xs
xsm
sm
md
lg

มหัศจรรย์หลังการดอง ผิวหนัง"หลวงพ่อคูณ"เป็นสีชมพู ย้ำวัดบ้านไร่2แจงบัญชี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ มข. ยันผิวหนัง “หลวงพ่อคูณ” เป็นสีชมพูจริง หลังผ่านการดอง ชี้เป็นเรื่องปกติ วอนประชาชนอย่าแตกตื่น ยันไม่เผยแพร่ภาพแน่นอน ด้านเจ้าคณะจังหวัดชี้ต้องให้เวลากรรมการวัดชุดเก่าตรวจสอบทรัพย์สินทุกรายการ หากไม่ตรงความจริงชาวบ้านจะแฉเอง ผอ.สำนักพุทธ ระบุสร้างวัดบ้านไร่ 2 อ.วังน้ำเขียว หากเป็นเงินที่หลวงพ่อคูณบริจาคต้องมีบัญชีมาแสดงด้วย

รศ.ยรรยง ทุมแสน หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวสรีระสังขารของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีชมพูหลังจากนำไปเข้ากระบวนการดองสรีระสังขารเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ภาควิชากายวิภาคศาสตร์เป็นผู้ดูแลกระบวนการดองสรีระสังขาร โดยขอยืนยันว่าเปลี่ยนเป็นสีชมพูจริง แต่ถือเป็นเรื่องปกติที่สีผิวหนังจะมีสีเขียว น้ำตาล ดำ หรือสีชมพู ขึ้นอยู่กับว่าช่วงที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้น มีการสะสมสารพิษหรือสารต่างๆ ในร่างกายหรือไม่

"สรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ทางภาควิชากายวิภาคศาสตร์ยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติ ประชาชนอย่าได้แตกตื่นกับข่าวเรื่องสีผิว และทางภาควิชาจะไม่เผยแพร่ภาพอย่างแน่นอน"

ขณะเดียวกัน บรรยากาศที่บริเวณชั้นล่างอาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. ยังคงมีประชาชนเดินทางมากราบภาพหลวงพ่อคูณอย่างต่อเนื่อง โดยทาง มข. จัดดอกบัวให้บริการประชาชนเช่นเดิม พร้อมนำตู้บริจาคให้ประชาชนร่วมสมทบกองทุนหลวงพ่อคูณเพื่อรักษาพระภิกษุอาพาธในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ด้วย

ด้านรศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดี มข. กล่าวถึงภาพรวมการจัดงานบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงพ่อคูณว่า ประสบผลสำเร็จน่าพอใจ ยอดเงินบริจาคขณะนี้ 51 ล้านบาทเศษ ค่าใช้จ่ายตลอดงานประมาณ 6.6 ล้านบาทเศษ ตั้งแต่วันที่ 16-24 พ.ค.2558 รวม 9 วัน 8 คืน มีประชาชนร่วมงานประมาณ 2 ล้านคน

พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงการตรวจสอบทรัพย์สินของหลวงพ่อคูณและวัดบ้านไร่ ว่า คณะทำงานมีเวลา 30 วัน ในการค้นหาหลักฐาน แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่าย ใครทำงานอะไรที่ไหน ก็ให้เอาเอกสารมาแสดง ซึ่งเรื่องนี้ขอยืนยันว่าไม่มีการจับผิด แต่รายงานที่ส่งมาจะผิดจากความจริงหรือไม่ ก็ต้องคอยดูกระแสชาวบ้าน เพราะเขาเคยเห็นสิ่งของทรัพย์สินต่างๆ หากไม่ตรงก็คงให้ข้อมูลมา ตรงนี้จะค่อยๆ โผล่ออกมา ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นพิรุธ ก็ถือว่าทุกอย่างเรียบร้อย หากว่ามีอะไรผิดปกติ เราก็ต้องให้ซักฟอกตัวเอง ซึ่งต้องให้เวลากรรมการวัดชุดเดิม ไม่ได้ไปเร่งรัด ถือว่าเราถนอมน้ำใจกัน

ด้านนายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผู้อำนวยการพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) นครราชสีมา และรองประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ เป็นตัวกลางในการรับรายงานทรัพย์สิน และผ่องถ่ายทรัพย์สินที่รับมาให้แก่กรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่ ไม่มีเจตนาและไม่ได้ตั้งใจว่าการตรวจสอบจะไปบ่อนทำลายกรรมการชุดเดิม ซึ่งกรรมการวัดชุดเดิมทำงานในวัดมาหลายสิบปี ทรัพย์สินของวัดมีหลายพันชิ้นหลายพันรายการ การที่จะตรวจนับไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องให้เวลาและโอกาสกรรมการ เพราะทุกอย่างต้องสามารถสรุปให้สาธารณชนรับรู้ได้ว่าทรัพย์สินแต่ละประเภทมีจำนวนกี่ชิ้น เสื่อมสภาพไปกี่ชิ้น สูญหายไปกี่ชิ้น กรรมการไม่สามารถติดตามได้อะไรบ้าง ถ้ามีสิ่งของสูญหายบางทีก็ยากแก่การติดตาม ดังนั้นสาธารณชนต้องเปิดใจตรงนี้ด้วย

“ส่วนตัวไม่ต้องการให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีมลทิน เพราะรับใช้วัดมานาน แต่บั้นปลายชีวิตกลับมามีมลทินเกี่ยวกับเรื่องสิ่งของของวัดที่เสียหาย ซึ่งผมได้ฝากกรรมการวัดว่าต้องติดตามมา และต้องบันทึกรายการทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด และต้องมีความบริสุทธิ์ใจให้มากที่สุด หลังจากกระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้น คณะกรรมการจะรายงานสรุปให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และคณะสงฆ์จังหวัดนครราชสีมารับทราบ”

นายบัญชายุทธ กล่าวว่า กรณีการก่อสร้างวัดบ้านไร่ 2 ที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ต้องขอดูรายละเอียดที่ทางคณะกรรมการวัดบ้านไร่ชุดเก่าชี้แจงมาก่อน เพราะหากเป็นเงินที่หลวงพ่อคูณบริจาคไปเพื่อให้สร้างวัดก็หลุดไป แต่ต้องมีบัญชีที่แสดงว่าท่านได้บริจาคให้วัดด้วย ซึ่งตอนนี้ไม่อยากไปกดดัน หรือเปิดประเด็นใหม่ให้คณะกรรมการที่กำลังตรวจสอบได้ทำงานเพิ่มขึ้น ส่วนผลการตรวจสอบทรัพย์สิน จะติดประกาศไว้ให้สาธารณชนได้รับทราบ หากใครเห็นว่ารายการใดไม่ถูกต้องหรือขาดหายไปก็สามารถร้องคัดค้านได้

สำหรับการก่อสร้างวัดบ้านไร่ 2 รับผิดชอบโดย พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ อดีตประธานคณะกรรมการวัดบ้านไร่ ซึ่งนำเงินจากการเซ็นอนุมัติใบอนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลของวัดบ้านไร่ ที่วัดต่างๆ หรือบุคคลมาขอจัดสร้าง และเงินบริจาคของหลวงพ่อคูณ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ใช้เงินแล้วกว่า 90 ล้านบาท

ด้านพล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ว่า เบื้องต้นปล่อยให้เป็นเรื่องของทางวัดก่อน ในส่วนของตำรวจได้แต่จัดกำลังเข้าดูแลความสงบเรียบร้อยที่วัด และติดตามความเคลื่อนไหวภายในว่ามีความขัดแย้งอะไรหรือไม่ แต่ที่ผ่านมายังไม่พบ ซึ่งตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลือ หากมีการร้องขอเข้ามา
กำลังโหลดความคิดเห็น