xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ไทย-เวียดนาม ประชุมครม.ร่วม ครั้งที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เมื่อวันที่ 23กรกฎาคม 2558 นายเหวียน เติ๊น สุง (Nguyen Tan Dung)นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และภริยา พร้อมคณะรัฐมนตรีส่วนหนึ่ง ได้เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 3 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมระหว่างไทย-เวียดนาม ได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก ในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 20กุมภาพันธ์ 2547 โดยฝ่ายเวียดนามเป็นเจ้าภาพ และ ครั้งที่ 2 ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2555 ที่กรุงฮานอย

สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 3 นี้ ได้มีการหารือในหลายมิติ หลายประเด็น อาทิ

ด้านการเมือง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ กำหนดให้จัดตั้งกลไกเพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และยกระดับความร่วมมือในการปราบปราม และป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ และการค้ามนุษย์

ด้านเศรษฐกิจ เห็นพ้องที่จะเพิ่มเป้าหมายมูลค่าการค้าระหว่างกันจาก 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2563 โดยเร่งขจัดอุปสรรคทางการค้า ส่งเสริมการใช้เงินสกุลบาท และเงินด่อง ในการประกอบธุรกรรมทางการเงิน จัดตั้งกลไกหารืออย่างไม่เป็นทางการเรื่องการคุ้มครองและส่งเสริมการลงทุน และส่งเสริมการเปิดสาขาของธนาคารพาณิชย์ ระหว่างกัน

ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำถึงความร่วมมือด้านการเกษตร ได้แก่ การควบคุมความปลอดภัย และคุณภาพผลิตผลทางการประมง และการพัฒนามาตรฐานและคุณภาพผลไม้ รวมทั้งเห็นพ้องที่จะเร่งรัดการพัฒนาความเชื่อมโยงทั้งทางบก ทะเล และอากาศ เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกัน

โดยให้มีการเร่งรัดการเปิดการเดินรถโดยสารประจำทางระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย กับเวียดนาม พัฒนาการเดินเรือชายฝั่งระหว่างภาคตะวันออกของไทย กัมพูชา และตอนใต้ของเวียดนาม และเพิ่มความถี่ของเที่ยวบิน และเที่ยวบินตรงระหว่างจุดหมายปลายทางใหม่ของสองประเทศต่อไป

นอกจากนี้ ไทยได้เชิญเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกสภาความร่วมมือด้านยางพาราระหว่างประเทศ ซึ่งไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นสมาชิกแล้ว เพื่อร่วมมือรักษาเสถียรภาพราคายางพาราในตลาดโลกด้วย

ด้านสังคมและวัฒนธรรม สองฝ่ายต่างสนับสนุนการเปิดภาควิชาการเรียนการสอนภาษาของกันและกัน รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์ไทยศึกษาในเวียดนามและศูนย์เวียดนามศึกษาในไทย นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีไทยและเวียดนาม ยังพร้อมให้การสนับสนุนการทำงานของสมาคมมิตรภาพของทั้งสองประเทศที่เป็นกลไกขับเคลื่อนความร่วมมือให้ก้าวหน้าและเชื่อมสายสัมพันธ์และมิตรภาพของประชาชนทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีไทย และเวียดนาม ยังร่วมกันเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลง 5 ฉบับ ซึ่งเป็นรูปธรรมที่สำคัญของการเยือนของนายกรัฐมนตรีเวียดนามครั้งนี้ ได้แก่

1.ร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย–เวียดนาม ครั้งที่ 3

2. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านวิชาการ และการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน

3. บันทึกข้อตกลงด้านการจ้างแรงงาน เพื่อส่งเสริมให้ชาวเวียดนามเข้ามาทำงานในไทย ตามช่องทางที่ถูกต้องทางกฎหมาย และให้ได้รับสิทธิการดูแลคุ้มครองภายใต้กฎหมายของไทย

4. บันทึกความเข้าใจเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์เมืองคู่มิตร ระหว่าง จ.อุบลราชธานี กับจ.คอนตูม ของเวียดนาม

5.บันทึกความเข้าใจเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์เมืองคู่มิตรระหว่าง จ.ตราด กับจ.ลองอาน ของเวียดนาม

ทั้งนี้ เวียดนาม เป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในอาเซียน ขณะที่ไทยเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามในอาเซียน โดยในปี 2557 มีอัตราการขยายตัวทางการค้าร้อยละ 13 นอกจากนี้ ซึ่งในปีนั้น ไทยลงทุน ในเวียดนาม เป็นอันดับที่ 10 ของการลงทุนจากต่างประเทศ โดยไทยกำลังผลักดันการลงทุนโครงการลงทุน ขนาดใหญ่หลายโครงการในเวียดนาม และหากสำเร็จจะทำให้ไทยเป็นประเทศผู้ลงทุนลำดับต้นๆ ของเวียดนามในอนาคต

ส่วนนักท่องเที่ยวไทยไปเวียดนาม จัดอยู่ในอันดับที่ 9 ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และอันดับ 4 ของกลุ่มประเทศอาเซียน

ในปีหน้า การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–เวียดนาม จะครบรอบ 40 ปี การเยือนครั้งนี้ จึงถือเป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยาวนานของทั้งสองประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทย และเวียดนาม เห็นพ้องให้มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองโอกาสดังกล่าว ตลอดทั้งปี 2559



กำลังโหลดความคิดเห็น