ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เจ้าคณะจังหวัดชี้ต้องให้เวลากรรมการวัดบ้านไร่ชุดเก่าตรวจสอบทรัพย์สินทุกรายการ หากไม่ตรงความจริงชาวบ้านจะแฉเอง ยันไม่ใช่จับผิด ด้าน ผอ.สำนักพุทธสั่งให้ตามทรัพย์สินมาให้ได้มากที่สุด ระบุสร้างวัดบ้านไร่ 2 ที่วังน้ำเขียว หากเป็นเงินที่หลวงพ่อคูณบริจาคก็ต้องมีบัญชีแสดงด้วย
วันนี้ (28 พ.ค.) พระราชวิมลโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงการตรวจสอบทรัพย์สินของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ว่าให้เวลาคณะทำงาน ทราบว่ามีเวลา 30 วันในการค้นคว้าหาหลักฐานต่างๆ มาแสดง แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่าย ใครทำงานอะไรที่ไหนก็ให้เอาเอกสารมาแสดง ขอยืนยันว่าไม่มีเรื่องการจับผิด แต่การรายงานจะผิดจากความจริงหรือไม่ก็คอยดูกระแสชาวบ้าน เพราะเขาเคยเห็นสิ่งของทรัพย์สินก็คงให้ข้อมูลมา ตรงนี้มันจะค่อยๆ โผล่ออกมา ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นพิรุธก็ถือว่าทุกอย่างเรียบร้อย หากว่ามีอะไรผิดปกติเราก็ต้องให้เขาซักฟอกตัวเอง ซึ่งต้องให้เวลากรรมการวัดชุดเดิม ไม่ได้ไปเร่งรัด ถือว่าเราถนอมน้ำใจกัน
ด้านนายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผู้อำนวยการพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) นครราชสีมา และรองประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้เป็นตัวกลางในการรับรายงานทรัพย์สินและผ่องถ่ายทรัพย์สินที่รับมาให้แก่กรรมการวัดบ้านไร่ชุดใหม่ ไม่มีเจตนาและไม่ได้ตั้งใจว่าการตรวจสอบจะไปบ่อนทำลายกรรมการชุดเดิม ซึ่งกรรมการวัดชุดเดิมทำงานในวัดมาหลายสิบปี ทรัพย์สินของวัดมีหลายพันชิ้นหลายพันรายการ การที่จะตรวจนับไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องให้เวลาและโอกาสกรรมการ เพราะทุกอย่างต้องสามารถสรุปให้สาธารณชนรับรู้ได้ว่า ทรัพย์สินแต่ละประเภทมีจำนวนกี่ชิ้น เสื่อมสภาพไปกี่ชิ้น สูญหายไปกี่ชิ้น กรรมการไม่สามารถจะติดตามได้อะไรบ้าง ถ้ามีสิ่งของสูญหายบางทีก็ยากแก่การติดตาม ฉะนั้นสาธารณชนต้องเปิดใจตรงนี้ด้วย
ส่วนตัวไม่ต้องการให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีมลทินกับการที่รับใช้วัดมานาน แต่บั้นปลายชีวิตกลับมามีมลทินเกี่ยวกับเรื่องสิ่งของของวัดที่เสียหาย ซึ่งตนได้ฝากกรรมการวัดว่าต้องติดตามมาและต้องบันทึกทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด และต้องมีความบริสุทธิ์ใจให้มากที่สุด หลังจากกระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้นคณะกรรมการจะรายงานสรุปให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และคณะสงฆ์จังหวัดนครราชสีมา รับทราบด้วย
นายบัญชายุทธกล่าวว่า กรณีการก่อสร้างวัดบ้านไร่ 2 ที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ขอดูรายละเอียดที่ทางคณะกรรมการวัดบ้านไร่ชุดเก่าชี้แจงมาก่อน เพราะหากเป็นเงินที่หลวงพ่อคูณบริจาคไปเพื่อให้สร้างวัดก็หลุดไป แต่ทั้งนี้ต้องมีบัญชีที่แสดงว่าท่านได้บริจาคให้วัดด้วย ซึ่งตอนนี้ไม่อยากไปกดดัน หรือเปิดประเด็นใหม่ให้คณะกรรมการที่กำลังตรวจสอบได้ทำงานเพิ่มขึ้น
สำหรับผลการตรวจสอบทรัพย์สินทุกอย่างจะติดประกาศไว้ให้สาธารณชนได้รับทราบอยู่แล้ว หากใครเห็นว่ารายการใดไม่ถูกต้องหรือขาดหายไปก็สามารถร้องคัดค้านได้
สำหรับการก่อสร้างวัดบ้านไร่ 2 รับผิดชอบโดย พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ อดีตประธานคณะกรรมการวัดบ้านไร่ ซึ่งนำเงินจากการเซ็นอนุมัติใบอนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลของวัดบ้านไร่ ที่วัดต่างๆ หรือบุคคลมาขอจัดสร้าง และเงินบริจาคของหลวงพ่อคูณ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ใช้เงินแล้วกว่า 90 ล้านบาท
