เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ ( 25 มิ.ย.) ที่บ้านสวนทวดจีบ คลอง 4 ปทุมธานี พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดบ้านสวนทวดจีบ ให้บรรดาคนสนิทเข้าอวยพร เนื่องในวันคล้ายเกิดครบรอบ 70 ปี โดยมี พล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะตัวแทน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เข้าอวยพรพร้อมมอบกระเช้าดอกไม้
นอกจากนี้ ยังมีอดีตรัฐมนตรี นักการเมือง เข้าร่วมอวยพร อาทิ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรมช.แรงงาน นายชินวัตร หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้อายุ70 ปีแล้ว ก็ไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ แต่ฟังข่าวสารต่างๆ ที่ประชาชนเดือดร้อนเป็นประจำ โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้ง ก็เป็นห่วงชาวไร่ชาวนา ดังนั้นรัฐบาลก็น่าจะมีความรู้สึกเป็นห่วงมากกว่าตน และคิดว่าน่าจะหาวิธีแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการเจาะบ่อบาดาล ตนเห็นด้วยและควรขุดให้จำนวนมาก เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งได้ส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมีความอดทน เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นวิกฤตทางธรรมชาติ รัฐบาลก็ต้องช่วยหามาตรการแก้ปัญหา ก็รู้สึกหนักใจแทนเหมือนกัน แต่เชื่อมั่นในศักยภาพ และความสามารถของรัฐบาลว่า จะสามารถฝ่าฟันวิกฤตไปได้ ทุกคนควรให้ความร่วมมือ และความอดทน ซึ่งคนไทยทุกคนมีความอดทนอยู่แล้ว คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
สำหรับเรื่องโรดแมปของรัฐบาล ตนคิดว่าก็น่าจะเป็นไปตามนั้น เพราะเป็นเสมือนสัญญาประชาคม ถ้าไม่มีอะไรสุดวิสัยก็น่าจะเป็นไปตามโรดแมป ประกอบกับประเทศในโลกประชาธิปไตย ต้องปกครองในระบอบประชาธิปไตยทั้งนั้น โดยเฉพาะประเทศโลกที่สาม ส่วนเหตุสุดวิสัยที่ว่า จะเป็นอย่างไรนั้น ส่วนตัวไม่รู้ แต่ถ้ายิ่งเร็วเท่าไหร่ ตามโรดแมป ก็ยิ่งดี
เมื่อถามว่า เหตุสุดวิสัยที่ว่านี้ คือการต่ออายุของรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล ปัญหามีไว้แก้ ก็แก้กันไป แต่คิดว่าในเมื่อดำเนินการมาถึงขนาดนี้ ก็ต้องเอาให้รอด
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ยังกล่าวถึงแนวโน้มการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า มันมีตัวอย่างรัฐธรรมนูญที่ใช้แล้วมีปัญหา ก็น่าที่จะต้องปรับแก้ไข เพราะเป็นโอกาสดีที่ไม่มีอีกแล้ว ที่จะร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาให้เป็นประชาธิปไตย อย่าให้ใครด่าได้ว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาจากปากกระบอกปืน ส่วนจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ ภายหลังการทำประชามตินั้น คงเป็นไปตามขั้นตอน คิดว่าทุกคนมีความหวังดีต่อประเทศชาติ และประชาชน ที่สำคัญต้องอย่าเห็นแก่พรรคพวก หรือประโยชน์ส่วนตัว ทั้งนี้ ตนคิดว่าก็น่าจะมีการปรับแก้ไขเนื้อหากันไป เพราะที่ผ่านมาประเทศชาติมีแต่วิกฤต
อย่างไรก็ตาม ขอให้กำลังใจนายกฯ เพราะขณะนี้ประสบปัญหาเป็นจำนวนมาก ทั้งปัญหาธรรมชาติ และปัญหาต่างๆ รุมเร้ามาเรื่อยๆ ขอให้กำลังใจ และหวังว่านายกฯ จะแก้ปัญหาโดยราบรื่น เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนมีความสามารถ มีความอดทน ขอให้ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาทุกๆ ด้าน
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์มาอวยพร หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่าไม่ได้โทรศัพท์มาอวยพรวันเกิด และไม่ได้ติดต่อกันเป็นเวลานานแล้ว วันเกิดเป็นวันธรรมดา ไม่ได้สำคัญอะไร พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่โทรมา
ผู้สื่อข่าวถามถึงคดีความ ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังถูกดำเนินคดีและอยู่ในขั้นตอนของศาล พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังเชื่อในความยุติธรรม และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้กับรัฐสภาไว้ ตนคิดว่าคงมีความยุติธรรม และหวังดีต่อกันบ้าง ไม่ใช่เป็นศัตรูกันจนประเทศชาติไม่มีความสุข ประชาชนเดือดร้อน หากใครทำดี ทำไม่ดี ต้องขอให้ว่าไปตามกระบวนการ หากเราไม่ใช้รัฐสภาเป็นหลักของบ้านเมือง จะอยู่อย่างไร ทุกอย่างต้องเป็นไปตาม มติครม.
"ส่วนความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม จะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับทุกฝ่ายหรือไม่นั้น เชื่อว่าฝ่ายกระบวนการยุติธรรมคงคิดได้ เพราะความยุติธรรมจะทำให้โลกดีขึ้น ทำให้ทุกคนไม่มีปัญหา หากตัดสินด้วยความยุติธรรม หากตัดสินด้วยความอยุติธรรม จะทำให้ประเทศชาติอยู่ไม่ได้มีปัญหา ผมไม่ชอบเลย ที่มากหมอ มากความ อะไรก็ฟ้องๆ ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ที่แล้วๆมา รัฐธรรมนูญควรร่างไว้เหมือนกันว่าหากค้านทุกอย่างก็ไม่มีความเป็นเอกภาพ ประเทศชาติไปไม่ได้ ต้องถือเสียงส่วนใหญ่ และระบบรัฐสภาศักดิ์สิทธิ์ที่สุด" พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ บรรยากาศภายในงาน ผู้สื่อข่าวแซวหยอกล้อว่า เนื่องในวันเกิด ท่านอยากได้อะไรของขวัญ จะเป็น ส.ส.ชัยสิทธิ์ หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า "ไม่เอาแล้ว เข็ดแล้ว" พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อย่าไปถามนายกฯมาก เขาเหนื่อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานวันเกิดปีนี้ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้มอบของที่ระลึกให้ผู้ที่มาร่วมงาน คือ ไฟฉาย และบอกว่า " เอาไว้ส่องหาทาง เผื่ออยู่ในที่มืด จะได้เจอแสงสว่าง และส่องหาประชาธิปไตย "
นอกจากนี้ ยังมีอดีตรัฐมนตรี นักการเมือง เข้าร่วมอวยพร อาทิ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรมช.แรงงาน นายชินวัตร หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้อายุ70 ปีแล้ว ก็ไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ แต่ฟังข่าวสารต่างๆ ที่ประชาชนเดือดร้อนเป็นประจำ โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้ง ก็เป็นห่วงชาวไร่ชาวนา ดังนั้นรัฐบาลก็น่าจะมีความรู้สึกเป็นห่วงมากกว่าตน และคิดว่าน่าจะหาวิธีแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการเจาะบ่อบาดาล ตนเห็นด้วยและควรขุดให้จำนวนมาก เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งได้ส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมีความอดทน เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นวิกฤตทางธรรมชาติ รัฐบาลก็ต้องช่วยหามาตรการแก้ปัญหา ก็รู้สึกหนักใจแทนเหมือนกัน แต่เชื่อมั่นในศักยภาพ และความสามารถของรัฐบาลว่า จะสามารถฝ่าฟันวิกฤตไปได้ ทุกคนควรให้ความร่วมมือ และความอดทน ซึ่งคนไทยทุกคนมีความอดทนอยู่แล้ว คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
สำหรับเรื่องโรดแมปของรัฐบาล ตนคิดว่าก็น่าจะเป็นไปตามนั้น เพราะเป็นเสมือนสัญญาประชาคม ถ้าไม่มีอะไรสุดวิสัยก็น่าจะเป็นไปตามโรดแมป ประกอบกับประเทศในโลกประชาธิปไตย ต้องปกครองในระบอบประชาธิปไตยทั้งนั้น โดยเฉพาะประเทศโลกที่สาม ส่วนเหตุสุดวิสัยที่ว่า จะเป็นอย่างไรนั้น ส่วนตัวไม่รู้ แต่ถ้ายิ่งเร็วเท่าไหร่ ตามโรดแมป ก็ยิ่งดี
เมื่อถามว่า เหตุสุดวิสัยที่ว่านี้ คือการต่ออายุของรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล ปัญหามีไว้แก้ ก็แก้กันไป แต่คิดว่าในเมื่อดำเนินการมาถึงขนาดนี้ ก็ต้องเอาให้รอด
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ยังกล่าวถึงแนวโน้มการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า มันมีตัวอย่างรัฐธรรมนูญที่ใช้แล้วมีปัญหา ก็น่าที่จะต้องปรับแก้ไข เพราะเป็นโอกาสดีที่ไม่มีอีกแล้ว ที่จะร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาให้เป็นประชาธิปไตย อย่าให้ใครด่าได้ว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาจากปากกระบอกปืน ส่วนจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ ภายหลังการทำประชามตินั้น คงเป็นไปตามขั้นตอน คิดว่าทุกคนมีความหวังดีต่อประเทศชาติ และประชาชน ที่สำคัญต้องอย่าเห็นแก่พรรคพวก หรือประโยชน์ส่วนตัว ทั้งนี้ ตนคิดว่าก็น่าจะมีการปรับแก้ไขเนื้อหากันไป เพราะที่ผ่านมาประเทศชาติมีแต่วิกฤต
อย่างไรก็ตาม ขอให้กำลังใจนายกฯ เพราะขณะนี้ประสบปัญหาเป็นจำนวนมาก ทั้งปัญหาธรรมชาติ และปัญหาต่างๆ รุมเร้ามาเรื่อยๆ ขอให้กำลังใจ และหวังว่านายกฯ จะแก้ปัญหาโดยราบรื่น เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนมีความสามารถ มีความอดทน ขอให้ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาทุกๆ ด้าน
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โทรศัพท์มาอวยพร หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่าไม่ได้โทรศัพท์มาอวยพรวันเกิด และไม่ได้ติดต่อกันเป็นเวลานานแล้ว วันเกิดเป็นวันธรรมดา ไม่ได้สำคัญอะไร พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่โทรมา
ผู้สื่อข่าวถามถึงคดีความ ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังถูกดำเนินคดีและอยู่ในขั้นตอนของศาล พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังเชื่อในความยุติธรรม และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้กับรัฐสภาไว้ ตนคิดว่าคงมีความยุติธรรม และหวังดีต่อกันบ้าง ไม่ใช่เป็นศัตรูกันจนประเทศชาติไม่มีความสุข ประชาชนเดือดร้อน หากใครทำดี ทำไม่ดี ต้องขอให้ว่าไปตามกระบวนการ หากเราไม่ใช้รัฐสภาเป็นหลักของบ้านเมือง จะอยู่อย่างไร ทุกอย่างต้องเป็นไปตาม มติครม.
"ส่วนความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม จะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับทุกฝ่ายหรือไม่นั้น เชื่อว่าฝ่ายกระบวนการยุติธรรมคงคิดได้ เพราะความยุติธรรมจะทำให้โลกดีขึ้น ทำให้ทุกคนไม่มีปัญหา หากตัดสินด้วยความยุติธรรม หากตัดสินด้วยความอยุติธรรม จะทำให้ประเทศชาติอยู่ไม่ได้มีปัญหา ผมไม่ชอบเลย ที่มากหมอ มากความ อะไรก็ฟ้องๆ ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ที่แล้วๆมา รัฐธรรมนูญควรร่างไว้เหมือนกันว่าหากค้านทุกอย่างก็ไม่มีความเป็นเอกภาพ ประเทศชาติไปไม่ได้ ต้องถือเสียงส่วนใหญ่ และระบบรัฐสภาศักดิ์สิทธิ์ที่สุด" พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ บรรยากาศภายในงาน ผู้สื่อข่าวแซวหยอกล้อว่า เนื่องในวันเกิด ท่านอยากได้อะไรของขวัญ จะเป็น ส.ส.ชัยสิทธิ์ หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า "ไม่เอาแล้ว เข็ดแล้ว" พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อย่าไปถามนายกฯมาก เขาเหนื่อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานวันเกิดปีนี้ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้มอบของที่ระลึกให้ผู้ที่มาร่วมงาน คือ ไฟฉาย และบอกว่า " เอาไว้ส่องหาทาง เผื่ออยู่ในที่มืด จะได้เจอแสงสว่าง และส่องหาประชาธิปไตย "