ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -จะเป็นเรื่องบังเอิญหรือไรก็ช่าง แต่คำตัดสินของศาลปกครอง กรณี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล ผบช.น. ฟ้องคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติไม่ให้สิทธิการนับระยะเวลาปฏิบัติงานเป็นทวีคูณของข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จนเป็นเหตุให้“บิ๊กปู”ได้รับความเดือดร้อน เสียหาย โดยเฉพาะการเจริญก้าวหน้าในราชการ มาตัดสินกันในช่วงใก้ลฤดูแต่งตั้งโยกย้าย
รายละเอียดเป็นอย่างไร เชื่อว่าสังคมคงทราบกันดีอยู่แล้ว ส่วนจะพอใจ ไม่พอใจ หรือขัดข้องประการใด แล้วแต่ปัจเจกแต่คนที่ดีใจ พอใจน่าจะเป็นคนรอบๆตัวที่สนับสนุน พล.ต.ท.ศรีวราห์ ยิ่งเป็นเจ้าตัวก็คงไม่ต้องพูดถึง ป่านนี้คงนัดเลี้ยงฉลองใหญ่โตกันแล้ว
ตอนท้ายของคำสั่งศาลปกครองระบุด้วยว่า เมื่อพิพากษาให้ถอนมติ ก.ตร. ดังกล่าวแล้ว ต่อไปคือให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เยียวยาโดยปฏิบัติต่อสิทธิของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ที่พึงมีพึงได้ตามที่กฎหมายกำหนด
บรรยากาศเซ็งๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีแต่เรื่องย้ายๆๆ และแพล่มๆๆ อีกทั้งโฟกัสของสังคมตำรวจ ยังให้ความสำคัญแต่บุคคลที่จะมาเป็น"ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ" คนใหม่ ซึ่งทุกสำนักสื่อต่างให้น้ำหนักไปที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ฝ่ายกฎหมาย และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง
แต่เมื่อมีคำตัดสินของศาลปกครอง ออกมาเช่นนี้ สายตาทุกคู่ก็ต้องมองไปยังคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. รวมทั้งท่าทีของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. ว่าจะจัดการเยียวยา คืนสิทธิ์อันชอบธรรม เหมาะสมกับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้ขนาดไหน คงไม่ขึ้นกับความต้องการของ “บิ๊กปู”เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งหากย้อนอดีตไปในช่วงปี 2553 มีการแต่งตั้ง พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ศรีวาห์ รังสิพราหมกุล ก็ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1
“ธง”ของ “บิ๊กปู” จึงน่าจะอยู่ตรงนี้
“แป๊ะ”ขึ้นเป็นผู้บัญชาการ พร้อมกับตัววันนี้เลื่อนชั้นได้เป็น รอง ผบ.ตร. “ปู”ก็น่าจะกระโดดค้ำถ่อได้รับการเยียวยาให้มานั่งเป็น รอง ผบ.ตร. กับเขาบ้าง ส่วนคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. จะเอายังไง จะยอมตามนั้นหรือไม่ ก็คงเป็นเรื่องถกเถียง เป็นเรื่องของกฎ กติกาที่จะต้องว่ากันต่อไป เพราะทุกอย่างต้องขึ้นกับการตัดสินใจของคณะกรรมการฯ ฝ่ายผู้ถูกคืนสิทธิ ก็คงชี้นิ้วสั่งเอาตามใจชอบไม่ได้ แม้ทราบกันดีว่า พล.ต.ท.ศรีวราห์ จะเป็นตำรวจที่ทหารไว้วางใจ โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม แต่เรื่องนี้เป็น
เรื่องใหญ่ และมีความละเอียดอ่อน มีผลต่อความรู้สึกของข้าราชการตำรวจทุกนาย
สำคัญที่สุดคือ หลักนิติรัฐ นิติธรรม
ตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคมตำรวจมากมาย และกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยการนำของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล ก็มีเรื่องต่างๆ ทั้งเป็นผลงาน และเข้าข่ายบกพร่องหลายต่อหลายเรื่อง
ที่โด่งดังจนเกิดเป็นรอยร้าวระหว่าง “บิ๊กอ๊อด”กับ “บิ๊กปู”ก็คือ กรณีบ่อนเตาปูน
หรือเหตุการณ์ทหารบุกเข้าล็อกตัวกลุ่มชาวอิสราเอล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขายเครื่องดักฟัง ระหว่างการสาธิตในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งการบุกจับสถานบริการย่านทองหล่อ ซึ่งมีเบื้องหน้าเบื้องหลังทราบในกลุ่มตำรวจระดับปฏิบัติงาน และนักข่าวสายอาชญากรรม ว่า เป็นความขัดแย้งระหว่าง"เก่งเล็ก"กับ"เก่งใหญ่"
นอกจากนั้น ยังมีเรื่องส่วยโฆษณาจอแอลอีดี ที่ตำรวจส่วนหนึ่งมองเห็นว่า วิธีปฏิบัติของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ เสมือนการกลั่นแกล้งกัน ทุกวันนี้ยังคงเห็นป้ายโฆษณาตามป้อมตำรวจในพื้นที่ กทม.หลายแห่ง ซึ่งในเรื่องเดียวกันนี้ยังลุกลามไปถึงเงินส่วย 4 ล้านบาท ที่เกี่ยวข้องกับ อดีต ผบช.น.รายหนึ่ง
ทุกความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ด้านหนึ่งแม้จะเป็นการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ แต่เบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นอย่างไรนั้น ย่อมมีคนถูกใจและไม่ถูกใจเสมอ และถ้า“กรรม”คือแห่งการกระทำก็ถึงเวลาพิสูจน์ของ“บิ๊กปู” ที่จะต้องฝ่าด่านนี้ไปให้ได้
หลบฉากจากประเด็นเยียวยา“ศรีวราห์”นาทีนี้ถ้าไม่พูดถึงว่าที่ “ผู้บัญชาการสำนักตำรวจแห่งชาติ”ก็คงกระไรอยู่ ยิ่งวันก่อน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฯ ออกมาประกาศคุณสมบัติของ ผบ.ตร.คนใหม่ บรรดากองเชียร์ทั้งหลายต่างตีความเข้าข้างตัวเองเป็นที่ครึกครื้นไปทั้งกรมปทุมวัน
คำสัมภาษณ์ถอดรหัสได้ว่า ผู้จะเป็นผบ.ตร. คนต่อไป ต้องมีคุณสมบัติตามสเปกรัฐบาลทหาร ดังนี้ 1. มีความรู้ความสามารถ 2. อาวุโส 3. มีความเหมาะสม 4. เป็นที่ยอมรับขององค์กร 5. ทำงานกับรัฐบาลได้ โดยเฉพาะเรื่องความสงบเรียบร้อย 6. ต้องเป็นคนดี
เฉพาะข้อสุดท้ายคุณสมบัติ ว่าที่ ผบ.ตร. คนต่อจากบิ๊กอ๊อด จะต้องเป็นคนดีนั้น พล.อ.ประวิตร ขยายความว่า ในฐานะเป็นคนคุมนโยบายถ้า"สมยศ" เลือกคนไม่ดี คณะกรรมการก็จะไม่เลือก ต้องเลือกกันใหม่ แต่ตนไม่เกี่ยวข้องเพราะไม่มีใครสั่ง“สมยศ”ได้ ขอยืนยันว่า จะไม่มีการใช้อำนาจแทรกแซง
อ่านคุณสมบัติว่าที่ ผบ.ตร.คนใหม่ครบทุกข้อพร้อมพิจารณาคำพูดของ “บิ๊กป้อม” คงต้องยืมสำนวน นายชูวิทย์ กมลวิสิษฐ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ว่า ถ้าเชื่อให้ออกลูกเป็นลิง เพราะถ้าตีความจริงๆ ก็คือ “สมยศ”จะต้องส่งรายชื่อคนที่รัฐบาลทหารถูกใจ ให้กับคณะกรรมการเพียงสถานเดียว ไม่งั้นจะถูกตีตกด้วยข้อหา เป็นคนไม่ดี ดังนั้น “คนดี” ตามความหมายของ พล.อ.ประวิตร ก็น่าจะหมายตามคุณสมบัติทั้ง 6 ข้อ โดยมีดอกจันทร์เป็นที่สังเกตว่า “ทหาร”จะต้องเห็นชอบด้วย จึงจะเป็นอันยุติ
คราวนี้ลองมาไล่รายชื่อกันบ้าง บุคคลแรกที่ถือเป็นเต็ง 1 สลับ 2 ก็คือ พล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายกฏหมาย เจ้าของผลงานปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ ว่ากันว่าเข้าตา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นที่สุด ลำดับต่อไป “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง เจ้าของฉายามือประสาน 10 ทิศ ผลงานมากมายเช่น คดีเกาะเต่า คดีฆ่าพระหมอ จ.อุดรธานี คดีคาร์บอมบ์ เกาะสมุย รายนี้ “บิ๊กป้อม”ส่งประกวด ลำดับ 3 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. นรต.รุ่น 31 เพื่อนซี้ ผบ.ตร. ข่าวแว่วว่า “บิ๊กอ๊อด”
จะออกแรงส่งเข้าชิงตำแหน่งเอง
แต่ทั้งหลายทั้งปวง อย่ามองข้าม พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อาเซียน (AEC)อย่างเด็ดขาด ผลงานต่างๆ ที่สะสมมาเรื่อยๆ เหมือนนักมวยเชิงดี เย็บซ้ายแย็บขวาเข้าตากรรมการดีเหลือเกิน ยิ่งปลายปีนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน บทบาทหน้าที่ ความสำคัญระดับอินเตอร์ บุคลากรระดับสมองมีความจำเป็นสำหรับรัฐบาลไทยอย่างแน่นอน
เส้นทางของ“บิ๊กวุฒิ”ไม่ธรรมดาเช่นกัน ผ่านงานมาทั้งสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานปราบปรามยาเสพติด ผลงานรับผิดชอบดูแลด้านจราจร เป็นเจ้าของไอเดีย 5 จอม ฮือฮาทั้งแผ่นดินมาแล้ว
อีกทั้งมีพี่ชายชื่อ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นักการเมืองดัง ถือเป็นมือประสานทุกขั้วการเมืองอย่างแท้จริง“คอนเน็กชัน”ของพี่ชาย ผสมคุณสมบัติต่างๆ ของน้องก็ขอเตือนตัวเก็งทั้งหลายให้คอยระวัง “ตาอยู่” ไว้ด้วย
ล่าสุดในวงสนทนาเบิร์ธเดย์ “พี่เล็ก” พล.ต.อ.อัยยรัช เวสสะโกศล อดีตนายตำรวจคนดัง ที่บ้านพักฟาร์มโชคชัย มีคนหูดี “คิดดัง”ให้ช่วยกระจายข่าวว่า “บิ๊กวุฒิ” คือตัวเลือก และเป็นทางออกกับสถานการณ์ตำรวจในปัจจุบันจริงๆ เหตุเพราะความขัดแย้งแก่งแย่งกันสูง ที่สำคัญ“บิ๊กปู” เด็กในบ้านฟาร์มโชคชัย ก็เกิดเหยียบตาปลากับใครต่อใครหลายคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนอาจเกิดอุปสรรคต่อการเยียวยาไปสู่จุดหมายปลายทางของ “บิ๊กปู”
ยุทธศาสตร์ชิงไหวชิงพริบ หักเล่ห์ ซ่อนเหลี่ยม ไม่ว่าจะแพรวพราวขนาดไหน แต่สิ่งเดียวที่ดำรงไว้ในองค์กรนี้อย่างเหนียวแน่นก็คือ “ผลประโยชน์” ขาดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว