ไล่สปช.ตั้งสภาขับเคลื่อนฯ “นอมินีปฏิรูป”เวอร์ชั่นใหม่

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -หมดสภาพ!! หลังจากร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกลายมาเป็นกึ่งพินัยกรรมของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ให้เหลืออายุขัยเพียงสั้นๆ แค่วันลงมติ รับหรือไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ภายใต้การเจียระไนของ“อาจารย์ปื๊ด”บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และทีมงาน ไม่ต้องอยู่ยาวไปถึงมีสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ จะโหวตอย่างไรเลือกตามสบายใจเถิด เอา-ไม่เอา ก็ไม่มีผลอะไร

คนที่ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง คือรัฐบาล มีผลเพียงแค่ว่า จะทำให้รัฐบาลอยู่ยาวหรือจะอยู่ย๊าวยาวกว่านี้เท่านั้นเอง

หลังจากช็อกจนพอเรียกสติกลับคืนมาได้ หลายคนได้แสดงกำพืด และตัวตนที่แท้จริงออกมาให้ได้เห็น บางคนตีโพยตีพาย จะเป็นจะตายโทษนู่นโทษนี่ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หงุดหงิดจน สปช.ทั้งหมดต้องดวงกุด โต้กันไปโต้กันมาเหมือนไก่ไหว้เจ้าตรุษจีน จิกตีกันในเข่ง สุดท้ายตายทุกตัว บางคนพอรู้ว่ายังมีสภาขับเคลื่อนปฏิรูปที่จะมาทดแทน 200 คน กลัวตกงาน เลยกลับลำทำตัวเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ไม่อยากเตะฝุ่นก่อนวัยอันควร

ในขณะที่อีกส่วนยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี รู้ตัวว่าตวัดกลับลำหันไม่ทัน ดันทำตัวเป็นศิลปินไปงัดข้อกับฝั่งผู้มีอำนาจตลอด จนหมดสิทธิ์ได้ไปต่อแน่นอนแล้ว เลยปล่อยของกันออกมาชุดใหญ่ ชูโมเดลนู่น โมเดลนี่ สารพัด แต่ตอนยังมีเวลาเหลือเฟือไม่ยักจะทำ ตลกร้ายกว่าบางพวก หน้าฉากเหมือนจะเจตนาไม่ดี ออกมาเชียร์ให้ สปช.โหวตคว่ำรัฐธรรมนูญ แต่ที่ไหนได้อาจหวังผลลึกๆ เพราะหาก สปช. บ้ายุตาม ผลพลอยได้ตกไปอยู่กับรัฐบาล ทำนองยิ่งคว่ำยิ่งอยู่นาน รัฐบาลยิ่งชอบ มีเวลาแก้ปัญหา 

เผลอๆ คนยุแยงตะแคงรั่วหนนี้จะถูกตบรางวัลให้อย่างงามในเก้าอี้สภาขับเคลื่อนปฏิรูป ทำเป็นเล่นไป

กระนั้นก็ตาม บางพวกก็หลุดโลกไม่รู้ตั้งใจปล่อยของทิ้งทวนแรงๆ หรือรับบทเป็นหนังหน้าไฟ ชงเช็กกระแสสังคม กรณี 12 สมาชิก สปช. เรียงแถวกันเสนอให้เปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย ว่ากันตามจริง ไม่หวือหวาอะไร เพราะเป็นมุกเก่าเอามาปัดฝุ่นใหม่ โยนขึ้นมาเมื่อไหร่ในสังคมเถียงกันตลอด

เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย ฝั่งละพอๆ กัน เหตุผลสนับสนุนมีกันเพียบ ปล่อยเปรี้ยงๆ สักพักเดี๋ยวก็เงียบไป ไม่มีใครกล้าแตะ เพราะค่อนข้างละเอียดอ่อน ยิ่งบ้านเราเมืองเรานับถือศาสนาพุทธเป็นหลัก โอกาสจะเป็นจริงได้น้อยถึงน้อยที่สุด ต่อให้อีกฝ่ายจะยกกรณีตัวอย่างเพื่อนบ้านมาเปรียบเทียบ อยากให้ทุกคนเลิกดัดจริตยอมรับความจริงว่า การพนันเป็นของคู่สังคมไทยก็ตาม

ยังต้องรอดู ยังจะมีอะไรพิเรนท์ๆ มาจาก สปช. ที่เหมือนคนไข้ในระยะสุดท้ายอีกหรือไม่ ใครจะปล่อยของออกมาเลหลังให้โจษจัน ใครจะถนอมเนื้อถนอมตัว เพื่อให้อยู่บนคานอำนาจมีตำแหน่งแห่งหนต่อไป ไม่หือไม่อือ ทำตัวเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทของผู้ปกครองอย่างรัฐบาล เขาว่าอย่างไรก็ “ได้ครับพี่ ดีครับท่าน ตามนั้นครับผม เหมาะสมครับนาย”ไม่ต้องตรวจสอบ คัดค้าน เสนอแนะอะไรกันแล้ว 

“แป๊ะ”ว่าอย่างไรดีไปหมด ไม่อยากดวงจู๋

ก็ซือแป๋กฎหมายสามัญประจำทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แบไต๋เสียขนาดนั้นว่า กำลังมองดูความประพฤติของสมาชิกสปช. และผลงานที่ผ่านมาๆ มาอยู่ เพราะเป็นเกณฑ์หนึ่งในการตัดสินใจว่า “บิ๊กตู่”จะให้ใครได้ไปต่อในสภาขับเคลื่อนปฏิรูป 200 คน แม้จะบอกความคิดเห็นไม่สอดคล้องกับรัฐบาลไม่เป็นไร แต่ต้องเข้าใจเรื่องการปฏิรูป เรียกว่า อมพระอมโบสถ์ก็ไม่เชื่อ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า จะยุบ สปช.ทิ้งทำพระแสงของ้าวอะไร เพราะหลากหลาย มีร้อยพ่อพันแม่ให้เลือกสอยขนาดนั้น ไอเดียปฏิรูปพรั่งพรู

ชาวบ้านร้านตลาดเขารู้เหตุผลไล่ สปช. ลงจากเรือแป๊ะเที่ยวนี้ มันมีมูลเหตุมาจากความอลหม่านภายใน ความคิด สปช.ไปคนละทิศละทาง บางคนรัฐบาลคอนโทรลไม่ได้ ค้านการดำเนินการของรัฐบาลบางเรื่องหลังชนฝา อย่างเรื่องปฏิรูปพลังงาน ที่รัฐบาลยังไม่กล้าผลีผลาม ก็เพราะ สปช.บางคนตั้งหลักแน่นไม่ยอมให้เปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 ง่ายๆ จนหลายคนในรัฐบาลหงุดหงิดใจ เก็บอาการแทบไม่อยู่ เฉกเช่นเดียวกับเรื่องปฏิรูปตำรวจ ที่รัฐบาลจะผลักไสไปให้รัฐบาลชุดหน้า แต่ สปช. บางคนก็หัวฟัดหัวเหวี่ยง 
                      
เหตุผลสั้นๆ ของรัฐบาลในการตั้งสภาขับเคลื่อนปฏิรูปมีแค่อย่างเดียว คือ ต้องการเลือกเฉพาะคนที่คอนโทรลได้ ซ้ายหัน ขวาหัน ไม่มีแตกแถว คอยเป็นหุ่นเชิดเรื่องการปฏิรูป เล่นตามบทที่รัฐบาลอยากให้เล่น จะกำหนดหัวข้ออะไร หรือเรื่องอะไรที่จะปฏิรูป เดี๋ยวส่งสัญญาณเป็นการภายในเอง ไม่ต้องมาโชว์เหนือ เอาที่ว่านอนสอนง่าย เชิดไปไหนให้ไปทางนั้น เท่านี้คุณสมบัติผ่านฉลุย พะยี่ห้อ คสช. รับประกัน

ที่ระบุสวยหรูว่า จะเปิดอ้ารับสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และบ้านเลขที่ 109 มาอยู่ในองคาพยพ ก็เป็นเพียงการแสดงให้เห็นถึงความใจกว้าง ไม่มีอคติ เปิดไปอย่างนั้น แต่ความเป็นจริงรู้อยู่เต็มอก ต่อให้จ้างให้มา เขายังไม่มากันเลย พวกพรรคเพื่อไทยไม่มีใครอยากร่วมหอลงโรง ขึ้นชื่อว่ารับใช้เผด็จการแน่ ยกเว้นพวกปลาไหล ที่อยู่ทางไหนก็ได้ ขอให้มีอำนาจ อาจจะเห็นโผล่มาคนสองคน เหมือนกับเวที สปช. ที่คละเคล้านักการเมืองมาให้ดูเสถียร ไม่น่าเกลียดเกินไป แต่ก็เป็นพวกแถวสอง แถวสาม ไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไร
               
          ลักษณะสภาขับเคลื่อนปฏิรูปไปๆ มาๆ จะยิ่งกว่าสภาหุ่นเชิด สภาผัว-เมียเสียอีก เพราะไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจชอบ ต้องรอใบสั่ง ต่อให้คัดค้านก็ทำได้เพียงค้านในใจ เกเรขึ้นมาเมื่อไหร่ถูกปลดกะทันหันกลางอากาศโดยไม่รู้ตัว อย่าลืมว่า “บิ๊กตู่”มีอำนาจเต็มในการจะแต่งตั้ง หรือเขี่ยใครออกก็ได้ ชนิดได้ทุกที่ ทุกเวลา

อีกทั้งฟันธงไปเลยว่า ครึ่งหนึ่งของสภาขับเคลื่อนปฏิรูป จะเป็นพวกหน้าเก่าที่เห็นหน้าสลอนกันอยู่ใน สปช. เพราะทรัพยากรของฝั่งตัวเองเหลือน้อยนิด คงเอาคนอื่นๆ หน้าใหม่ๆ มาเติมได้กันไม่กี่คน

โมเดลจะคล้ายๆ กับ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ นั่นแหละ เบื้องหน้าร่างรัฐธรรมนูญออกมาสุดโต่ง จนท่านผู้ชมอินตาม นึกว่างัดข้อกับรัฐบาลหนักหน่วง จนไม่สามารถจะคอนโทรลตามที่ต้องการได้
                
         ที่ไหนได้ เป็นแค่ปาหี่ฉากหนึ่ง ข้างหลังม่านเขาก็คุยกันไม่มีปัญหาอะไร !!!