-หุ้นร่วง-ส่งออก"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. ลดลงทุกรายการเป็นเดือนที่ 7 เฉพาะดัชนีเชื่อมั่นต่ำสุดในรอบ 14 เดือน หลังปัจจัยลบรุมกระหน่ำ ทั้งเศรษฐกิจไทยแย่สุดในรอบ 43 เดือนนับจากน้ำท่วมใหญ่ปี 54 สินค้าเกษตรตกต่ำ หุ้นตก ส่งออกลด ค่าครองชีพสูง คาดความเชื่อมั่นใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว หลังรัฐอัดฉีดกระตุ้น ส่วนวันแม่ เงินสะพัด 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.61%
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.2558 ที่สำรวจจากประชาชนทั่วประเทศ 2,245 คนว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทุกรายการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 73.4 ลดจาก 74.4 ในเดือนมิ.ย.2558 ต่ำสุดในรอบ 14 เดือน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 54.8 ลดจาก 55.9 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 80.5 ลดจาก 81.5 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 62.6 ลดจาก 63.8 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานอยู่ที่ 68.6 ลดจาก 69.4 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 88.8 ลดจาก 90.0
ปัจจัยลบที่ทำให้ดัชนีทุกรายการลดลง ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดจีดีพีเหลือ 3% จากเดิม 3.7% สินค้าเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะข้าวและยางพารา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เดือนก.ค.ลดลง 64.43 จุด ความกังวลเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวไม่แน่นอน ปัญหากรีซผิดนัดชำระหนี้ การส่งออกเดือนก.ค.ลดลง 7.87% และ 6 เดือนลด 4.84% เงินบาทอ่อนค่า และผู้บริโภคยังกังวลค่าครองชีพสูง
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลง สอดคล้องกับการลดลงของดัชนีความเหมาะสมของการซื้อรถยนต์คันใหม่ ที่อยู่ที่ 87.8 ลดลงจาก 90.9 ดัชนีความเหมาะสมการซื้อบ้านหลังใหม่ อยู่ที่ 61.7 ลดจาก 63.9 ดัชนีความเหมาะสมการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวอยู่ที่ 60.3 ลดจาก 63.1 และดัชนีความเหมาะสมการลงทุนทำธุรกิจอยู่ที่ 43.6 ลดจาก 45.5
"ผลสำรวจชี้ชัดว่าประชาชนมากกว่า 50% มองว่าเศรษฐกิจไทยในเดือนก.ค.2558 แย่สุดในรอบ 43 เดือน นับตั้งแต่ไทยเกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา ไทยมีปัญหาภัยแล้ง และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รายได้เข้ากระเป๋าน้อยลง จึงไม่แปลกที่ประชาชนมองว่าค่าครองชีพสูง ทั้งๆ ที่ร้านค้าพยายามจัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม แต่เมื่อไม่มีเงิน ก็ทำให้ประชาชนมองว่าสินค้ายังแพงอยู่ดี"นายธนวรรธน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากที่รัฐบาลเริ่มมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 มาตรการ ซึ่งคาดว่าจะมีเงินเข้าสู่ในระบบประมาณ 100,000 ล้านบาท จะช่วยดึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้ และจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเกิน 3% จากปัจจุบันที่ศูนย์ฯ ประเมินเศรษฐกิจขยายตัว 2.5-2.9%
นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงวันแม่ปีนี้ว่า คาดจะมีมูลค่าการใช้จ่ายอยู่ที่ 12,245.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.61% จากปีก่อน เพราะราคาสินค้าแพงและค่าครองชีพสูง ทำให้การใช้จ่ายสูงขึ้น โดยการใช้จ่ายส่วนใหญ่ เช่น พาแม่ไปทานข้าว
เฉลี่ยอยู่ที่ 1,651.83 บาท พาลูก ครอบครัวไปทานข้าว 2,388.24 บาท ทำกิจกรรมร่วมกัน 1,356.69 บาท พาแม่ไปทำบุญ 1,684.07 บาท พาแม่ไปทำกิจกรรมอื่นนอกบ้าน 1,171.48 บาท พาแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัด (ค้างคืน) 7,143.10 บาท ถ้าเช้าไปเย็นกลับ 3,979.75 บาท พาแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ 83,590 บาท พาแม่ไปนวด สปา 1,593.75 บาท เป็นต้น
เมื่อถามถึงการติดตามข่าวกิจกรรม "ไบค์ ฟอร์ มัม ปั่นเพื่อแม่" พบว่า ประชาชนกว่า 70% ให้ความสนใจมากที่สุดถึงปานกลาง และมีประชาชน 45.1% จะเข้าร่วมขี่จักรยาน ส่วนการใช้จ่ายในการร่วมกิจกรรม พบว่า ประชาชน 68% จะมีการใช้จ่ายในการซื้อเสื้อไบค์ ฟอร์ มัม รองลงมาเป็นเป็นการซื้ออุปกรณ์ขี่จักรยาน , ซื้อรองเท้ากีฬาคู่ใหม่และซื้อจักรยานคันใหม่ เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น