ก.ตร. ถกปม “ศรีวราห์” ร้องประชุมลงมติอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางกรณีคืนสิิทธิทวีคูณ มิชอบ ขัดกฎหมาย-ข้อบังคับ นานกว่า 2 ชม. ไร้ข้อยุติประเด็นลงมติ 2 ครั้ง เลื่อนสรุปคราวหน้า ด้าน “สมยศ” ยันทำตามระเบียบ ไม่มีเจตนาแฝง ไม่หวั่นถูกฟ้อง เดินหน้าอุทธรณ์ต่อ ฉงน "บิ๊กเอก" อยู่ในห้องประชุมด้วย แต่กลับมีความเห็นแย้งตอนหลัง
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 9/2558 เพื่อพิจารณาวาระที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล คัดค้านมติ ก.ตร. ครั้งที่ 8/2558 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ ก.ตร. มีมติเสียงข้างมากให้อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ ก.ตร. ถอนมติในการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 9/2555 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2555 ที่เพิกถอนการได้รับสิทธิทวีคูณในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ เสียสิทธิในตำแหน่งเป็น ผบช.ภ.1 ในการแต่งตั้งวาระประจำปี 2553 โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธาน ก.ตร. ติดภารกิจไม่ได้เข้าร่วมประชุม มอบหมายให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองประธาน ก.ตร. ทำหน้าที่ประธานแทน โดยมี พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ร่วมประชุม โดย พล.ต.ท.วิชาญ ทองประชาญ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ผบช.ก.ตร.) ในฐานะเลขานุการ ก.ตร. แจ้งว่า พล.อ.ประวิตร มีภารกิจไม่สามารถประชุมได้ ส่วน นายนนทิกร กาญจนจิตรา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ติดเรียน วปอ. ขณะที่ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร. ลาพักร้อน ส่วน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ลาป่วย
มีรายงานว่า หลังการประชุมผ่านไปได้ 30 นาที พล.ต.ท.วิชาญ ซึ่งเพิ่งถูก พล.ต.ท.ศรีวราห์ ฟ้องอาญา กล่าวหาว่า เป็นเลขานุการ ก.ตร. แล้วให้ข้อมูลเป็นเท็จต่อ ก.ตร. นำมาซึ่งมติ ก.ตร. ครั้งที่ 8/2558 ที่ผ่านมา ได้ออกจากห้องประชุม โดยบรรยากาศภายในห้องประชุมมีการอภิปรายโต้กันอย่างดุเดือด ในแง่ของกฎหมาย ซึ่งใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า หลังจาก ก.ตร. ครั้งที่ผ่านมา มีมติไปแล้ว ว่าให้อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้ทำหนังสือร้องเรียน ขอความเป็นธรรม ถึง พล.อ.ประวิตร ว่า การลงมติ ก.ตร. กรณีนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รองนายกรัฐมนตรี จึงสั่งการให้ประชุม ก.ตร. เพื่อพิจารณาทบทวนในประเด็นที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ทักท้วง โดยเฉพาะเรื่องการลงมติลับถึง 2 ครั้ง ก่อน ก.ตร. เสียงข้างมากจะมีมติให้อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้วตามกระบวนการ
“ที่ประชุมวันนี้ ก.ตร. แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง มีการนำเทปมาเปิด แต่ยังมีบ้างประเด็นในด้านข้อกฎหมายที่ต้องพิจารณา หารือให้ครบถ้วนรอบด้านเสียก่อน เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ยอมรับการท้วงติงของ ก.ตร. ครั้งนี้ จึงมีมติให้เลื่อนการลงมติการประชุมครั้งนี้ก่อน และมอบให้ฝ่ายเลขาฯ หารือข้อกฎหมายให้ครอบคลุมตามที่ ก.ตร. ท้วงติง ทั้งนี้ วันนี้ ก.ตร. ทุกท่านยืนยันว่าการประชุมครั้งที่ 8/2558 เป็นการประชุมที่ชอบด้วยระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมาย เห็นเช่นนี้เป็นเอกฉันท์ แต่มีรายละเอียดที่ยังต้องหาข้อยุติในเรื่องการลงมติ 2 ครั้ง ที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ร้องเรียน ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ได้แสดงความคิดเห็น ท้วงติงกัน โดยต้องพิจารณาทั้งแง่กฎหมาย ดูว่าอาจจะต้องเชิญใครร่วมให้ความเห็นหรือไม่ ทั้งนี้ มติ ก.ตร. ครั้งก่อนที่อุทธรณ์ ยังไม่เปลี่ยนแปลง ดำเนินการไปตามขั้นตอน” ผบ.ตร. ระบุ และว่า ประเด็นที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ร้องเรียน คือ การลงมติลับ 2 ครั้ง
“ครั้งแรก เสียงเท่ากัน ฝ่ายเลขาฯให้ประธานชี้ขาด ผมพิจารณาว่า ถ้าให้ผมชี้ขาด ก็จะรู้ว่าผมชี้ทางไหน ไม่เรียกว่าลับแล้ว มันมีคนได้เสีย สุ่มเสี่ยงถูกฟ้องร้องภายหลัง ถ้าลงผมชี้ขาดต้องงดออกเสียงทุกครั้ง ก็ไม่มีทางได้ข้อยุติ ผมจึงขอมติที่ประชุมหารือ ถามฝ่ายเลขาฯว่าสามารถลงคะแนนเสียงอีกครั้งได้หรือไม่ ฝ่ายเลขาฯว่าทำได้โดยใช้ข้อบังคับข้อที่ 25 ให้ยกเว้นข้อบังคับการประชุมทั้งหมด จึงมีการลงติครั้งที่ 2 ซึ่ง 3 เสียงให้อุทธรณ์ ตรงนี้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ชี้ว่า การลงมติไม่ชอบเพราะการลงมติครั้งแรกยังไม่สิ้นสุด ผมได้ชี้แจงในที่ประชุมว่าผมลงมติชี้ขาดไม่ได้ เพราะมันไม่มีทางเป็นความลับแล้ว ก็ดำเนินการต่อไปไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ต้องลงมติครั้งที่ 2 ย้ำว่าหากผมลงชี้ขาดในครั้งแรก ชี้ทางไหนก็มีคนจ้องฟ้อง มันหาข้อยุติไม่ได้ เป็นไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ไม่มีอะไรแอบแฝง เพียงแค่ต้องการให้เป็นการลงมติลับโดยสมบูรณ์แบบ” ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ประเด็นที่ พล.ต.อ.เอก แย้งภายหลังว่า การลงมติ 2 ครั้งไม่น่าจะชอบ นั้น วันนี้ได้สอบถามกันว่าเหตุใดไม่แจ้ง คิดเห็น คัดค้าน ตั้งแต่การประชุมครั้งก่อน ซึ่ง พล.ต.อ.เอก แจ้งว่า ครั้งนี้มีข้อมูลที่เปลี่ยนไป ซึ่งทุกคนมีสิทธิโดยชอบแสดงความคิดเห็น เมื่อข้อมูลเปลี่ยน ไม่มีความขัดแย้งอะไร ทั้งนี้ ยืนยันว่า ที่ประชุมครั้งนั้นมีการรับรองมติครบถ้วนทุกครั้งตามประเพณีระเบียบปฏิบัติ แต่ก็มีคำถามว่าคนที่เห็นค้านเหตุใดไม่แสดงออกตั้งแต่ตอนนั้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่กำหนดว่า ก.ตร. ครั้งหน้าจะมีขึ้นเมื่อไหร่
“ผมเชื่อว่า สิ่งที่ผม และ ก.ตร. กระทำถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนใครจะใช้สิทธิ หรือคิดว่าตนเองเสียสิทธิ จะฟ้องร้องก็ทำได้ เรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ใช่อย่างนั้น” ผบ.ตร. กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.วิชาญ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ฟ้องอาญา ว่า ยืนยันว่า ตนทำถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ครบถ้วนชี้แจงได้ ไม่กังวล และไม่เอาชื่อเสียงที่สั่งสมมา มาแลกกับเรื่องนี้หรอก