xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สผ.ยันสอบเอาผิดผู้บริหารแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.สผ.ยันไม่ได้ละเลยลงโทษผู้บริหารที่ถูกดึงตัวไปคุมในโครงการปลูกปาล์มของPTTGE ชี้อยู่ในขั้นตอนสอบสวน โดยคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้ชงเสนอบอร์ดฯเมื่อพ.ค.นี้ก่อนตั้งกรรมการรพิจารณาวินัยต่อไป สาเหตุที่ใช้เวลาพิจารณานาน7 เดือนเพราะไม่มีความชำนาญในธุรกิจปาล์มอีกทั้งปตท.สผ.เป็นบริษัทมหาชนที่มีระเบียบปฏิบัติแยกจากปตท. และผู้ถูกกล่าวหาเป็นพนักงานระดับบริหาร ต้องปฏิบัติตามระเบียบบริษัทเอง

ตามที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีทีที กรีน เอ็นเนอร์ยี่ (PTTGE) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อนายนิพิฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สังกัดประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.โดยนายนิพิฐได้ถูกดึงตัวเป็นผู้อำนวยการโครงการพัฒนาธุรกิจน้ำมันปาล์มของPTTGE 5 โครงการในอินโดนีเซียปี 2550 และถูกกล่าวหาว่าเป็นพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ PTTGE หรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เรียกค่าเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท

ในสำนวนคำฟ้องตอนหนึ่ง ระบุถึงผลการตรวจสอบการดำเนินการของ PTTGE เมื่อปี 2555 พบว่า การจัดหาที่ดินเพื่อปลูกปาล์มใน 5 โครงการ และการดำเนินโครงการดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะเกิดการเสียหาย สูญเสียเงินลงทุนของ ปตท.และ PTTGE รวมทั้งยังมีการจ่ายเงินค่าสิทธิในที่ดินเพื่อปลูกปาล์มดังกล่าวสูงกว่าเกณฑ์ที่คณะกรรมการปตท.อนุมัติ รวมทั้งอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการก่อสร้างและใช้งานโรงสกัดน้ำมันปาล์ม เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายอินโดนีเซียด้วย

ต่อมาคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้สอบสวนการกระทำมิชอบในโครงการนี้แล้ว พบว่า อาจมีการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามระเบียบ จึงเสนอรายงานต่อคณะกรรมการบริษัท ปตท. แต่เนื่องจากความผิดดังกล่าวยังไม่ปรากฏชัดแจ้งว่ามีการกระทำผิดอย่างไร โจทก์ทั้งสองได้รับความเสียหายอย่างใด และบุคคลใดเป็นผู้ รับผิดชอบ บริษัท
ปตท.จึงตั้งคณะกรรม การสอบสวนการดำเนินงานของ PTTGE ขึ้นอีกชุดหนึ่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2557 คณะกรรมการสอบสวนการดำเนินงานของ PTTGE ได้เสนอรายงานผลการสอบสวนต่อคณะกรรม การสืบสวนข้อเท็จจริงของบริษัท ปตท. ต่อที่ประชุมบอร์ด ปตท. และเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2557 บอร์ด ปตท.มีมติให้ลงโทษทางวินัยแก่บุคคลต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวนหลายราย
โดยในส่วนของนายนิพิฐ คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้เสนอให้ลงโทษด้วยการไล่ออก เนื่องจากนายนิพิฐเป็นพนักงานปตท.สผ.จึงได้ส่งตัวกลับต้นสังกัดไปดำเนินการ รวมทั้งได้ส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการตามกฎหมายด้วย

รายงานข่าวจากบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)(PTTEP) แจ้งว่า ตามที่มีกระแสข่าวระบุว่าปตท.สผ.ละเลย ไม่ได้ดำเนินการลงโทษผู้บริหารของ ปตท.สผ. ที่ได้ส่งไปปฎิบัติงานสมทบกับ บมจ.ปตท. ในบริษัทบริษัท พีทีที กรีน เอ็นเนอยี จำกัด หรือ PTTGE ทั้งที่ ปตท. ได้ดำเนินการสอบสวนวินัยและชี้โทษแล้วเสร็จ และได้ส่งเรื่องให้สำนักงาน
ป.ป.ช.สอบสวนเพิ่มเติม รวมถึงได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นคดีแพ่งต่อผู้ถูกกล่าวหาแล้วนั้น
ทางปตท.สผ.ได้มีการดำเนินการผู้ถูกกล่าวหาเป็นพนักงานระดับบริหารของปตท.สผ. ที่ ปตท.ได้ขอยืมตัวไปช่วยปฏิบัติงานในกลุ่ม ปตท. และ ปตท. ได้มอบหมายให้ผู้ถูกกล่าวหาไปปฎิบัติงานในธุรกิจปาล์มน้ำมันกับ PTTGE ของ ปตท.ตั้งแต่ปี 2550 ซึ่ง ปตท.สผ. ไม่ได้มีส่วนร่วมในการลงทุนหรือการกำกับดูแลธุรกิจนี้แต่อย่างใด
ปตท. ได้ส่งตัวผู้ถูกกล่าวหากลับจากการปฏิบัติงานสมทบกับ PTTGE ในวันที่ 1 มีนาคม 2555 จากนั้น ปตท. ได้ดำเนินการสอบข้อเท็จจริง และสอบสวนทางวินัย เรื่องการลงทุนธุรกิจปาล์มน้ำมัน ในประเทศอินโดนีเซียตั้งแต่กลางปี 2555 จนแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2557 และได้แจ้งผลการสอบสวนทางวินัยให้ ปตท.สผ. ทราบเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2557ว่ามีการกระทำผิดวินัยเกิดขึ้น แต่ระบุว่าไม่พบประเด็นการทุจริต และเสนอให้เลิกจ้างผู้กล่าวหา โดยขอให้ ปตท.สผ. พิจารณาเทียบเคียงโทษตามระเบียบของ ปตท.สผ. ต่อไป
ถึงแม้ว่า ปตท.สผ. จะเป็นบริษัทในเครือ ปตท. แต่ก็เป็นบริษัทมหาชนที่มีระเบียบปฏิบัติแยกจากกัน เมื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นพนักงานระดับบริหารของ ปตท.สผ. จึงต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคล ที่กำหนดให้คณะกรรมการ ปตท.สผ. ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และคณะกรรมการวินัยต่อไป เมื่อ ปตท.ส่งผลการสอบสวนให้ ปตท.สผ.ในเดือนสิงหาคม 2557 คณะกรรมการ ปตท.สผ. ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงประกอบด้วย กรรมการบริษัท และให้เชิญผู้แทนหน่วยงานภาครัฐอีก 2 ท่านเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงด้วย เพื่อความโปร่งใส เป็นกลาง และเป็นธรรมกับทุกฝ่ายรวมถึงได้มีการหารือประเด็นข้อกฎหมายในเบื้องต้นจากสำนักงานทนายความที่มีความเชี่ยวชาญด้านแรงงาน อีกด้วย
หลังจากที่หน่วยงานภาครัฐได้มอบหมายผู้แทนเข้ามาในเดือนตุลาคม 2557 คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้มีการประชุมอย่างต่อเนื่องโดยนำเอกสารผลการสอบสวนทางวินัยของปตท. จำนวน 5 แฟ้มใหญ่ ประมาณ 2,300 หน้า เป็นข้อมูลในการพิจารณา และโดยที่การดำเนินธุรกิจปาล์มน้ำมันของ PTTGE ไม่ใช่เป็นธุรกิจที่กรรมการสอบข้อเท็จจริง มีความชำนาญจึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลให้มีความเข้าใจและมีความรอบคอบ โดยมีการขอเอกสารเพิ่มเติมจากเอกสารสรุปผลการสอบสวนของ ปตท. เป็นระยะ รวมถึงการเชิญบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง และผู้ที่ถูกกล่าวหามาชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตามมาตรฐานที่เป็นธรรมของกระบวนการสอบสวน
คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของปตท.สผ. ได้ใช้เวลาประมาณ 7 เดือนตั้งแต่พฤศจิกายน 2557 ถึงเดือนพฤษภาคม 2558 จึงได้สรุปผลเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท และได้มีมติตั้งกรรมการวินัยในลำดับต่อไปตามขั้นตอนของระเบียบการบริหารทรัพยากรบุคคลของ ปตท.สผ. ทุกประการ
ตลอดช่วงระยะเวลาที่ ปตท.สผ. ดำเนินการสอบหาข้อเท็จจริงตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาทางวินัย ปตท.สผ. ได้โอนย้ายผู้ถูกกล่าวหามาประจำส่วนกลาง โดยไม่ได้มอบหมายงานที่มีลักษณะการบังคับบัญชาใดๆให้ผู้ถูกกล่าวหาเพื่อป้องกันการใช้อำนาจหรืออิทธิพลแทรกแซงการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและการสอบวินัย ซึ่งเป็นไปตามแนวปฎิบัติที่ดีทั้งของทางราชการและบริษัทมหาชน
ด้วยสถานะของการเป็นรัฐวิสาหกิจและเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ปตท.สผ. ตระหนักดีว่าบริษัทฯ มีหน้าที่รับผิดชอบให้การดำเนินงานทุกด้านเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับอย่างเคร่งครัดโดยให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี ความโปร่งใสและการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมกัน
ปตท.สผ. ขอยืนยันว่าคณะกรรมการบริษัทฯซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ได้พิจารณาและดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง และตรงไปตรงมาตามระเบียบของบริษัท โดยหากมีผลการสอบสวนของหน่วยงานภาครัฐเพิ่มเติม บริษัทจะนำมาประกอบการพิจารณา ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในกระบวนการสอบสวนของทั้ง ปตท.สผ.และภาครัฐโดยยังไม่มีข้อยุติ ปตท.สผ.จึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณะ เพื่อไม่ให้กระทบต่อตัวบุคคลและต่อการสอบสวนในด้านต่างๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น