xs
xsm
sm
md
lg

พลังงานจ่อตั้งเวทีถกโรงไฟฟ้า รัฐลดแรงต้าน “บิ๊กตู่” ยอมรับข้อเสนอ-แกนนำเลิกประท้วง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-"พลังงาน"ลดแรงต้าน จ่อตั้งเวทีรับฟังความเห็นโรงไฟฟ้าถ่านกระบี่ที่ภาคใต้อีก บ่นทำมาแล้ว 6 ครั้ง จะให้ทำอีกก็ได้ โต้ไม่มีใครใช้พลังงานทดแทนได้จริง 100% แม้แต่เดนมาร์กและเยอรมัน กฟผ.ขู่สร้างไม่ได้ ปี 62 ภาคใต้เสี่ยง "อุดมเดช" ปฏิเสธส่งทหารข่มขู่ แค่ไปเยี่ยม "บิ๊กตู่"รับข้อเสนอเครือข่ายปกป้องอันดามัน ตั้งกรรมการร่วมศึกษาเรื่องพลังงานทดแทน นัดหารือวันนี้ แกนนำประกาศเลิกประท้วง

นายคุรุจิต นาครทรรพ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานเร่งทำความเข้าใจโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ และหากพูดคุยกันไม่รู้เรื่องจะหาคนกลางมาพูด ว่า กระทรวงพลังงานพร้อมที่จะดำเนินการ หากนายกฯ มีคำสั่งลงมา โดยเฉพาะการตั้งเวทีรับฟังความคิดเห็นในภาคใต้อีกครั้ง แม้ว่าที่ผ่านมา จะมีการเปิดรังฟังความคิดเห็น เพื่อการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ไปแล้ว 6 รอบก็ตาม

"คนที่ทำตามกติกา และอยู่ในกรอบกฏหมายที่กำหนด จู่ๆ จะยกพวกมาอ้างเป็นผู้แทนคนกระบี่ คงไม่ใช่ การเปิดรับฟังความเห็น ก็ต้องเคารพกฏหมาย ขอร้องคนที่อยู่นอกพื้นที่ควรรับฟังความเห็นของคนในพื้นที่เขาบ้าง และที่ผ่านมา ข้อกังวลต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็รับฟังและนำไปปรับปรุงทุกอย่าง จะจัดเวทีรับฟังความเห็นอีกก็ทำได้ แต่ถ้าไม่ฟัง แล้วจะให้ยกเลิกอย่างเดียวเลย ก็ควรจะพิสูจน์ก่อนว่าได้ทำอะไรให้เกิดความเสียหายแล้ว"นายคุรุจิตกล่าว

***ผุดโรงไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงไฟฟ้าใต้

นายครุจิตกล่าวว่า กระทรวงพลังงานทำตามหน้าที่ในการจัดหาแหล่งผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอกับความต้องการและก็ทำตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าหรือ PDP โดยที่ผ่านมา มีการเปิดรับฟังความเห็นมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ครั้งทั่วประเทศ ซึ่งสรุปตรงกันว่าต้องการกระจายความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงที่ขณะนี้ไทยพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติมากเกินไป จึงมีการเพิ่มสัดส่วนการใช้ถ่านหินในพลังงานหลัก (Base Load) และเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน โดยเฉพาะการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นการดำเนินการ เพื่อสร้างความมั่นคงไฟฟ้าภาคใต้โดยเฉพาะ เนื่องจากปัจจุบันกำลังการผลิตไฟของภาคใต้ไม่เพียงพอ ต้องส่งไปจากภาคกลางประมาณ 500-700 เมกะวัตต์

อย่างไรก็ตาม กระบวนการดำเนินการ ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชน โดยโรงไฟฟ้ากระบี่ มีการเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่สุด เป็นหม้อไอน้ำเผาไหม้ถ่านหินบดละเอียด (Ultra Critical Steam) ที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลดลงเหลือเพียง 2 เท่าของโรงไฟฟ้าก๊าซฯ จากเดิมที่เคยปล่อย 8 เท่า ท่าเทียบเรือคลองรั้วก็จัดทำ EHIA ซึ่งปกติไม่ต้องดำเนินการจัดทำรายงานผลกระทบสุขภาพ มีการทำอุโมงค์ขนถ่านหิน และกำหนดขนถ่านหินเพียงวันละ 2 ลำ และยังเป็นระบบปิดซึ่งเหล่านี้ก็ปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่

"คนคัดค้านที่ระบุว่าอันดามันจะเป็นทะเลสีดำนั้น ก็พูดเกินจริง เพราะทุกวันนี้ ท่าเรือก็ของเดิมที่ขนน้ำมันให้โรงไฟฟ้ากระบี่ และไม่ไกลออกไป เรือขนน้ำมันก็วิ่งกันนับ 100 เที่ยวต่อวัน ถ้าพวกนี้มีปัญหา จะยิ่งกว่าด้วยซ้ำ และที่ผ่านมา กลุ่มคัดค้านตอนประชาพิจารณ์ PDP ต่างก็เสนอการผลิตไฟอย่างมีประสิทธิภาพและดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการให้แหล่งผลิตไฟฟ้าอยู่ใกล้คนใช้ ซึ่งกระทรวงฯ ก็ดำเนินการ เพื่อคนภาคใต้ไม่ใช่คนภาคกลางแต่อย่างใดเลย"นายคุรุจิตกล่าว

***โต้เดนมาร์ก-เยอรมันยังใช้ถ่านหิน

นายคุรุจิตกล่าวว่า กรณีที่มีผู้ระบุว่าประเทศเดนมาร์กใช้พลังงานทดแทนได้ทั้งหมดนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะสุดท้ายหากไปดูข้อเท็จจริง พลังงานหลักก็ยังคงเป็นโรงไฟฟ้าจากถ่านหินเช่นเดียวกับเยอรมัน ที่แม้จะมีพลังงานลมจำนวนมาก แต่เมื่อลมมีปัญหาจะต้องใช้พลังงานจากถ่านหินและซื้อไฟนิวเคลียร์จากฝรั่งเศส ซึ่งพิสูจน์ว่าที่สุดพลังงานหลักยังคงมีความจำเป็นเพราะเดินเครื่องได้ตลอด ส่วนของไทย ก็ต้องพึ่งพลังงานหลักจากก๊าซฯ และถ่านหิน พลังงานทดแทนภาคใต้ แม้จะสนับสนุนเต็มที่ ขณะนี้เป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลและชีวภาพผลิตไฟได้เพียง 38 เมกะวัตต์ และเป็นพลังงานแบบไม่สามารถจ่ายไฟได้สม่ำเสมอหรือ Non Firm จึงเป็นพลังงานที่พึ่งเป็นหลักไม่ได้

"เวลาไฟดับ ภาคใต้ก็มีตัวอย่างกระทบท่องเที่ยวมาแล้ว เราก็มีหน้าที่จัดหาให้พอใช้ พอมีปัญหาก็จะมากล่าวหากันอีกว่าทำไมไม่หาให้เพียงพอ เราต้องพูดด้วยเหตุ กฟผ. เปิดประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าโดยมีเงื่อนไข 1 ปี เพื่อที่จะดูเทคโนโลยีให้สอดรับกับ EHIA และไม่ได้มีข้อผูกพันอะไรตามที่ถูกกล่าวหาเพราะถ้า EHIA ผ่านก็จะได้เดินหน้าไปพร้อมกัน"นายคุรุจิตกล่าว

***หนุนพลังงานทดแทนมากค่าไฟพุ่ง

นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่า กฟผ. กล่าวว่า ยินดีรับข้อเสนอแนะเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานโครงการ เนื่องจากการผลิตพลังงานทุกชนิดย่อมมีทั้งข้อดีและข้อจำกัด แต่เทคโนโลยีทันสมัยและระบบจัดการตามมาตรฐานสากล สามารถควบคุมมลภาวะได้ดีกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดหลายเท่าตัว ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ และชุมชน สามารถตรวจสอบได้ตลอดระยะเวลาของการดำเนินงาน

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ มีความจำเป็นในการเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าหลัก เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป กำลังผลิตไฟฟ้าที่พึ่งได้ในพื้นที่ภาคใต้จะไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า หากไม่มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ จะทำให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า

นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการควบคุมมลภาวะ และยังมีต้นทุนเชื้อเพลิงต่ำเพียง 2.70บาท ต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมของประเทศในระยะยาวไม่สูงเกินไป

ส่วนข้อเสนอที่ให้มีการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนร้อยเปอร์เซนต์นั้น กฟผ. มีแผนระยะสั้นและระยะยาวในการสนับสนุน โดยเตรียมพัฒนาระบบส่งรองรับทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จเพื่อให้สอดคล้องกับแผนอนุรักษ์และพัฒนาพลังงานทดแทนของประเทศ รวมทั้งการรับซื้อน้ำมันปาล์มมาผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ เพื่อช่วยพยุงราคา

"เหตุผลสำคัญส่วนหนึ่ง คือ การพัฒนาพลังงานทดแทน จะไม่สามารถพัฒนาให้ทันกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้น เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก จะต้องพัฒนาพร้อมๆ กันจำนวนมาก โรงไฟฟ้าหลัก จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาควบคู่กันไป ซึ่งทุกประเทศที่สนับสนุนพลังงานทดแทน ก็จะต้องมีโรงไฟฟ้าหลักอย่างเพียงพอเช่นกัน แต่ประชาชนคงต้องยอมรับด้วยว่า จะมีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าเช่นกัน เช่นค่าไฟฟ้าของเยอรมนี หน่วยละ 12 บาท ซึ่งผลมาจากการอุดหนุนพลังงานทดแทน"

***ผบ.ทบ.ปัดทหารบุกขู่-แค่ไปเยี่ยม

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก กล่าวก่อนออกเดินทางไปเยือนสิงคโปร์ว่า กรณีที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารช่าง 401 ค่ายอภัยบริรักษ์ จ.พัทลุง จำนวน 5 นาย พร้อมอาวุธครบมือเดินทางไปข่มขู่มารดานายประสิทธิ์ชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินและครอบครัวถึงบ้านพักส่วนตัวในพื้นที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุงนั้น ในส่วนของทหารมีกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในทุกพื้นที่ และโดยปกติก็จะจัดเจ้าหน้าที่ลงไปเยี่ยมเยือนประชาชนทุกหมู่บ้าน เพื่อทำความเข้าใจ หากมีปัญหาใด เราก็จะรับข้อปัญหาและนำมาช่วยแก้ไข

ส่วนที่จะมีการนำมวลชนจากภาคใต้ขึ้นมาสมทบกับผู้ชุมนุมที่กรุงเทพฯ นั้น ทางทหารก็จะต้องพยายามทำความเข้าใจ

"ผมคิดว่าเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินในส่วนที่ดีก็มี เพราะเคยไปดูในบางพื้นที่มาแล้ว เห็นว่าสามารถทำโดยให้เกิดความสะอาดและไม่เกิดผลกระทบกับสภาพแวดล้อม ส่วนเรื่องความจำเป็นที่จะมีหรือไม่ ต้องขอให้คนในพื้นที่ใคร่ครวญให้ดี และนำผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง รัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เคยชี้แจงให้ทราบว่าเรามีความจำเป็นเรื่องไฟฟ้า สิ่งต่างๆ ทุกฝ่ายจะต้องนำเหตุผลและประโยชน์เป็นที่ตั้ง ถ้าสิ่งเหล่านี้ เราพิจารณาด้วยความรอบคอบถึงประโยชน์ของชาติว่าเป็นอย่างไร ก็ต้องดำเนินการตามนั้น เพราะฉะนั้นใครที่ยังมีความคิดเห็นต่างๆ ก็ขอความกรุณาว่าอย่าเพิ่งเคลื่อนไหวใดๆ เพราะเราจะต้องศึกษาและยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก"พล.อ.อุดมเดชกล่าว

***หวั่นการเมืองฉวยโอกาสโหนกระแส

ถามว่าจะมีการทำประชาสัมพันธ์เรื่องดังกล่าวให้ประชาชนเข้าใจมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ที่ผ่านมา ทราบว่าทางกระทรวงพลังงานได้ทำการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ทั้งข้อดีและข้อเสียมาโดยตลอด ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารเพื่อรับทราบแนวคิดต่างๆ เพื่อให้ไม่เกิดปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่ากลุ่มการเมืองจะใช้โอกาสนี้เกาะกระแสจากประชาชนหรือไม่ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ก็เกรงอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่เราก็ต้องระวังสิ่งที่ประชาชนไม่พึงพอใจ ขอให้ทุกอย่างเป็นความบริสุทธิ์ใจโดยแท้จริง ตนคิดว่านายกฯ รับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องความคิดเห็นที่เป็นห่วงประเทศชาติด้วยความบริสุทธิ์ใจ ขอให้ทุกคนช่วยกัน ส่วนใครที่จะมาเกาะกระแสอาศัยสิ่งเหล่านี้ให้เกิดเป็นกลุ่มม็อบก็ไม่เหมาะสมและไม่สมควร ตนขอร้องว่าอย่าให้เป็นเช่นนั้น

***นายกฯส่งที่ปรึกษาเบรกเคลื่อนไหว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของกลุ่มเครือข่ายปกป้องอันดามัน พร้อมชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ กว่า 150 คน ยังคงปักหลักค้างแรมที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร เป็นวันที่ 4 เพื่อรอฟังคำตอบจากฝั่งรัฐบาล ในข้อเรียกร้องให้ทางกลุ่มได้ออกเรียกร้องให้รัฐบาลไปก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน มีข่าวว่าจะมีประชาชนจากภาคใต้ รวมทั้งนักวิชาการเดินทางมาร่วมสมทบให้กำลังการอดอาหารด้วยวิธีอารยะขัดขืนด้วย

จากนั้น กลุ่มเครือข่ายฯ มีกำหนดนัดแสดงพลังคล้องแขนล้อมทำเนียบรัฐบาลค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ เพื่อยืนยันเจตนารมณ์เดิมตามข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี แต่ พล.อ.จีระศักดิ์ ชมประสพ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) เป็นตัวแทนรัฐบาล เข้ามาประสานเครือข่าย ขอให้งดการทำกิจกรรมดังกล่าวไปก่อน เนื่องจากวันนี้มีการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี 2 ประเทศ ระหว่างไทย-เวียดนาม ที่ทำเนียบรัฐบาล และเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ ขอให้จัดกิจกรรมภายในวัดโสมนัสราชวรวิหารแทน

พร้อมแจ้งว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอรับข้อเรียกร้องของเครือข่าย 3 ข้อ ที่ต้องการให้ยกเลิกรายงาน EIA และ EHIA ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเรือถ่านหิน เลื่อนการประมูลการก่อสร้างโรงไฟฟ้าออกไปอย่างไม่มีกำหนด และจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาข้อเสนอเรื่องพลังงานหมุนเวียนจากน้ำมันปาล์มที่ทางกระบี่ขอเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าใช้เองก่อนในพื้นที่ภายใน 3 ปี ไปพิจารณา และจะให้คำตอบต่อไป

***“บิ๊กตู่” เลี่ยงม็อบชิ่งออกประตู 5

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.45น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยเลี่ยงใช้เส้นทางปกติที่เคยออก ทางประตู 2 ผ่านสะพานชมัยมรุเชษฐ เปลี่ยนไปออกทางประตู 5 ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ มุ่งหน้าสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินใน เพื่อเลี่ยงกลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ที่เคลื่อนไหวมาประชิดรั้วหน้าทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก

ทั้งนี้ โดยปกติ เมื่อนายกฯ จะเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ขบวนรถจะมาจอดรอ ที่หน้าทางเข้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยใช้เวลาระยะหนึ่ง จึงจะลงมาขึ้นรถ แต่วันนี้ นายกฯ ได้มายืนรอ เพื่อขึ้นรถออกไปทันที ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด

*** เลิกอดข้าวประท้วงหลังรัฐรับเงื่อนไข

เมื่อเวลา 19.05 น. นายประสิทธชัย หนูนวล แกนนำ ได้ชี้แจงกับมวลชนที่นั่งชุมนุมอยู่บริเวณรั้วทำเนียบรัฐบาลว่า ได้รับการประสานจากที่ปรึกษานายกฯ ว่า รัฐบาลรับข้อเสนอข้อที่ 3 ของทางเครือข่ายฯ ในการตั้งกรรมการร่วมเพื่อศึกษาเรื่องพลังงานทดแทน ซึ่งส่งผลให้ข้อเสนอข้อที่ 1 และ 2 ในการขอให้ยกเลิกรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และยกเลิกการประมูลโรงไฟฟ้า จ.กระบี่นั้น ถูกชะลอไปด้วย ซึ่งตนได้แจ้งที่ปรึกษานายกฯ ว่า ขอเอกสารยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นหลักฐาน โดยจะมีการจัดทำและนำส่งให้เครือข่ายฯ ในวันที่ 24 ก.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังจากที่ นายประสิทธชัย ชี้แจงกับมวลชน ทำให้มวลชนพอใจในการตอบรับของรัฐบาล และได้แยกย้ายเพื่อเดินทางกลับ โดยบางส่วนจะไปรอเอกสารอย่างเป็นทางการจากทางรัฐบาลที่ศาลากลาง จ.กระบี่ ในวันที่ 24 ก.ค.

ขณะที่นายประสิทธชัย และนายอัครเดช ฉากจินดา แกนนำเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ซึ่งอดอาหารประท้วงมาตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.นั้น ได้ประกาศยุติการอดอาหารประท้วง เนื่องจากพอใจในท่าทีของรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ก.ค.) ตัวแทนเครือข่ายฯ จะประชุมร่วมกับ กฟผ. และกระทรวงพลังงาน ที่สำนักงาน กพร.
กำลังโหลดความคิดเห็น