ASTVผู้จัดการรายวัน-ผบ.ตร.ฉุนสื่อกล่าวหากระดี๊กระด๊า ยินดี “คำรณวิทย์” ได้กลับบ้าน ย้อนถามจะให้สมน้ำหน้าหรืออย่างไร วอนอย่าคับแคบ ห่วงใยกันมันผิดตรงไหน "ประวิตร"จี้คมนาคม การท่าฯ ตม. จัดการให้ถูกต้องตามกฎหมาย อัยการสูงสุดพร้อมประสานขอข้อมูลคำให้การจากญี่ปุ่น ด้าน "อำนวย" แถลงการณ์สอบคดีตามข้อเท็จจริง ไม่ใส่ความ ล้างแค้น หรือล้มมวย
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น.เดินทางกลับถึงประเทศไทยว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ในการเข้ามาให้รายละเอียดในเรื่องดังกล่าว แต่อยากฝากไปถึงสื่อบางฉบับว่าสิ่งที่ตนพูดไปก่อนหน้านี้ว่าขอแสดงความยินดีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เดินทางกลับมาประเทศไทยนั้น ตนพูดไปในฐานะคนไทยที่รู้สึกยินดีกับท่าน แต่อาจจะมีคนอื่นมองในทางกลับกัน มองว่าตนแสดงออกหรือยินดีปรีดากับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์อย่างออกหน้าออกตาเหมือนกับเป็นพวกเดียวกัน อยากบอกว่าตนเป็นคนไทยเหมือนกับท่าน จึงแสดงความห่วงใยในฐานะคนไทยคนหนึ่งเท่านั้น
“ผมเป็นห่วงเป็นใยในฐานะที่ท่านเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการที่คนไทยจะห่วงใยกันมันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ถ้าผมแสดงออกซึ่งอาการเยาะเย้ยหรือเย้ยหยัน สังคมก็จะประณามผม แต่ถ้าผมแสดงออกด้วยความห่วงใย ผมก็ไม่ทราบว่ามันจะมีอะไรที่ดีกว่านี้ เพราะฉะนั้นสื่อบางฉบับที่นำเสนอว่าผมกระดี๊กระด๊าหรือออกหน้าออกตากรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้รับการปล่อยตัวจากพนักงานอัยการญี่ปุ่นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะผมอยู่ในฐานะนักกฎหมายหรือผู้รักษากฎหมายไม่ควรจะกระทำนั้่น ผมอยากจะย้อนถามว่าผมมีสิ่งใดหรือมีอะไรที่ควรจะทำมากกว่านี้ หรือจะให้ผมบอกว่าสมน้ำหน้า คำรณวิทย์ มึงโง่ มึงเซ่อ อย่างนั้นหรือ ขอฝากไปถึงสื่อที่เขียนถึงผมในเรื่องนี้ด้วย อย่าคับแคบ อย่ามีจิตใจอคติ คนไทยด้วยกันไม่ว่าชาติไหนภาษาไหนต้องห่วงใยกัน เขาไปตกทุกข์ได้ยาก ผมแสดงความห่วงใย ผมผิดตรงไหน ผมไม่ต้องบอกนะครับว่าสื่อฉบับไหนที่เขียน อย่าอคติอย่าคับแคบนักเลย เขียนด่าผมมาตลอด เพราะผมไม่ทำตามใจคุณใช่มั้ย ผมไม่เต้นตามคุณใช่มั้ย ผมบอกเลยว่าผมเต้นไม่เป็น ยิ่งขอให้ผมทำอย่างนั้นอย่างนี้ ผมยิ่งไม่ทำตามใจคุณ จำไว้ด้วย” ผบ.ตร.กล่าวอย่างมีอารมณ์
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงนโยบายในการปรับปรุงมาตรการ ตรวจค้นอาวุธในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังเกิดกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถูกจับกุมที่สนามบินประเทศญี่ปุ่น เพราะตรวจพบอาวุธปืน ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ดูแลอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ต้องดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่า เครื่องมือในการตรวจจับอาวุธหรือสิ่งผิดปกตินั้น มีความเสียหายหรือไม่ เพราะฝ่ายบริหารได้สั่งการไปแล้วว่าให้ทำไปตามกฎหมาย สิ่งใดที่ยังทำไม่ถูกกฎหมายก็ต้องทำให้ถูกกฎหมาย
ขณะที่นายวันชัย รุจนวงศ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และอธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุด ยังไม่ได้รับการประสานใดๆ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หากได้รับหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่จะประสานขอข้อมูลคำให้การ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จากประเทศญี่ปุ่น ก็พร้อมที่จะดำเนินการให้ ส่วนจะได้รับข้อมูลจากทางการญี่ปุ่นเมื่อใด ขึ้นอยู่กับการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ออกแถลงการณ์ถึงข้าราชการในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า บิ๊กแจ๊ด หรือพี่แจ๊ด หรือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต เอราวัณ 1 นรต. 30 ส่วน บิ๊กนวย หรือ นวยนิ่ม (ตามที่สื่อเรียก) เป็นเอราวัณ 1 ปัจจุบัน และเป็น นรต. 31 บิ๊กแจ๊ด โตมาจากสายบู๊ ส่วน "นวยนิ่ม" โตมาจากสายบุ๋น อบรมหลักสูตร ผกก.รุ่นเดียวกัน ขึ้นนายพลพร้อมๆ กัน เคารพรักกันฉันพี่น้องเป็นอย่างดี ชัดเจน ไม่เคลือบแคลงระแวงสงสัย การวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค มีทั้งทำนองว่า "นวยนิ่ม" ได้โอกาสเอาคืนบ้าง ล้างแค้นบ้าง ตำรวจไทยก็แค่นี้เดี๋ยวก็เงียบบ้าง ยิ่งเป็นตำรวจใหญ่ มีบารมี เป็นพี่เป็นน้องกันสอบไปเสียเวลา เปลืองงบประมาณเปล่าๆ บ้าง
เอราวัณ 1 ขอทำความเข้าใจไว้ตรงนี้ว่า เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่มีอยู่แล้ว มีอยู่จริง พนักงานสอบสวน มีหน้าที่เพียงรวบรวมข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ครบถ้วนเท่านั้น ไม่สามารถใส่ความ (ล้างแค้น) หรือล้มมวย (เอาข้อเท็จจริงออก) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คดีนี้มีความพิเศษเพราะเป็นคดีที่กระบวนการยุติธรรมสองประเทศ (ไทย-ญี่ปุ่น) ถ่วงดุลกันอยู่ ประชาชน และสื่อมวลชนให้ความสนใจอย่างมาก คงมีการตรวจสอบของภาคเอกชนติดตามอย่างใกล้ชิด และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิญญานของพนักงานสอบสวน คนในกระบวนการยุติธรรม ต้องตัดเอาความโลภ โกรธ หลง ออกจากความรู้สึกในการทำงาน ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ แต่ต้องให้เกียรติให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ต้องหา อย่างเต็มที่
เอราวัณ 1 ลงเรื่องนี้มาเพื่อให้พนักงานสอบสวนใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและทำความเข้าใจกับพวกเราทุกคน เพราะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เคยเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของ ภ.1 ที่หลายคนให้ความเคารพ
มีรายงานด้วยว่า พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กำลังรอเอกสาร และสำนวนจากประเทศญี่ปุ่น และหากสำนวนมาถึงจะเชิญ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ มาสอบสวนทันที เบื้องต้น มีรายงานว่าน่าจะภายในวันศุกร์ที่ 17 ก.ค. นี้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าอาวุธปืนดังกล่าวเล็ดรอดนำขึ้นเครื่องบินออกจากประเทศไทยได้อย่างไร และเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดหรือไม่
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น.เดินทางกลับถึงประเทศไทยว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ในการเข้ามาให้รายละเอียดในเรื่องดังกล่าว แต่อยากฝากไปถึงสื่อบางฉบับว่าสิ่งที่ตนพูดไปก่อนหน้านี้ว่าขอแสดงความยินดีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์เดินทางกลับมาประเทศไทยนั้น ตนพูดไปในฐานะคนไทยที่รู้สึกยินดีกับท่าน แต่อาจจะมีคนอื่นมองในทางกลับกัน มองว่าตนแสดงออกหรือยินดีปรีดากับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์อย่างออกหน้าออกตาเหมือนกับเป็นพวกเดียวกัน อยากบอกว่าตนเป็นคนไทยเหมือนกับท่าน จึงแสดงความห่วงใยในฐานะคนไทยคนหนึ่งเท่านั้น
“ผมเป็นห่วงเป็นใยในฐานะที่ท่านเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการที่คนไทยจะห่วงใยกันมันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ถ้าผมแสดงออกซึ่งอาการเยาะเย้ยหรือเย้ยหยัน สังคมก็จะประณามผม แต่ถ้าผมแสดงออกด้วยความห่วงใย ผมก็ไม่ทราบว่ามันจะมีอะไรที่ดีกว่านี้ เพราะฉะนั้นสื่อบางฉบับที่นำเสนอว่าผมกระดี๊กระด๊าหรือออกหน้าออกตากรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้รับการปล่อยตัวจากพนักงานอัยการญี่ปุ่นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะผมอยู่ในฐานะนักกฎหมายหรือผู้รักษากฎหมายไม่ควรจะกระทำนั้่น ผมอยากจะย้อนถามว่าผมมีสิ่งใดหรือมีอะไรที่ควรจะทำมากกว่านี้ หรือจะให้ผมบอกว่าสมน้ำหน้า คำรณวิทย์ มึงโง่ มึงเซ่อ อย่างนั้นหรือ ขอฝากไปถึงสื่อที่เขียนถึงผมในเรื่องนี้ด้วย อย่าคับแคบ อย่ามีจิตใจอคติ คนไทยด้วยกันไม่ว่าชาติไหนภาษาไหนต้องห่วงใยกัน เขาไปตกทุกข์ได้ยาก ผมแสดงความห่วงใย ผมผิดตรงไหน ผมไม่ต้องบอกนะครับว่าสื่อฉบับไหนที่เขียน อย่าอคติอย่าคับแคบนักเลย เขียนด่าผมมาตลอด เพราะผมไม่ทำตามใจคุณใช่มั้ย ผมไม่เต้นตามคุณใช่มั้ย ผมบอกเลยว่าผมเต้นไม่เป็น ยิ่งขอให้ผมทำอย่างนั้นอย่างนี้ ผมยิ่งไม่ทำตามใจคุณ จำไว้ด้วย” ผบ.ตร.กล่าวอย่างมีอารมณ์
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงนโยบายในการปรับปรุงมาตรการ ตรวจค้นอาวุธในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังเกิดกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถูกจับกุมที่สนามบินประเทศญี่ปุ่น เพราะตรวจพบอาวุธปืน ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ดูแลอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ต้องดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่า เครื่องมือในการตรวจจับอาวุธหรือสิ่งผิดปกตินั้น มีความเสียหายหรือไม่ เพราะฝ่ายบริหารได้สั่งการไปแล้วว่าให้ทำไปตามกฎหมาย สิ่งใดที่ยังทำไม่ถูกกฎหมายก็ต้องทำให้ถูกกฎหมาย
ขณะที่นายวันชัย รุจนวงศ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และอธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุด ยังไม่ได้รับการประสานใดๆ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่หากได้รับหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่จะประสานขอข้อมูลคำให้การ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จากประเทศญี่ปุ่น ก็พร้อมที่จะดำเนินการให้ ส่วนจะได้รับข้อมูลจากทางการญี่ปุ่นเมื่อใด ขึ้นอยู่กับการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ออกแถลงการณ์ถึงข้าราชการในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า บิ๊กแจ๊ด หรือพี่แจ๊ด หรือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต เอราวัณ 1 นรต. 30 ส่วน บิ๊กนวย หรือ นวยนิ่ม (ตามที่สื่อเรียก) เป็นเอราวัณ 1 ปัจจุบัน และเป็น นรต. 31 บิ๊กแจ๊ด โตมาจากสายบู๊ ส่วน "นวยนิ่ม" โตมาจากสายบุ๋น อบรมหลักสูตร ผกก.รุ่นเดียวกัน ขึ้นนายพลพร้อมๆ กัน เคารพรักกันฉันพี่น้องเป็นอย่างดี ชัดเจน ไม่เคลือบแคลงระแวงสงสัย การวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค มีทั้งทำนองว่า "นวยนิ่ม" ได้โอกาสเอาคืนบ้าง ล้างแค้นบ้าง ตำรวจไทยก็แค่นี้เดี๋ยวก็เงียบบ้าง ยิ่งเป็นตำรวจใหญ่ มีบารมี เป็นพี่เป็นน้องกันสอบไปเสียเวลา เปลืองงบประมาณเปล่าๆ บ้าง
เอราวัณ 1 ขอทำความเข้าใจไว้ตรงนี้ว่า เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่มีอยู่แล้ว มีอยู่จริง พนักงานสอบสวน มีหน้าที่เพียงรวบรวมข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ครบถ้วนเท่านั้น ไม่สามารถใส่ความ (ล้างแค้น) หรือล้มมวย (เอาข้อเท็จจริงออก) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คดีนี้มีความพิเศษเพราะเป็นคดีที่กระบวนการยุติธรรมสองประเทศ (ไทย-ญี่ปุ่น) ถ่วงดุลกันอยู่ ประชาชน และสื่อมวลชนให้ความสนใจอย่างมาก คงมีการตรวจสอบของภาคเอกชนติดตามอย่างใกล้ชิด และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิญญานของพนักงานสอบสวน คนในกระบวนการยุติธรรม ต้องตัดเอาความโลภ โกรธ หลง ออกจากความรู้สึกในการทำงาน ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ แต่ต้องให้เกียรติให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ต้องหา อย่างเต็มที่
เอราวัณ 1 ลงเรื่องนี้มาเพื่อให้พนักงานสอบสวนใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและทำความเข้าใจกับพวกเราทุกคน เพราะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เคยเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของ ภ.1 ที่หลายคนให้ความเคารพ
มีรายงานด้วยว่า พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ กำลังรอเอกสาร และสำนวนจากประเทศญี่ปุ่น และหากสำนวนมาถึงจะเชิญ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ มาสอบสวนทันที เบื้องต้น มีรายงานว่าน่าจะภายในวันศุกร์ที่ 17 ก.ค. นี้ ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าอาวุธปืนดังกล่าวเล็ดรอดนำขึ้นเครื่องบินออกจากประเทศไทยได้อย่างไร และเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดหรือไม่