00 เรื่องอื่นไม่รู้ แต่สำหรับข้อเสนอของ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรับครม. ครั้งใหญ่ได้แล้ว เพื่อให้สามารถรับมือกับปัญหาที่เริ่มรุมเร้าเข้ามา และบางปัญหาที่เข้าขั้นวิกฤติ อย่างเช่นปัญหาภัยแล้ง ปัญหาเศรษฐกิจ สังคมที่กำลังจะตามมา ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวถือว่าต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะไม่ว่ามองมุมไหนก็ถึงเวลาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาของรัฐบาลที่ผ่านมาเกิน 6 เดือน คสช.ก็ผ่านมาปีกว่าแล้ว ที่สำคัญได้เห็นฝีไม้ลายมือของรัฐมนตรีหลายคนแล้วว่า "มือไม่ถึง" ไร้วิสัยทัศน์ในการบริหาร บุคลิกในการทำงานไม่ต่างจาก ขรก.ประจำ
00 ที่ยกตัวอย่างมา ไม่ว่าจะเป็น รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร รมว.เกษตรฯ ปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รวมทั้ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมฯ นี่แหละ ใช่เลย ไม่อยากจะพูดว่าทำงานไปวันๆ ไร้ผลงาน อย่าว่าแต่เชิงรุกไปข้างหน้าเลย เอาแค่ตั้งรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าได้มีการออกแอ็กชั่น ตรวจเยี่ยม ตามไปอำนวยการแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง
00 ถ้ายกเอาเรื่องภัยแล้งที่เห็นวิกฤติกันอยู่ในเวลานี้ แต่ถ้าถามว่าที่ผ่านมาได้เห็น "บูรณาการ" แก้ปัญหาแบบที่เคยท่องจำกันบ้างหรือไม่ ระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้ง มหาดไทย ก.เกษตรฯ รวมไปถึงกองทัพ ทั้งที่ภัยแล้งดังกล่าวได้ส่งสัญญาณมาให้เห็นหลายเดือนแล้ว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดถึงความล้มเหลวจากการทำงานของหน่วยงานราชการก็คือ วิกฤติขาดน้ำประปาที่ปทุมธานี เมื่อสองสามวันก่อน ความหมายก็คือ "ไม่มีคำเตือน" ให้ชาวบ้านได้รับรู้ มารู้เอาตอนที่น้ำประปาไม่ไหล คลองส่งน้ำแห้งขอดแล้ว ซึ่งปัญหาเท่าที่เห็นก็คือ เกิดจากดินทรุดทำให้ดินพังลงมาปิดกันทางน้ำ จนเกิดปัญหาไฟลนก้นต้องมีการใช้รถหนักมาขุดดินเปิดทางให้น้ำไหลเข้ามาเติมเข้าสู่ระบบการผลิตน้ำประปาได้อีกครั้ง
00 แน่นอนว่า นี่คือวิกฤติ ส่วนสำคัญเป็นภัยธรรมชาติที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่รับรองว่าต้องมีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ ถามว่าเมื่อแล้งแบบนี้ได้มีการรณรงค์ให้ทุกบ้านได้มีตุ่ม หรือภาชนะใส่น้ำไว้ทุกครัวเรือนไว้รับมือหน้าแล้งที่แสนสาหัสในปีหน้า หรือการช่วยเหลือขุดสระ ฟื้นฟูแหล่งน้ำในทุกหมู่บ้านได้ทั่วถึงขนาดไหน จะว่าไปแล้วประเทศไทยยังมีปริมาณน้ำฝนในแต่ละปีไม่ได้น้อยจนเกินไป เมื่อเทียบกับหลายภูมิภาคของโลกนี้ แต่ปัญหาก็คือเราไม่สนใจในเรื่องการกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ต่างหาก ถามว่าในภาคอีสานเป็นภาคที่มีปัญหาในเรื่องน้ำมากที่สุด แต่ลองไปสำรวจดูก็ได้ แทบจะไม่มีการส่งเสริม
ให้มีโอ่งน้ำในแต่ละบ้านเท่าใดนัก ทั้งที่แล้งกันทุกปี
00 พูดถึงแล้งก็ต้องลามมาถึงปัญหาเศรษฐกิจ สังคม อาชญากรรมตามมาเป็นสูตรสำเร็จ เมื่อคนไทยทำการเกษตรกว่าร้อยละ 80 มันก็ย่อมสาหัส แต่หากยังมี "ทีมเศรษฐกิจ" ที่นำโดย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจแบบนี้อยู่ มันก็แทบไม่มีความหวัง ไม่ใช่ใส่ร้ายป้ายสี แต่พิจารณาจากวิธีการทำงาน และผลงานที่ออกมาถือว่า ล้มเหลว อย่าว่าแต่ผลงานเลยเอาแค่ "สีสัน" ในการทำงานยังน่าหดหู่เลย ดังนั้นแม้จะอ้างว่า "ไม่อยากเปลี่ยนม้ากลางศึก" หรือจะเกรงใจแบบพี่น้องที่เคยเชื้อเชิญกันมา แต่มันก็น่าจะถึงเวลา "ปรับใหญ่" กันได้แล้วนะ "ลุงตู่" ได้โปรดเถอะ !!
00 รอดคุกญี่ปุ่นกลับมาถึงไทยแล้ว สำหรับ "แจ๊ด" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น. ตำรวจของ ทักษิณ ชินวัตร จากนี้ไปเรื่องราวทางคดีก็คงจะเงียบหายไป อย่าไปสนใจเรื่องที่ว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 ในฐานะเจ้าของพื้นที่สอบสวนในที่เกิดเหตุ คือ สนามบินสุวรรณภูมิ ว่านำอาวุธปืนออกไปได้อย่างไร เพราะเสียเวลาเปล่า อ้อ เรื่องที่รอดคุกมาได้เป็นเพราะ "ขาใหญ่" ในวงการเดียวกันนั่นแหละ ที่ไปรับรองว่า "แจ๊ดไม่ตั้งใจ" แจ๊ดไม่เจตนา โอ นายแน่มาก !!
00 ที่ยกตัวอย่างมา ไม่ว่าจะเป็น รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร รมว.เกษตรฯ ปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รวมทั้ง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมฯ นี่แหละ ใช่เลย ไม่อยากจะพูดว่าทำงานไปวันๆ ไร้ผลงาน อย่าว่าแต่เชิงรุกไปข้างหน้าเลย เอาแค่ตั้งรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าได้มีการออกแอ็กชั่น ตรวจเยี่ยม ตามไปอำนวยการแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง
00 ถ้ายกเอาเรื่องภัยแล้งที่เห็นวิกฤติกันอยู่ในเวลานี้ แต่ถ้าถามว่าที่ผ่านมาได้เห็น "บูรณาการ" แก้ปัญหาแบบที่เคยท่องจำกันบ้างหรือไม่ ระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้ง มหาดไทย ก.เกษตรฯ รวมไปถึงกองทัพ ทั้งที่ภัยแล้งดังกล่าวได้ส่งสัญญาณมาให้เห็นหลายเดือนแล้ว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดถึงความล้มเหลวจากการทำงานของหน่วยงานราชการก็คือ วิกฤติขาดน้ำประปาที่ปทุมธานี เมื่อสองสามวันก่อน ความหมายก็คือ "ไม่มีคำเตือน" ให้ชาวบ้านได้รับรู้ มารู้เอาตอนที่น้ำประปาไม่ไหล คลองส่งน้ำแห้งขอดแล้ว ซึ่งปัญหาเท่าที่เห็นก็คือ เกิดจากดินทรุดทำให้ดินพังลงมาปิดกันทางน้ำ จนเกิดปัญหาไฟลนก้นต้องมีการใช้รถหนักมาขุดดินเปิดทางให้น้ำไหลเข้ามาเติมเข้าสู่ระบบการผลิตน้ำประปาได้อีกครั้ง
00 แน่นอนว่า นี่คือวิกฤติ ส่วนสำคัญเป็นภัยธรรมชาติที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่รับรองว่าต้องมีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ ถามว่าเมื่อแล้งแบบนี้ได้มีการรณรงค์ให้ทุกบ้านได้มีตุ่ม หรือภาชนะใส่น้ำไว้ทุกครัวเรือนไว้รับมือหน้าแล้งที่แสนสาหัสในปีหน้า หรือการช่วยเหลือขุดสระ ฟื้นฟูแหล่งน้ำในทุกหมู่บ้านได้ทั่วถึงขนาดไหน จะว่าไปแล้วประเทศไทยยังมีปริมาณน้ำฝนในแต่ละปีไม่ได้น้อยจนเกินไป เมื่อเทียบกับหลายภูมิภาคของโลกนี้ แต่ปัญหาก็คือเราไม่สนใจในเรื่องการกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ต่างหาก ถามว่าในภาคอีสานเป็นภาคที่มีปัญหาในเรื่องน้ำมากที่สุด แต่ลองไปสำรวจดูก็ได้ แทบจะไม่มีการส่งเสริม
ให้มีโอ่งน้ำในแต่ละบ้านเท่าใดนัก ทั้งที่แล้งกันทุกปี
00 พูดถึงแล้งก็ต้องลามมาถึงปัญหาเศรษฐกิจ สังคม อาชญากรรมตามมาเป็นสูตรสำเร็จ เมื่อคนไทยทำการเกษตรกว่าร้อยละ 80 มันก็ย่อมสาหัส แต่หากยังมี "ทีมเศรษฐกิจ" ที่นำโดย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจแบบนี้อยู่ มันก็แทบไม่มีความหวัง ไม่ใช่ใส่ร้ายป้ายสี แต่พิจารณาจากวิธีการทำงาน และผลงานที่ออกมาถือว่า ล้มเหลว อย่าว่าแต่ผลงานเลยเอาแค่ "สีสัน" ในการทำงานยังน่าหดหู่เลย ดังนั้นแม้จะอ้างว่า "ไม่อยากเปลี่ยนม้ากลางศึก" หรือจะเกรงใจแบบพี่น้องที่เคยเชื้อเชิญกันมา แต่มันก็น่าจะถึงเวลา "ปรับใหญ่" กันได้แล้วนะ "ลุงตู่" ได้โปรดเถอะ !!
00 รอดคุกญี่ปุ่นกลับมาถึงไทยแล้ว สำหรับ "แจ๊ด" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น. ตำรวจของ ทักษิณ ชินวัตร จากนี้ไปเรื่องราวทางคดีก็คงจะเงียบหายไป อย่าไปสนใจเรื่องที่ว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 ในฐานะเจ้าของพื้นที่สอบสวนในที่เกิดเหตุ คือ สนามบินสุวรรณภูมิ ว่านำอาวุธปืนออกไปได้อย่างไร เพราะเสียเวลาเปล่า อ้อ เรื่องที่รอดคุกมาได้เป็นเพราะ "ขาใหญ่" ในวงการเดียวกันนั่นแหละ ที่ไปรับรองว่า "แจ๊ดไม่ตั้งใจ" แจ๊ดไม่เจตนา โอ นายแน่มาก !!