ที่ประชุมก.ตร.มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางให้นับวันทวีคูณราชการ "พล.ต.ท.ศรีวราห์"ผบช.น.ส่วนการเยียวยาต้องรอสิ้นปี เพราะมีตำแหน่งย้ายไปหรือเกษียณอายุราชการ จะไปกำหนดตำแหน่งใหม่ไม่ได้
วานนี้( 6 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)มีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ครั้งที่ 10/2558 โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ในฐานะรองประธานก.ตร. ทำหน้าที่ประธาน แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ ประธานก.ตร.ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ขณะที่ก.ตร.เข้าร่วมประชุมมีเพียง 6 คนประกอบด้วย พล.ต.อ.สมยศ พล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ขณะที่ พล.อ.ประวิตร พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร.และนายนนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.)ไม่ได้เข้าประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อ ก.ตร.เข้าประชุมพร้อมเพรียง และกำลังจะเริ่มการประชุมปรากฎว่า พล.ต.ท.วิชาญ ทองประชาญ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ในฐานะเลขานุการก.ตร.ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ทำให้ก.ตร.หลายคน ทักท้วงว่าการประชุมโดยไม่มีเลขานุการก.ตร.อาจถูกฟ้องร้องภายหลัง โดยผู้แทนได้ชี้แจงว่า พล.ต.ท.วิชาญ ชี้ว่า ตนเองถูกพล.ต.ท.ศรีวราห์ ฟ้องอาญาสืบเนื่องจากการประชุมก.ตร.ครั้งที่ 8/2558 ที่ผ่านมา ดังนั้นจึงมีสภาพร้ายแรง ถือว่ามีส่วนได้เสีย ตามพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองจึงไม่ขอร่วมประชุม แต่ต่อมา ก.ตร.ได้พิจารณาให้ พล.ต.ท.วิชาญ ร่วมประชุม
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวภายหลังประชุม ว่า การประชุมวันนี้ได้รับคำสั่งจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ ก.ตร.ประชุมหารือพิจารณากรณี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้มีข้อร้องเรียนเรื่องผลการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2558 ที่ให้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองการนับวันทวีคูณของตน โดยการประชุมวันนี้ได้นำเอกสารข้อมูลต่างๆจากการประชุม ก.ตร. ครั้งที่แล้วมาตรวจสอบอย่างละเอียด โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า การประชุมครั้งที่ 8/2558 ไม่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับตามที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ มีหนังสือร้องเรียนจริง เนื่องจากการประชุมวันนั้น พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ไม่ได้เดินออกนอกห้องประชุมไปก่อนที่จะมีการลงมติในที่ประชุม ซึ่งผิดระเบียบข้อบังคับการประชุม โดย พล.ต.ท.ศรีวราห์ มีประเด็นคัดค้านว่า พล.ต.อ.เอก และ พล.ต.อ.พงศพัศ ซึ่งเคยเป็นคู่ขัดแย้งกับตน แต่กลับไปนั่งอยู่ในห้องประชุมได้หรือไม่ ซึ่งตามระเบียบการประชุม ก.ตร.นั้นทั้งสองท่านต้องออกนอกห้องไปก่อนแล้วมาลงมติว่ารับรองหรือไม่ แต่ว่าทางฝ่ายเลขาการประชุมไม่ได้ทักท้วงแต่อย่างใด
“ในวันนั้นทั้งสองท่านต้องออกไปก่อน แต่ท่านไม่ได้ลุกออกไป ซึ่งข้ามขั้นตอนไปนิดเดียว จากการพิจารณาของ ก.ตร. วันนี้ได้เชิญ พล.ต.ท.ปัญญา เอ่งฉ้วน ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าไปชี้แจงประเด็นต่างๆด้วย โดยข้อคิดเห็นในการพิจารณาเรื่องหลักคือต้องพิจารณาใหม่ว่า ก.ตร. จะอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของปกครองกรณี พล.ต.ท.ศรีวราห์ หรือไม่ และที่ประชุมมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าไม่สมควรอุทธรณ์และที่ประชุมได้ขอความเห็นว่าจะเปิดลงคะแนนแบบลับหรือเปิดเผย และได้ข้อสรุปว่าให้เป็นแบบลับเหมือนการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ผ่านมา" พล.ต.อ.สมยศกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ฝ่ายเลขาการประชุมและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องทำบันทึกถึงอัยการว่าขณะนี้มติ ก.ตร. ได้มีความเห็นต่างจากมติเดิมแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่ต้องถึงศาล อยู่แค่ที่พนักงานอัยการเพราะยังไม่ได้ส่งเรื่องไปให้ศาลแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าจะเยียวยา พล.ต.ท.ศรีวราห์ อย่างไร จะแต่งตั้งย้อนหลังหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า คงเป็นไปตามกฎหมาย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะดำเนินการได้แค่ไหนอย่างไร ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ก.ตร. อีกครั้ง ถามต่อว่าจะต้องพิจารณาให้ทันช่วงแต่งตั้งโยกย้ายปลายปีนี้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนแต่งตั้ง พล.ต.ท.ศรีวราห์ ในทันที เพราะการแต่งตั้งใดๆก็แล้วแต่ ถึงแม้จะเป็นคำวินิจฉัยของศาลก็ต้องเป็นไปตามวาระทั้งสิ้น
“เรื่องนี้เป็นการรักษาสิทธิ์ของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ หากการร้องเรียนหรือคัดค้านดังกล่าวไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีผู้เสียสิทธิ์อย่างไรมันก็คงไม่เกิดขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าในวันนั้นมันเกิดความผิดพลาดเล็กน้อยในการประชุมจริงๆ เพราะ พล.ต.อ.เอก และ พล.ต.อ.พงศพัศ อยู่ภายในห้องระหว่างพิจารณาว่าจะให้ทั้งสองท่านอยู่ร่วมประชุมหรือไม่ แต่ตามระเบียบนั้นระบุว่าขณะที่พิจารณาว่าจะให้ทั้งสองท่านอยู่หรือไม่นั้น ทั้งสองท่านจะต้องออกนอกห้องประชุมไปก่อน ซึ่ง พล.ต.อ.เอก ได้ถามแล้วว่าตัวเองต้องออกนอกห้องก่อนหรือไม่ แต่ทางฝ่ายเลขาฯไม่ได้บอกอะไร จึงได้นั่งอยู่ต่อไป” ผบ.ตร. กล่าว และว่าการประชุมวันนี้ได้นำบทเรียนจากการประชุมครั้งที่ 8/2558 มาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือได้ถามฝ่ายเลขาฯในทุกขั้นตอนของการประชุมอย่างละเอียด โดยเรายอมรับว่าความผิดพลาดครั้งก่อนได้กลายเป็นช่องว่างให้ผู้ได้รับผลกระทบหรือเสียสิทธิ์ฟ้องร้อง ก.ตร. อย่างไรก็ตามต้องถือว่า พล.ต.ท.ศรีวราห์ นั้นเก่งมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมก.ตร.ครั้งนี้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้มารอชี้แจงต่อก.ตร.ด้วย แต่ไม่ได้เข้าชี้แจงแต่อย่างใด
วานนี้( 6 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)มีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ครั้งที่ 10/2558 โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ในฐานะรองประธานก.ตร. ทำหน้าที่ประธาน แทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ ประธานก.ตร.ที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ขณะที่ก.ตร.เข้าร่วมประชุมมีเพียง 6 คนประกอบด้วย พล.ต.อ.สมยศ พล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ขณะที่ พล.อ.ประวิตร พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร.และนายนนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.)ไม่ได้เข้าประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อ ก.ตร.เข้าประชุมพร้อมเพรียง และกำลังจะเริ่มการประชุมปรากฎว่า พล.ต.ท.วิชาญ ทองประชาญ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ในฐานะเลขานุการก.ตร.ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ทำให้ก.ตร.หลายคน ทักท้วงว่าการประชุมโดยไม่มีเลขานุการก.ตร.อาจถูกฟ้องร้องภายหลัง โดยผู้แทนได้ชี้แจงว่า พล.ต.ท.วิชาญ ชี้ว่า ตนเองถูกพล.ต.ท.ศรีวราห์ ฟ้องอาญาสืบเนื่องจากการประชุมก.ตร.ครั้งที่ 8/2558 ที่ผ่านมา ดังนั้นจึงมีสภาพร้ายแรง ถือว่ามีส่วนได้เสีย ตามพ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองจึงไม่ขอร่วมประชุม แต่ต่อมา ก.ตร.ได้พิจารณาให้ พล.ต.ท.วิชาญ ร่วมประชุม
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวภายหลังประชุม ว่า การประชุมวันนี้ได้รับคำสั่งจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ ก.ตร.ประชุมหารือพิจารณากรณี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้มีข้อร้องเรียนเรื่องผลการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2558 ที่ให้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองการนับวันทวีคูณของตน โดยการประชุมวันนี้ได้นำเอกสารข้อมูลต่างๆจากการประชุม ก.ตร. ครั้งที่แล้วมาตรวจสอบอย่างละเอียด โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า การประชุมครั้งที่ 8/2558 ไม่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับตามที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ มีหนังสือร้องเรียนจริง เนื่องจากการประชุมวันนั้น พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ไม่ได้เดินออกนอกห้องประชุมไปก่อนที่จะมีการลงมติในที่ประชุม ซึ่งผิดระเบียบข้อบังคับการประชุม โดย พล.ต.ท.ศรีวราห์ มีประเด็นคัดค้านว่า พล.ต.อ.เอก และ พล.ต.อ.พงศพัศ ซึ่งเคยเป็นคู่ขัดแย้งกับตน แต่กลับไปนั่งอยู่ในห้องประชุมได้หรือไม่ ซึ่งตามระเบียบการประชุม ก.ตร.นั้นทั้งสองท่านต้องออกนอกห้องไปก่อนแล้วมาลงมติว่ารับรองหรือไม่ แต่ว่าทางฝ่ายเลขาการประชุมไม่ได้ทักท้วงแต่อย่างใด
“ในวันนั้นทั้งสองท่านต้องออกไปก่อน แต่ท่านไม่ได้ลุกออกไป ซึ่งข้ามขั้นตอนไปนิดเดียว จากการพิจารณาของ ก.ตร. วันนี้ได้เชิญ พล.ต.ท.ปัญญา เอ่งฉ้วน ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าไปชี้แจงประเด็นต่างๆด้วย โดยข้อคิดเห็นในการพิจารณาเรื่องหลักคือต้องพิจารณาใหม่ว่า ก.ตร. จะอุทธรณ์คำสั่งหรือคำพิพากษาของปกครองกรณี พล.ต.ท.ศรีวราห์ หรือไม่ และที่ประชุมมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าไม่สมควรอุทธรณ์และที่ประชุมได้ขอความเห็นว่าจะเปิดลงคะแนนแบบลับหรือเปิดเผย และได้ข้อสรุปว่าให้เป็นแบบลับเหมือนการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ผ่านมา" พล.ต.อ.สมยศกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ฝ่ายเลขาการประชุมและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องทำบันทึกถึงอัยการว่าขณะนี้มติ ก.ตร. ได้มีความเห็นต่างจากมติเดิมแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่ต้องถึงศาล อยู่แค่ที่พนักงานอัยการเพราะยังไม่ได้ส่งเรื่องไปให้ศาลแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าจะเยียวยา พล.ต.ท.ศรีวราห์ อย่างไร จะแต่งตั้งย้อนหลังหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า คงเป็นไปตามกฎหมาย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะดำเนินการได้แค่ไหนอย่างไร ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ก.ตร. อีกครั้ง ถามต่อว่าจะต้องพิจารณาให้ทันช่วงแต่งตั้งโยกย้ายปลายปีนี้หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนแต่งตั้ง พล.ต.ท.ศรีวราห์ ในทันที เพราะการแต่งตั้งใดๆก็แล้วแต่ ถึงแม้จะเป็นคำวินิจฉัยของศาลก็ต้องเป็นไปตามวาระทั้งสิ้น
“เรื่องนี้เป็นการรักษาสิทธิ์ของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ หากการร้องเรียนหรือคัดค้านดังกล่าวไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีผู้เสียสิทธิ์อย่างไรมันก็คงไม่เกิดขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าในวันนั้นมันเกิดความผิดพลาดเล็กน้อยในการประชุมจริงๆ เพราะ พล.ต.อ.เอก และ พล.ต.อ.พงศพัศ อยู่ภายในห้องระหว่างพิจารณาว่าจะให้ทั้งสองท่านอยู่ร่วมประชุมหรือไม่ แต่ตามระเบียบนั้นระบุว่าขณะที่พิจารณาว่าจะให้ทั้งสองท่านอยู่หรือไม่นั้น ทั้งสองท่านจะต้องออกนอกห้องประชุมไปก่อน ซึ่ง พล.ต.อ.เอก ได้ถามแล้วว่าตัวเองต้องออกนอกห้องก่อนหรือไม่ แต่ทางฝ่ายเลขาฯไม่ได้บอกอะไร จึงได้นั่งอยู่ต่อไป” ผบ.ตร. กล่าว และว่าการประชุมวันนี้ได้นำบทเรียนจากการประชุมครั้งที่ 8/2558 มาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือได้ถามฝ่ายเลขาฯในทุกขั้นตอนของการประชุมอย่างละเอียด โดยเรายอมรับว่าความผิดพลาดครั้งก่อนได้กลายเป็นช่องว่างให้ผู้ได้รับผลกระทบหรือเสียสิทธิ์ฟ้องร้อง ก.ตร. อย่างไรก็ตามต้องถือว่า พล.ต.ท.ศรีวราห์ นั้นเก่งมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมก.ตร.ครั้งนี้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้มารอชี้แจงต่อก.ตร.ด้วย แต่ไม่ได้เข้าชี้แจงแต่อย่างใด