ชาวลพบุรีเฮ! น้ำจากชัยนาทไหลถึงประตูน้ำโคกกะเทียมแล้ว ปัญหาประปาปทุมฯ เริ่มคลี่คลาย อ่างทองยังแล้งหนัก

อ่างทอง/ลพบุรี/ปทุมธานี - สถานการณ์น้ำประปาในลพบุรีเริ่มดีขึ้น หลังมวลน้ำที่สำนักงานชลประทานสูบจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านประตูน้ำมโนรมย์ ชัยนาท เดินทางถึงประตูน้ำโคกกะเทียม ลพบุรี แล้ว ผู้ว่าฯ ลพบุรี เตือนประชาชนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด เช่นเดียวกับปัญหาขาดแคลนน้ำประปาที่ปทุมธานี เริ่มคลี่คลายลงแล้วเช่นกัน ส่วนอ่างทอง ยังแล้งหนัก ส่งผลนกปากห่างอพยพหากินตามทุ่งนา ชาวนาเผยช่วยกำจัดศัตรูข้าว

วันนี้ (14 ก.ค.) นายอรรถพร ปัญญาโฉม ผู้อำนวยการจัดสรรน้ำสำนักงานชลประทานที่ 10 จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 06.00 น.วันนี้ มวลน้ำที่สำนักงานชลประทานสูบจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านประตูน้ำมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ขณะนี้ได้เดินทางมาถึงประตูน้ำโคกกะเทียมของสำนักงานชลประทานที่ 10 จังหวัดลพบุรีแล้ว โดยมีปริมาณน้ำสูงขึ้น 34 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 5.86 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือคิดเป็นปริมาณน้ำประมาณ 400,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้สถานการณ์ขาดน้ำดิบของจังหวัดลพบุรีเริ่มดีขึ้น

ขณะที่ นายธนาคม จงจิระ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ระบุว่า หลังมวลน้ำมาถึงจังหวัดลพบุรีแล้วทำให้การประปาส่วนภูมิภาค มีน้ำดิบเพิ่ม ทำให้ในช่วงเช้าของวันนี้จะเร่งสูบน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก เข้าโรงสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคโคกกะเทียม จากเมื่อวันที่ 13 ก.ค.สูบอยู่ที่ 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง

“ในวันนี้จะมีการสูบเพิ่มเป็น 1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เพื่อเร่งผลิตน้ำประปาแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน จำนวน 40,000 ครัวเรือน ที่ได้รับผลกระทบน้ำประปาไม่ไหลก่อน และอยากเตือนประชาชนว่า ถึงขณะนี้จะสามารถจ่ายน้ำให้แก่ชาวบ้านได้เพิ่มขึ้นแต่ก็อาจปิดเปิดน้ำเป็นเวลา ขอให้ทุกครัวเรือนใช้น้ำอย่างประหยัด พร้อมเตรียมหาภาชนะมาเก็บน้ำสำรองเอาไว้ใช้ให้ได้สัก 5-7 วัน เพื่อความปลอดภัย” ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าว

**ปัญหาน้ำประปาปทุมธานีเริ่มคลี่คลายแล้ว

ด้าน นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์การขาดแคลนน้ำประปาของชาวธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ว่า ได้คลี่คลายลงแล้ว ซึ่งได้กำชับ กปภ.ธัญบุรี ให้เฝ้าระวังเรื่องระดับน้ำ และต้องเตือนประชาชนให้ทราบเร็วกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เดิมซ้ำ

ส่วนน้ำที่มีอยู่ในขณะนี้จะใช้ได้นานเท่าไหร่นั้นส่วนหนึ่งมาจากผู้ใช้น้ำที่อยู่ทางเหนือของสถานีสูบน้ำ ในการนำน้ำเข้าพื้นที่เกษตร จึงขอชะลอออกไปก่อนในช่วงนี้ พร้อมประสานไปยังกรมชลประทาน รวมถึงผู้ว่าจังหวัดที่ใกล้เคียง ไม่ให้เกษตรกรสูบน้ำไปใช้ในการเกษตรด้วยเช่นกัน เนื่องจากอาจจะทำให้น้ำมาไม่ถึง ส่วนการผลิตน้ำประปายังผลิตตามมาตรฐานเดิม ซึ่งหากประชาชนไม่มั่นใจก็สามารถนำมาต้มก่อนบริโภคได้

ทางด้าน นายชโยดม กาญจโนมัย ผู้อำนวยการการประปาส่วนภูมิภาค เขต 2 รับผิดชอบการบริการในพื้นที่ 7 จังหวัด คือ สระบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี และ ชัยนาท เปิดเผยว่า สถานการณ์งดจ่ายน้ำประปาในหลายพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานีนั้น ขณะนี้คลี่คลายลงอย่างมากแล้ว เพราะได้รับการร่วมมือจากทั้งกรมชลประทานจังหวัดปทุมธานี หน่วยทหาร องค์กรปกครองท้องถิ่น และทุกหน่วยงานเข้ามาสนับสนุน

โดยทางการประปาส่วนภูมิภาค เขต 2 ได้สั่งจ่ายน้ำประปาให้ประชาชนตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมาแล้ว แต่เนื่องจากมีปริมาณการใช้น้ำสูงมาก ทำให้ไม่ครอบคลุมในทุกพื้นที่และปริมาณน้ำอาจจะไหลน้อยกว่าปกติ ซึ่งในวันนี้จะได้มีการสูบน้ำเต็มอัตรากำลัง ทำให้มีน้ำประปาบริการประชาชนได้เพิ่มขึ้นประมาณ 70% ของพื้นที่ และคาดว่าในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) จะมีน้ำเก็บกักมากพอที่จะไหลไปสู่ปลายท่อได้ นั่นคือ สามารถให้บริการได้ครบทุกพื้นที่

“ในวันนี้จะมีการประชุมเป็นการภายในของการประปาส่วนภูมิภาค ในการเตรียมความพร้อมในกรณีที่จะมีการผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยามาเติมในระบบ และอาจส่งผลกระทบต่อการเพิ่มความเค็มในแม่น้ำ” ผู้อำนวยการการประปาส่วนภูมิภาค เขต 2 กล่าว

นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เปิดเผยถึงวิฤกตน้ำประปาว่า ในพื้นที่ความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลธัญบุรี มีประชากรประมาณ 10,000 ครัวเรือน หรือประมาณ 40,000 คน ได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงที่ผ่าน ทางเทศบาลตำบลธัญบุรี ได้นำน้ำออกแจกจ่ายประชาชน รวมไปถึงไปแจกตามโรงเรียนต่างๆ ซึ่งขณะนี้ถือว่าคลี่คลายลงแล้ว เพราะทางชลประทานมีกาารปล่อยน้ำมาใช้ในการผลิดน้ำประปาบ้างแล้ว รวมไปถึงเมื่อช่วงค่ำของเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ได้มีฝนตกในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม อยากให้ทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาช่วยชาวบ้านให้เร็วกว่าที่เป็นอยู่

**สถานการณ์ภัยแล้งอ่างทองยังหนัก

นายสามารถ กันทร อายุ 67 ปี ชาวนาตำบลบางระกำ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า ช่วงแล้งปีนี้ฝูงนกปากห่างอพยพเข้ามาหากินในทุ่งนา เพื่อหาหอยเชอรี่ และแมลงเป็นอาหาร ส่วนใหญ่จะเชื่องมาก เนื่องจากไม่มีคนเข้าไปทำร้าย ปกตินกปากห่างจะอาศัยรวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ เพื่อรวมตัวหากินตามแหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นการช่วยชาวนากำจัดศัตรูข้าวไปในตัว ถึงแม้มีการเหยียบย่ำตนข้าวหักบ้างก็ตาม

แต่ชาวนาส่วนใหญ่ก็พอใจหลังเกิดภาวะแล้งลุกลามขยายวงกว้าง ทำให้แหล่งน้ำตามธรรมชาติลดน้อย คลองชลประทานแห้งขอด ส่งผลต่อการหากินของนกปากห่างเดิมอาศัยอยู่รวมตัวกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ แล้วบินออกหากินตามแหล่งอาหารในท้องทุ่งนา แต่เมื่อเกิดภัยแล้ง ส่งผลนกปากห่างปรับพฤติกรรม ลดขนาดฝูงลง บางส่วนออกจากฝูงไปหาแหล่งน้ำแหล่งอาหารใหม่ หากน้ำยังแล้งต่อเนื่อง แหล่งอาหารเหลือน้อย อาจส่งผลต่อจำนวนนกปากห่าง