ASTVผู้จัดการ - “คำรณวิทย์” ยังไม่พ้นบ่วงกรรม ถูกส่งตัวให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นดำเนินคดีในความผิดฐานอยู่เกิน 15 วัน ส่วนคดีพกปืนถูกทางการญี่ปุ่นสั่งห้ามเข้าประเทศเป็นเวลา 1 ปี ซ้ำกลับถึงไทย ผบ.ตร.สั่ง ผบช.ภ.1 สอบพกปืนขึ้นเครื่องจากไทยไปญี่ปุ่นได้อย่างไร
วันนี้ (13 ก.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ภายหลังพนักงานอัยการญี่ปุ่นสั่งไม่ฟ้องในข้อหาพกพาอาวุธปืนว่า ขณะนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ถูกส่งตัวให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นเพื่อดำเนินคดีในความผิดฐานอยู่เกิน 15 วัน (over stay) ซึ่งเป็นการอยู่เกินระหว่างถูกควบคุมตัวพิจารณาคดี หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการส่งกลับตามกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง แต่ยังไม่ทราบเงื่อนไขแน่ชัด เบื้องต้นคาดว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะถูกทางการญี่ปุ่นริบอาวุธปืนของกลางเอาไว้ และห้ามเดินทางเข้าญี่ปุ่นอย่างน้อย 1 ปี อีกทั้งเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวต่อไป
พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ในส่วนกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทยของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์นั้น ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันแน่นอน ต้องรอขั้นตอนของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น ข้อมูลนี้เป็นการประสานงานระหว่างตำรวจไทยและญี่ปุ่นโดยตรง เนื่องจากญาติยังไม่ได้รับอนุญาตให้พบกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จึงอาจเกิดความคลาดเคลื่อนได้
“จากนี้จะเป็นกระบวนการในการทำเรื่องขอส่งตัวกลับ โดยต้องจัดการเกี่ยวกับเรื่องการอยู่เกิน 15 วันของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยก็จะมีการส่งตัวกลับไทยได้ทันที เบื้องต้นกรณีนี้ไม่ใช่การอยู่เกินโดยเจตนา แต่ถูกควบคุมระหว่างการพิจารณาคดี คาดว่าไม่น่าเกินคืนนี้หรือเช้าวันพรุ่งนี้จะสามารถเดินทางกลับได้ ส่วนเงื่อนไขในการปล่อยตัวเท่าที่ถามจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่น เงื่อนไขแรกที่เบาที่สุดคือถ้าส่งตัวกลับธรรมดาก็จะห้ามเข้าญี่ปุ่นภายใน 1 ปี แต่ถ้าถูกผลักดันก็จะกลายเป็นห้ามเข้าญี่ปุ่นอาจจะ 2-3 ปี แล้วแต่ดุลพินิจของทางการญี่ปุ่น แต่ภายใน 1 ปีนี้จะกลับเข้าไปญี่ปุ่นไม่ได้แน่นอน โดยตอนนี้ยังไม่มีใครได้พบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ แต่คาดว่าตำรวจจะปล่อยตัวตามคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการแล้ว” โฆษกตร.ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะอายัดตัวไว้สอบสวนต่อหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้นเพราะยังไม่มีข้อหาในประเทศไทย แต่จะเชิญมาสอบสวนเรื่องของอาวุธปืนต่อไป อย่างไรก็ตาม ต้องรอ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กลับมาก่อนเพื่อพูดคุยในรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนเรื่องการจองตั๋วเดินทางกลับประเทศไทยของทางญาตินั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด
เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมองเรื่องการปล่อยตัวครั้งนี้เป็นการร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นหรือเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า คงมองว่าเป็นการประสานงานด้วยส่วนหนึ่ง และเป็นเรื่องของการพิสูจน์ดูเรื่องของเจตนาด้วย ถามต่อว่าหลังจากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีบทลงโทษการนำปืนขึ้นเครื่องบินหรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องรอดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะให้รายละเอียดว่าอย่างไรบ้าง
