รมว.กลาโหมแจงยังไม่นำโครงการซื้อเรือดำน้ำเข้า ครม. ให้ ทร.ศึกษาชัดเจนก่อน ชี้หน้าที่คมนาคมตรวจเครื่องจับอาวุธสนามบิน คดี “คำรณวิทย์” ให้ ตร.-ทอท.จัดการ ยันรัฐบาลไม่ปล่อยปละยึดตามกฎหมาย เผยยังไม่ได้ทำโผทหาร ฉะระวังเขียนข่าวส่งเดชตั้งกันเองทำกองทัพป่วน ย้ำแก้ค้ามนุษย์เต็มที่ไม่ท้อถอยจะปลดเทียร์ 3 หรือไม่ เชื่อไม่โดนคว่ำบาตร สั่งเหล่าทัพช่วยภัยแล้งเกษตกร กำชับเรื่องใหญ่
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการเสนอโครงการจัดหาเรือดำน้ำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คงเอาไว้ก่อน ยังไม่เข้า ครม. และยังไม่ดำเนินการ โดยระหว่างนี้ทางกองทัพเรือก็สร้างการรับรู้ไปให้มากก่อน พร้อมให้กองทัพเรือไปศึกษาให้ชัดเจนว่าผลประโยชน์ทางทะเลมูลค่า 2 ล้านล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับการจัดหาเรือดำน้ำนั้นมีความเหมาะสมแค่ไหนที่จะดำเนินการ รวมถึงการมีผลต่อศักยภาพของกองทัพมากน้อยขนาดไหน
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงนโยบายในการปรับปรุงมาตรการตรวจค้นอาวุธในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหลังเกิดกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถูกจับกุมที่สนามบินประเทศญี่ปุ่นหลังจากตรวจพบอาวุธปืนว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ดูแลอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมที่ต้องดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่าเครื่องมือในการตรวจจับอาวุธหรือสิ่งผิดปกตินั้นมีความเสียหายหรือไม่ สำหรับกรณีของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยประสานข้อมูลทางคดีกับทางญี่ปุ่นนั้นก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยทำงานก่อน ตนยังตอบอะไรไม่ได้ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับกฎหมายที่จะชี้ว่าใครถูกใครผิด แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ปล่อยปละละเลยในเรื่องนี้เด็ดขาด และจะยึดกฎหมายเป็นหลัก ผู้รับผิดชอบคือกระทรวงคมนาคม การท่าอากาศยานฯ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ต้องมาพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไร ในฝ่ายบริหารได้สั่งการไปแล้วว่าให้ทำไปตามกฎหมาย สิ่งใดที่ยังทำไม่ถูกกฎหมาย ก็ต้องทำให้ถูกกฎหมาย
พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อถึงการพิจารณาบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารระดับชั้นนายพลประจำปีว่า ยังไม่เริ่มทำ เพราะยังมีเวลาอยู่ ตนเห็นข่าวไปเขียนตั้งกันแหลกรานเลย ทำให้เสียหาย คนในกองทัพปั่นป่วนไปหมด เพราะยังไม่ได้ทำอะไรกันเลย ตนยังไม่ได้สั่งว่าให้เหล่าทัพส่งรายชื่อมา หรือให้ใครไปดำเนินการอะไร เพราะยังไม่ถึงเวลา แต่ข่าวไปตั้งคนนั้นคนนี้ คนที่เขียนแบบนี้ต้องรับผิดชอบ และที่เขียนตั้งคนโน้นคนนี้มาทั้งหมดนั้น ไม่มีและไม่ใช่ ไปเขียนส่งเดช ต้องระมัดระวัง เพราะขณะนี้เราต้องการความปรองดอง และตอนนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการอะไรทั้งนั้นในเรื่องการโยกย้ายนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย เมื่อถามว่า ข่าวที่ออกมาเป็นการวิเคราะห์เรื่องแคนดิเดตที่จะขึ้นตำแหน่งสำคัญ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มี คุณไปแคนดิเดตกันเอง ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงกรณีที่สหรัฐฯ อาจจะยังคงลดระดับความพยายามตอบสนองต่อการค้ามนุษย์ของไทยอยู่ในกลุ่มที่ 3 หรือเทียร์ 3 ว่ารัฐบาลได้ดำเนินการการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ รวมถึงการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือไอยูยู โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎหมายได้ทำให้เกิดความชัดเจนมากขิ่งขึ้น ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการอยู่ เตรียมเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป เมื่อถามว่า หากสหรัฐฯ ยังคงเทียร์ 3 ไว้จะมีผลกระทบกับไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ถ้าเขายังคงอยู่ในระดับเดิมเราก็ยังพอทำอะไรได้ และในกรณีของประมงผิดกฎหมาย ทางอียูคงไม่ถึงขนาดให้ใบแดง เพราะไทยก็ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ มีระเบียบและขั้นตอนชัดเจน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่รู้สึกท้อถอย ถึงจะปลดเทียร์ 3 เราหรือไม่ เราก็ทำอย่างเต็มที่ เมื่อถามต่อว่าจะมีการคว่ำบาตรไทยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนคิดว่าไม่มีการคว่ำบาตร เพราะไทยตามหลักกฎหมาย และหลักสากล ขอให้สบายใจได้
รมว.กลาโหมเปิดเผยอีกว่า ได้สั่งการไปยังเหล่าทัพให้ทหารเข้าไปช่วยเหลือดูแลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งแล้ว โดยเฉพาะการแบ่งปันน้ำในพื้นที่ที่มีความเดือดร้อน ทั้งนี้ ทหารจะเข้าไปช่วยสนับสนุนในทุกพื้นที่เพื่อให้การบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาเกิดผลประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด รัฐบาลก็มีความเป็นห่วงทุกพื้นที่ที่มีปัญหา โดยเฉพาะเกษตรกร ชาวนาชาวไร่ เพราะขณะนี้ภัยแล้งถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ ถ้าฝนตกตามฤดูกาลสถานการณ์จะดีขึ้น