ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - การเร่งสปีดธุรกิจนอนออยล์ของ ปตท. สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในธุรกิจน้ำมัน ล่าสุดจับมือกับ “เท็กซัสชิคเก้น” แฟรนไชส์ไก่ทอดยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาและเตรียมเปิดตัวร้านเบอร์เกอร์อิมพอร์ตเข้ามาเป็นแม็กเน็ตใหม่ พร้อมๆ กับการจัดกระบวนทัพค้าปลีกอย่างแข็งแกร่ง มีทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ ร้านสะดวกซื้อเซกเมนต์ใหม่ และรุกเข้าสู่ตลาดชอปปิ้งออนไลน์
ที่สำคัญยุทธศาสตร์ใหม่ไม่ใช่แค่พื้นที่สถานีบริการน้ำมัน แต่ขยายแนวรบ เพื่อเป็นยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอีกค่ายในประเทศไทย
ขณะที่คู่แข่ง ทั้ง “บางจาก” และ “เอสโซ่” ในฐานะเบอร์ 2 และ 3 ในตลาดน้ำมัน ต้องเร่งพลิกสถานการณ์การแข่งขัน เพื่อดิ้นรนรักษาส่วนแบ่งการตลาดและสร้างผลกำไรจากธุรกิจนอนออยล์เพิ่มขึ้นให้ได้มากที่สุด
ปัจจุบันตลาดค้าปลีกน้ำมัน ปตท.ยังยึดกุมส่วนแบ่งทางการตลาดมากสุด 38% ตามด้วย “บางจาก” ประมาณ 14-15% และเอสโซ่รั้งอันดับ 3 ด้วยตัวเลขส่วนแบ่งที่ไม่ห่างมากนัก
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากฯ ตั้งเป้าปรับโฉมธุรกิจนอนออยล์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มยอดขายให้สถานีบริการน้ำมันบางจากไม่ต่ำกว่า 10% และนำสถานีบริการน้ำมันบางจากขึ้นเป็น The Most Admired Service Station ภายในปี 2563
ล่าสุด บางจากเปิดตัวร้านเลมอนคิทเช่น (Lemon Kitchen) ภายใต้คอนเซ็ปต์การปรุงอาหารสดๆ จานต่อจาน เช่น เมนูยำต่างๆ ข้าวผัดกระเพรา ต้มยำกุ้ง ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว สปาเกตตีคาโบนาร่า และผักโขมอบชีส โดยมีมุม “Grab & Go” สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อกลับบ้านหรือรับประทานระหว่างเดินทาง
ขณะเดียวกัน พัฒนารูปแบบร้านกาแฟอินทนิล รองรับไลฟ์สไตล์การใช้ร้านกาแฟเป็นสถานที่ผ่อนคลายของคนรุ่นใหม่คนเมือง ใช้ชื่อว่า “อินทนิล การ์เด้น (Inthanin Garden)” เน้นบรรยากาศร้านภายใต้โทนสี Black & White เพื่อยกระดับความเป็นพรีเมียม ทั้งตัวกาแฟสูตร Pure Organic Arabica 100% ปลูกด้วยกระบวนการทางอินทรีย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บรรจุเครื่องดื่มในแก้วชีวภาพ (Bio Cup) ผลิตจากพืช 100% ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
ภายในร้านมีโซนบริการชาร์จแบตเตอรี่ฟรีด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ “Solar Charger” รวมทั้งขยายพื้นที่ร้านและเพิ่มมุมสวนสีเขียว
ทั้งนี้ ตามแผนการลงทุนธุรกิจนอนออยล์ของบางจาก จะขยายสาขาร้านอินทนิล คอฟฟี่ เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 400 แห่งในปีหน้า จากปัจจุบันที่มีสาขารวม 347 แห่ง ร้านอินทนิล การ์เด้น เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 70 แห่ง จากที่มีอยู่ 30 แห่ง
ร้านเลมอนคิทเช่น จะเปิดให้บริการ 9 แห่งในปีนี้ หลังจากนำร่อง 1 แห่งที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก บายพาส-ชลบุรี กม.1 และจะเปิดแห่งที่ 2 ที่สถานีบริการน้ำมันชะอำปาร์ค ในเร็วๆนี้ โดยการขยายสาขาร้านต่างๆ จะเปิดให้บริการทั้งภายในปั๊มบางจากและอาคารสำนักงานขนาดใหญ่
สำหรับร้านสะดวกซื้อ มินิ บิ๊กซี เปิดให้บริการจำนวน 109 แห่ง จะขยายเพิ่มไม่ต่ำกว่า 160 แห่งในปีหน้า
ด้านค่ายเอสโซ่ ซึ่งปีนี้ประกาศเป้าหมายชัดเจนจะโค่นคู่แข่งเบอร์ 2 หลังจากสูญเสียตำแหน่งมานานหลายปี โดยปีที่ผ่านมาทยอยปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ทั่วประเทศมากกว่า 500 แห่ง ภายใต้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท และปี 2558 เร่งขยายปั๊มรูปโฉมใหม่เพิ่มอีก 30 แห่ง
ภายในปั๊มเอสโซ่แห่งใหม่จะเพิ่มพันธมิตร โดยเฉพาะร้านสะดวกซื้อ “เทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส” และฟาสต์ฟู้ด “เบอร์เกอร์คิง” ซึ่งถือเป็นแม็กเน็ตใหม่
มงคลนิมิต เอื้อเชิดกุล กรรมการ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทนำร่องเพิ่มร้านเบอร์เกอร์คิงในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ สาขารามอินทรา กม.6 เพิ่มเติมนอกเหนือจากเทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรสและร้านกาแฟดิโอโร่ ซึ่งผลตอบรับดีมาก ยอดลูกค้าเข้าปั๊มเพิ่มสูงมากแบบก้าวกระโดด ดังนั้น ปีนี้จะเร่งเจรจาขยายร้านเบอร์เกอร์คิงในปั๊มอีก รวมทั้งเทสโก้โลตัส โดยเน้นพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ เป็นหลัก
นอกจากนี้ กำลังพิจารณาการลงทุนธุรกิจของพันธมิตร ซึ่งยังมีทั้งฟาสต์ฟู้ดเคเอฟซี แมคโดนัลด์ ร้านสะดวกซื้อลอว์สัน ร้านแฟมิลี่มาร์ท ร้านกาแฟ ดิโอโร่ และร้านกาแฟชาวดอย ทั้งปั๊มที่ปรับโฉมใหม่และและปั๊มสาขาใหม่ ซึ่งต้องดูปัจจัยเรื่องทำเลและลักษณะกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่
ส่วนเจ้าตลาดอย่าง ปตท. ต้องถือว่าใช้เวลาพิสูจน์ผลลัพธ์และความคุ้มค่าจากการทุ่มเม็ดเงินกว่าหมื่นล้านฮุบกิจการค้าปลีกน้ำมัน “JET” และร้านสะดวกซื้อแบรนด์ “Jiffy” ในประเทศไทย จากบริษัท ConocoPhillips ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2550 โดยจัดตั้งบริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด หรือ PTTRM เป็นผู้บริหารแยกออกจากปั๊ม ปตท. ของบริษัทแม่ รวมถึงบุกขยายธุรกิจกลุ่มนอนออยล์ต่อยอดจากแบรนด์ “จิฟฟี่”
เพราะกว่า 8 ปี การกำหนดยุทธศาสตร์รุกธุรกิจนอนออยล์อย่างจริงจัง สร้างผลกำไรเกือบครึ่งหนึ่งของธุรกิจน้ำมันทั้งหมด แม้วัดมูลค่ายอดขายห่างกันหลายเท่าก็ตาม
ล่าสุด PTTRM บริหารธุรกิจปั๊ม ปตท. Jiffy 150 แห่ง และธุรกิจนอนออยล์อีก 4 กลุ่มหลัก แยกเป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ได้แก่ คอมมูนิตี้มอลล์ “เดอะคริสตัล พีทีที” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับบริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด ร้านสะดวกซื้อ “จิฟฟี่ (Jiffy)” จิฟฟี่ พลัส ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้าน JOY Cafe Convenience ธุรกิจชอปปิ้งออนไลน์ CLICK2JOY และศูนย์กระจายสินค้ารองรับธุรกิจค้าปลีก
กลุ่มที่ 2 ร้านอาหารจิฟฟี่ คิทเช่น ร้านกาแฟ Cafe'Amazon ซึ่ง PTTRM ถือเป็นแฟรนไชซีของบริษัทแม่ ดูแลร้านสาขาในปั๊ม ปตท. จิฟฟี่ และร้านชานมไข่มุกจากไต้หวัน “Pearly Tea”
กลุ่มที่ 3 โรงงานผลิตน้ำดื่มใน จ.ปทุมธานี และกลุ่มที่ 4 ศูนย์บริการยานยนต์ภายใต้แบรนด์ PTT FIT Auto
ในเวลาเดียวกัน บริษัทแม่ ปตท. ดูแลธุรกิจร้านกาแฟ คาเฟ่อเมซอน และวางแผนขยายเครือข่ายร้านอาหารอีก ไม่ต่ำกว่า 3-4 แบรนด์ อย่างการนำเข้า “เท็กซัสชิคเก้น” เข้ามาเปิดให้บริการในไทย และตามแผน 5 ปี ตั้งเป้าขยายร้านคาเฟ่อเมซอนเพิ่มเป็น 2,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงสาขาในประเทศเพื่อนบ้าน ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน เพื่อปลุกปั้นให้เป็นแบรนด์ระดับเอเชีย
สงครามนอนออยล์กำลังขยายแนวรบไม่หยุด ที่สำคัญมูลค่าเม็ดเงินกำลังเติบโตก้าวกระโดดพุ่งขึ้นหลายเท่าด้วย