ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผอ.พุทธศาสนา ย้ำปิดประตูวัดบ้านไร่ทุกบานเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินอย่างละเอียด ระบุตามกฎหมายวัดต้องทำบัญชี 2 เล่มไม่รวมบัญชีเงินสด ชี้หนี้สินของวัดต้องมารายงานทั้งหมด เผยช่วงหลวงพ่อคูณมรภาพต้องสอบว่ามีการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินออกจากวัดหรือไม่ กรรมการวัดชุดเก่าต้องแจงให้ได้ เชื่อบารมี "พ่อคูณ" ทำให้ทุกอย่างราบรื่น ให้เวลา 1 ปี "พระนุช" พิสูจน์ฝีมือรักษาการเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เจ้าคณะตำบลกุดพิมายอ้างแต่งตั้งพระนุช 4 โมงเย็นวันหลวงพ่อคูณมรณภาพไม่เร็วเกินไป ยันทุกอย่างไปเป็นตามระเบียบของเถรสมาคม การันตีรักษาการฯ คนใหม่ไม่ด่างพร้อย ซ้ำไม่ใช่พระอื่นไกลมีใบสุทธิอยู่วัดบ้านไร่
วานนี้ (26 พ.ค.) นายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผู้อำนวยการพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา รองประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินพระเทพวิทยาคมและวัดบ้านไร่ เปิดเผยถึงการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมาว่า ขณะนี้ต้องให้เวลารักษาการไวยาวัจกรวัดบ้านไร่และคณะกรรมการวัดบ้านไร่ได้รวบรวมข้อมูลทรัพย์สินทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อน โดยทรัพย์สินของวัดนั้น ตามกฎกระทรวง หมายถึงที่ดินอาคาร เงินทอง วัตถุสิ่งของมีค่าทุกสิ่งทุกอย่างอันได้มาเป็นสมบัติของวัด
รวมไปถึงสิ่งของเบ็ดเตล็ดเล็กน้อย หรือสิ่งของชั่วคราว (เจ้าอาวาสพิจารณาตามสมควร) และวัดต้องมีทะเบียนทรัพย์สินอย่างน้อย 2 เล่ม (ไม่รวมบัญชีเงินสด) สิ่งนั้นก็คือทะเบียนสังหาริมทรัพย์สำหรับจดหรือของที่เคลื่อนที่ได้ ได้แก่สิ่งของมีค่า โบราณวัตถุ เครื่องไฟฟ้า เครื่องใช้ เครื่องดนตรี ยานพาหนะ เครื่องใช้เบ็ดเตล็ดเป็นต้น และทะเบียนอสังหาริมทรัพย์สำหรับจด หรือสิ่งของที่เคลื่อนที่ไม่ได้ เช่นที่ดิน คือที่ตั้งวัดและที่ธรณีสงฆ์ โดยมีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นหลักฐาน และสิ่งปลูกสร้างเช่นโบสถ์วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิ หอฉัน เป็นต้น เหล่านี้คือทรัพย์สินของวัด
ส่วนรายการหนี้สินของวัดจะต้องนำมารายงานในบัญชีของวัดด้วย เพราะการทำบัญชีต้องมีทรัพย์สิน หนี้สินเพื่อหักลบกัน จะได้จำนวนสุทธิที่เหลืออยู่ ซึ่งข้อสรุปของบัญชีเหล่านี้จะได้ส่งต่อให้คณะกรรมการวัดชุดใหม่ที่จะเข้ามาดำเนินการได้รับทราบและหากมีหนี้สินก็ต้องชำระต่อไป ซึ่งเมื่อมีการผ่องถ่ายทรัพย์สินต่างๆ กันมาแล้วก็รับช่วงต่อไป เช่น หากวิหารเทพวิทยาคม มีหนี้ก็ต้องมาหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร
"ทั้งนี้ ด้วยบารมีของพระเทพวิทยาคม เชื่อว่าการตรวจสอบรายการทรัพย์สินครั้งนี้รวมถึงการรับช่วงต่อไประหว่างไวยาวัจกรชุดเดิมกับชุดใหม่นั้นหวังว่าจะเป็นไปด้วยความราบรื่นเพื่อความเป็นศาสนาของเราและความเป็นสาธารณะของหลวงพ่อคูณ คุณูปการที่หลวงพ่อคูณมีอยู่ ลูกศิษย์คงกลับไปหาทรัพย์สินรายการต่างๆ ได้ครบ และกรรมการวัดชุดใหม่รับต่อด้วยความยินดี พระศาสนาและวัดบ้านไร่ ก็จะเป็นที่เชื่อถือของลูกศิษย์ต่อไป"
สำหรับการดูแลทรัพย์สินในช่วงที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านของกรรมการวัดบ้านไร่ชุดเก่าไปสู่ชุดใหม่นั้น นายบุญชายุทธ กล่าวว่า โดยปกติเมื่อเจ้าอาวาสมรณภาพ ก็จะต้องปิดล็อกประตูทุกบาน เงินต่างๆ ก็จะไม่มีการเคลื่อนไหว แต่ในความเป็นจริงช่วงที่หลวงพ่อคูณมรณภาพจนถึงวันที่นัดประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ คือเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวโยกย้ายทรัพย์สินหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ
"ในประเด็นนี้ไวยาวัจกรวัดและกรรมการวัดจะต้องชี้แจงเอง เช่น อาจเบิกมาใช้จัดการงานศพของท่าน ถ้าเป็นเหตุเป็นผลก็จบ แต่หากเบิกออกมาเพื่อไปทำสิ่งก่อสร้างคงต้องชี้แจงว่าสมเหตุผลหรือไม่ แต่จากนี้ไปจะต้องปิดล็อกประตูไว้ทุกบานเพื่อให้ผู้ที่คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ มอบหมาย จะได้เข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด" นายบุญชายุทธ กล่าว
**ให้1ปีพระนุชพิสูจน์ฝีมือปกครองวัดบ้านไร่
วันเดียวกันที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พระครูพีรเดชธำรง เจ้าคณะตำบลกุดพิมาน ชี้แจงกรณีการแต่งตั้งพระภาวนาประชานาถ (นุช รัตนวิชโย) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายถึงไม่ความเหมาะสมว่า การแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสนั้นกฎของสงฆ์จะแต่งตั้งเมื่อเจ้าอาวาสว่างลง โดยมีวาระ 1 ปี แต่อยู่ที่ความเหมาะสมของฝ่ายคณะสงฆ์ที่ดูแลอยู่ด้วย ส่วนการแต่งตั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนั้นจะเร็วหรือช้า บางวัดเพื่อความเรียบร้อยก็อาจจะไม่ถึง 1 ปี แต่บางแห่งอาจจะรักษาการไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในเวลานั้นและอยู่ที่ความประพฤติและอยู่ที่เสียงของประชาชนและเสียงของหมู่คณะสงฆ์ด้วย
สำหรับการพิจารณาแต่งตั้ง พระนุช มาเป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่นั้น ตนพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสม โดยดูจากการที่ชุมชนเสนอขึ้นมา แต่ทั้งนี้ก็พิจารณาดูพระในวัดบ้านไร่ก่อนว่ามีจำนวนพรรษาได้ตามข้อกำหนดหรือไม่ ซึ่งพระลูกวัดบ้านไร่มีพรรษาแค่ 3 พรรษาเท่านั้น แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวคนในชุมชนเสนอพระนุช ขึ้นมาก็พิจารณาว่าเหมาะหรือไม่ ทั้งเรื่องการประพฤติ หรือในสมณะของท่านในที่นี้ก็ไม่มีอะไรด่างพร้อย
"อีกทั้ง พระภาวนาประชานารถ เอง ก็มีใบสุทธิบัตรอยู่ที่วัดบ้านไร่เพียงแต่ที่ผ่านมาไปจำพรรษาที่วัดอื่นเท่านั้น ส่วนระยะเวลารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่นั้นอยู่ที่ความเหมาะสมยังบอกไม่ได้ในตอนนี้ว่าจะนานแค่ไหน" เจ้าคณะตำบลกุดพิมาน กล่าว
**อ้างตั้ง 4 โมงเย็นวันพ่อคูณมรณภาพไม่เร็ว
ส่วนการแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ดำเนินการเร็วเกินไปหรือไม่เหมือนมีการเตรียมการไว้ก่อนที่หลวงพ่อคูณจะมรณภาพนั้น พระครูพีรเดชธำรง กล่าวว่า เร็วหรือไม่เร็วนั้นต้องไปดูกฎการแต่งตั้งรักษาการ ซึ่งคำว่าเมื่อเจ้าอาวาสวัดว่างลงก็ต้องแต่งตั้งรักษาการขึ้นมาทันทีเพื่อความคล่องตัวของการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ซึ่งก็ไม่ถือว่าเร็วหากเทียบกับทุกวัด ทุกที่ก็เป็นอย่างนี้ และการประชุมแต่งตั้งก็มีทุกที่ เพียงแต่จะมอบวันไหนเท่านั้นเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติชุมชนและวัดไม่ได้เดือดร้อน
สำหรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ การแต่งตั้งไม่ได้อยู่ในอำนาจของตนเพราะต้องให้เจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด ประชุมขอมติความเห็นชอบและเสนอไปยังเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา อย่างไรก็ตาม ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไม่จำเป็นว่าจะต้องได้เป็นเจ้าอาวาสวัดเสมอไป แต่ส่วนใหญ่พิจารณาเห็นควรแล้วก็มักจะเสนอรูปนั้นไป
"ขอยืนยันการแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่นั้น ทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาเถรสมาคมที่วางไว้ ไม่ได้มีการล็อบบี้หรือรีบร้อนแต่งตั้งเร็วจนเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความเห็นต่างบ้าง แต่ความคิดเห็นคนส่วนใหญ่ในชุมชนนี้เห็นพ้องต้องกัน โดยเมื่อหลวงพ่อคูณได้มรณภาพลง เมื่อเวลา 11.45 น. คณะสงฆ์ก็มีการประชุมเพื่อพิจารณาแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เมื่อ 16.00 น.ของวันที่ท่านมรณภาพที่หอประชุมวัดบ้านไร่" พระครูพีรเดชธำรง กล่าว
**ประชาชนยังทยอยสักการะรูปหลวงพ่อคูณ
ส่วนบรรยากาศที่ชั้น 1 อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ประชาชนพร้อมด้วยบุคลากรมหาวิทยาลัยขอนแก่นจำนวนมาก ทยอยเดินทางมาสักการะรูปพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่คณะแพทยศาสตร์ได้นำดอกบัวจำนวนกว่า 500 ดอกมาให้ประชาชนนำไปสักการะหลวงพ่อคูณ
ขณะเดียวกันก็มีประชาชนทั่วไปนำดอกบัวอีกกว่า 100 ดอก มาร่วมบริจาคสมทบเพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นเครื่องบูชาสักการะหลวงพ่อคูณ ที่สำคัญคณะแพทยศาสตร์ได้จัดการเปลี่ยนรูปหลวงพ่อคูณจากเดิมเป็นรูปขนาดความกว้าง 1 เมตร สูง 1.8 เมตร โดยใช้รูปขนาดใหญ่ขึ้น มีความกว้าง 1.5 เมตร และสูง 2 เมตร ทั้งยังนำตู้บริจาคสมทบกองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เพื่อพระภิกษุสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มาตั้งให้ผู้ศรัทธาร่วมบริจาค หลังจากวานนี้มีผู้บริจาคจำนวนมาก
สำหรับความคืบหน้าในการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อถ่ายทอดที่ตั้งอ่างดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ จากบริเวณชั้นที่ 7 มายังบริเวณชั้นล่างอาคารผู้ป่วยนอก ให้ประชาชนได้เห็นเสมือนได้กราบหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้คณะแพทยศาสตร์อยู่ระหว่างการประสานผู้รับจ้างติดตั้ง คาดว่าจะสามารถติดตั้งได้ภายในสัปดาห์นี้
"เสี่ยใหญ่ร้อยเอ็ด"มอบรูปหล่อหลวงพ่อคูณให้ มข.
วันเดียวกัน ที่อาคารผู้ป่วยนอกชั้นล่าง โรงพยาบาลศรีนครรินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รศ.ดร.วีระ ฤทธิรอด อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มข.ได้เป็นตัวแทนของ ดร.ธีระ ชัยคุณารักษ์กูร ประธานกรรมการ บริษัท ฉั่วจั่วกี่ จำกัด จาก จ.ร้อยเอ็ด ได้มอบรูปหล่อหลวงพ่อคูณ จำนวน 110 องค์ โดยมีหน้าตักขนาด 9 นิ้ว 7 นิ้ว 5 นิ้วให้แก่ รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มข.
รศ.ดร.วีระ กล่าวว่า ในช่วงที่บำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ และพิธีเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มข.ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมากระทั่งได้มีพิธีมอบศพให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. โดยสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ดองอยู่ในอ่างดองที่ตั้งอยู่ชั้น 7 อาคารคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น โดย ดร.ธีระ ชัยคุณารักษ์กูร ได้มากราบไหว้สักการะหลวงพ่อคูณทุกวัน เนื่องจากมีจิตศรัทธาต่อหลวงพ่อคูณ อย่างมาก จึงได้จัดทำรูปหล่อหลวงพ่อคูณ จำนวน 110 องค์มาให้ทางคณะแพทยศาสตร์ และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปมอบแก่ผู้ดำเนินการในพิธีบำเพ็ญกุศล และเคลื่อนย้ายสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมาได้นำไปเคารพบูชากราบไหว้
ด้าน รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ประชาชนที่มากราบไหว้สักการะหลวงพ่อคูณที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มข. ขอความกรุณาแต่งกายให้สุภาพก่อนเข้าบริเวณพิธีกราบไหว้สักการะหลวงพ่อคูณ โดยไม่ใส่กระโปรงสั้น กางเกงขาสั้น และเสื้อเปิดไหล่ พร้อมกันนี้ได้มีผู้นำดอกบัวมาบริจาคที่คณะแพทยศาสตร์ มข.ตลอดเวลา
วานนี้ (26 พ.ค.) นายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผู้อำนวยการพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา รองประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินพระเทพวิทยาคมและวัดบ้านไร่ เปิดเผยถึงการตรวจสอบทรัพย์สินวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมาว่า ขณะนี้ต้องให้เวลารักษาการไวยาวัจกรวัดบ้านไร่และคณะกรรมการวัดบ้านไร่ได้รวบรวมข้อมูลทรัพย์สินทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อน โดยทรัพย์สินของวัดนั้น ตามกฎกระทรวง หมายถึงที่ดินอาคาร เงินทอง วัตถุสิ่งของมีค่าทุกสิ่งทุกอย่างอันได้มาเป็นสมบัติของวัด
รวมไปถึงสิ่งของเบ็ดเตล็ดเล็กน้อย หรือสิ่งของชั่วคราว (เจ้าอาวาสพิจารณาตามสมควร) และวัดต้องมีทะเบียนทรัพย์สินอย่างน้อย 2 เล่ม (ไม่รวมบัญชีเงินสด) สิ่งนั้นก็คือทะเบียนสังหาริมทรัพย์สำหรับจดหรือของที่เคลื่อนที่ได้ ได้แก่สิ่งของมีค่า โบราณวัตถุ เครื่องไฟฟ้า เครื่องใช้ เครื่องดนตรี ยานพาหนะ เครื่องใช้เบ็ดเตล็ดเป็นต้น และทะเบียนอสังหาริมทรัพย์สำหรับจด หรือสิ่งของที่เคลื่อนที่ไม่ได้ เช่นที่ดิน คือที่ตั้งวัดและที่ธรณีสงฆ์ โดยมีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นหลักฐาน และสิ่งปลูกสร้างเช่นโบสถ์วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิ หอฉัน เป็นต้น เหล่านี้คือทรัพย์สินของวัด
ส่วนรายการหนี้สินของวัดจะต้องนำมารายงานในบัญชีของวัดด้วย เพราะการทำบัญชีต้องมีทรัพย์สิน หนี้สินเพื่อหักลบกัน จะได้จำนวนสุทธิที่เหลืออยู่ ซึ่งข้อสรุปของบัญชีเหล่านี้จะได้ส่งต่อให้คณะกรรมการวัดชุดใหม่ที่จะเข้ามาดำเนินการได้รับทราบและหากมีหนี้สินก็ต้องชำระต่อไป ซึ่งเมื่อมีการผ่องถ่ายทรัพย์สินต่างๆ กันมาแล้วก็รับช่วงต่อไป เช่น หากวิหารเทพวิทยาคม มีหนี้ก็ต้องมาหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร
"ทั้งนี้ ด้วยบารมีของพระเทพวิทยาคม เชื่อว่าการตรวจสอบรายการทรัพย์สินครั้งนี้รวมถึงการรับช่วงต่อไประหว่างไวยาวัจกรชุดเดิมกับชุดใหม่นั้นหวังว่าจะเป็นไปด้วยความราบรื่นเพื่อความเป็นศาสนาของเราและความเป็นสาธารณะของหลวงพ่อคูณ คุณูปการที่หลวงพ่อคูณมีอยู่ ลูกศิษย์คงกลับไปหาทรัพย์สินรายการต่างๆ ได้ครบ และกรรมการวัดชุดใหม่รับต่อด้วยความยินดี พระศาสนาและวัดบ้านไร่ ก็จะเป็นที่เชื่อถือของลูกศิษย์ต่อไป"
สำหรับการดูแลทรัพย์สินในช่วงที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านของกรรมการวัดบ้านไร่ชุดเก่าไปสู่ชุดใหม่นั้น นายบุญชายุทธ กล่าวว่า โดยปกติเมื่อเจ้าอาวาสมรณภาพ ก็จะต้องปิดล็อกประตูทุกบาน เงินต่างๆ ก็จะไม่มีการเคลื่อนไหว แต่ในความเป็นจริงช่วงที่หลวงพ่อคูณมรณภาพจนถึงวันที่นัดประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ คือเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวโยกย้ายทรัพย์สินหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ
"ในประเด็นนี้ไวยาวัจกรวัดและกรรมการวัดจะต้องชี้แจงเอง เช่น อาจเบิกมาใช้จัดการงานศพของท่าน ถ้าเป็นเหตุเป็นผลก็จบ แต่หากเบิกออกมาเพื่อไปทำสิ่งก่อสร้างคงต้องชี้แจงว่าสมเหตุผลหรือไม่ แต่จากนี้ไปจะต้องปิดล็อกประตูไว้ทุกบานเพื่อให้ผู้ที่คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ มอบหมาย จะได้เข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด" นายบุญชายุทธ กล่าว
**ให้1ปีพระนุชพิสูจน์ฝีมือปกครองวัดบ้านไร่
วันเดียวกันที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พระครูพีรเดชธำรง เจ้าคณะตำบลกุดพิมาน ชี้แจงกรณีการแต่งตั้งพระภาวนาประชานาถ (นุช รัตนวิชโย) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายถึงไม่ความเหมาะสมว่า การแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสนั้นกฎของสงฆ์จะแต่งตั้งเมื่อเจ้าอาวาสว่างลง โดยมีวาระ 1 ปี แต่อยู่ที่ความเหมาะสมของฝ่ายคณะสงฆ์ที่ดูแลอยู่ด้วย ส่วนการแต่งตั้งตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนั้นจะเร็วหรือช้า บางวัดเพื่อความเรียบร้อยก็อาจจะไม่ถึง 1 ปี แต่บางแห่งอาจจะรักษาการไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในเวลานั้นและอยู่ที่ความประพฤติและอยู่ที่เสียงของประชาชนและเสียงของหมู่คณะสงฆ์ด้วย
สำหรับการพิจารณาแต่งตั้ง พระนุช มาเป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่นั้น ตนพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสม โดยดูจากการที่ชุมชนเสนอขึ้นมา แต่ทั้งนี้ก็พิจารณาดูพระในวัดบ้านไร่ก่อนว่ามีจำนวนพรรษาได้ตามข้อกำหนดหรือไม่ ซึ่งพระลูกวัดบ้านไร่มีพรรษาแค่ 3 พรรษาเท่านั้น แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวคนในชุมชนเสนอพระนุช ขึ้นมาก็พิจารณาว่าเหมาะหรือไม่ ทั้งเรื่องการประพฤติ หรือในสมณะของท่านในที่นี้ก็ไม่มีอะไรด่างพร้อย
"อีกทั้ง พระภาวนาประชานารถ เอง ก็มีใบสุทธิบัตรอยู่ที่วัดบ้านไร่เพียงแต่ที่ผ่านมาไปจำพรรษาที่วัดอื่นเท่านั้น ส่วนระยะเวลารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่นั้นอยู่ที่ความเหมาะสมยังบอกไม่ได้ในตอนนี้ว่าจะนานแค่ไหน" เจ้าคณะตำบลกุดพิมาน กล่าว
**อ้างตั้ง 4 โมงเย็นวันพ่อคูณมรณภาพไม่เร็ว
ส่วนการแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ดำเนินการเร็วเกินไปหรือไม่เหมือนมีการเตรียมการไว้ก่อนที่หลวงพ่อคูณจะมรณภาพนั้น พระครูพีรเดชธำรง กล่าวว่า เร็วหรือไม่เร็วนั้นต้องไปดูกฎการแต่งตั้งรักษาการ ซึ่งคำว่าเมื่อเจ้าอาวาสวัดว่างลงก็ต้องแต่งตั้งรักษาการขึ้นมาทันทีเพื่อความคล่องตัวของการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ซึ่งก็ไม่ถือว่าเร็วหากเทียบกับทุกวัด ทุกที่ก็เป็นอย่างนี้ และการประชุมแต่งตั้งก็มีทุกที่ เพียงแต่จะมอบวันไหนเท่านั้นเอง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติชุมชนและวัดไม่ได้เดือดร้อน
สำหรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ การแต่งตั้งไม่ได้อยู่ในอำนาจของตนเพราะต้องให้เจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด ประชุมขอมติความเห็นชอบและเสนอไปยังเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา อย่างไรก็ตาม ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไม่จำเป็นว่าจะต้องได้เป็นเจ้าอาวาสวัดเสมอไป แต่ส่วนใหญ่พิจารณาเห็นควรแล้วก็มักจะเสนอรูปนั้นไป
"ขอยืนยันการแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่นั้น ทุกขั้นตอนเป็นไปตามมาเถรสมาคมที่วางไว้ ไม่ได้มีการล็อบบี้หรือรีบร้อนแต่งตั้งเร็วจนเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความเห็นต่างบ้าง แต่ความคิดเห็นคนส่วนใหญ่ในชุมชนนี้เห็นพ้องต้องกัน โดยเมื่อหลวงพ่อคูณได้มรณภาพลง เมื่อเวลา 11.45 น. คณะสงฆ์ก็มีการประชุมเพื่อพิจารณาแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เมื่อ 16.00 น.ของวันที่ท่านมรณภาพที่หอประชุมวัดบ้านไร่" พระครูพีรเดชธำรง กล่าว
**ประชาชนยังทยอยสักการะรูปหลวงพ่อคูณ
ส่วนบรรยากาศที่ชั้น 1 อาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ประชาชนพร้อมด้วยบุคลากรมหาวิทยาลัยขอนแก่นจำนวนมาก ทยอยเดินทางมาสักการะรูปพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่คณะแพทยศาสตร์ได้นำดอกบัวจำนวนกว่า 500 ดอกมาให้ประชาชนนำไปสักการะหลวงพ่อคูณ
ขณะเดียวกันก็มีประชาชนทั่วไปนำดอกบัวอีกกว่า 100 ดอก มาร่วมบริจาคสมทบเพื่อให้ประชาชนได้ใช้เป็นเครื่องบูชาสักการะหลวงพ่อคูณ ที่สำคัญคณะแพทยศาสตร์ได้จัดการเปลี่ยนรูปหลวงพ่อคูณจากเดิมเป็นรูปขนาดความกว้าง 1 เมตร สูง 1.8 เมตร โดยใช้รูปขนาดใหญ่ขึ้น มีความกว้าง 1.5 เมตร และสูง 2 เมตร ทั้งยังนำตู้บริจาคสมทบกองทุนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เพื่อพระภิกษุสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มาตั้งให้ผู้ศรัทธาร่วมบริจาค หลังจากวานนี้มีผู้บริจาคจำนวนมาก
สำหรับความคืบหน้าในการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อถ่ายทอดที่ตั้งอ่างดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ จากบริเวณชั้นที่ 7 มายังบริเวณชั้นล่างอาคารผู้ป่วยนอก ให้ประชาชนได้เห็นเสมือนได้กราบหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้คณะแพทยศาสตร์อยู่ระหว่างการประสานผู้รับจ้างติดตั้ง คาดว่าจะสามารถติดตั้งได้ภายในสัปดาห์นี้
"เสี่ยใหญ่ร้อยเอ็ด"มอบรูปหล่อหลวงพ่อคูณให้ มข.
วันเดียวกัน ที่อาคารผู้ป่วยนอกชั้นล่าง โรงพยาบาลศรีนครรินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รศ.ดร.วีระ ฤทธิรอด อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มข.ได้เป็นตัวแทนของ ดร.ธีระ ชัยคุณารักษ์กูร ประธานกรรมการ บริษัท ฉั่วจั่วกี่ จำกัด จาก จ.ร้อยเอ็ด ได้มอบรูปหล่อหลวงพ่อคูณ จำนวน 110 องค์ โดยมีหน้าตักขนาด 9 นิ้ว 7 นิ้ว 5 นิ้วให้แก่ รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มข.
รศ.ดร.วีระ กล่าวว่า ในช่วงที่บำเพ็ญกุศลสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ และพิธีเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มข.ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมากระทั่งได้มีพิธีมอบศพให้ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. โดยสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ดองอยู่ในอ่างดองที่ตั้งอยู่ชั้น 7 อาคารคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น โดย ดร.ธีระ ชัยคุณารักษ์กูร ได้มากราบไหว้สักการะหลวงพ่อคูณทุกวัน เนื่องจากมีจิตศรัทธาต่อหลวงพ่อคูณ อย่างมาก จึงได้จัดทำรูปหล่อหลวงพ่อคูณ จำนวน 110 องค์มาให้ทางคณะแพทยศาสตร์ และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำไปมอบแก่ผู้ดำเนินการในพิธีบำเพ็ญกุศล และเคลื่อนย้ายสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมาได้นำไปเคารพบูชากราบไหว้
ด้าน รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ประชาชนที่มากราบไหว้สักการะหลวงพ่อคูณที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มข. ขอความกรุณาแต่งกายให้สุภาพก่อนเข้าบริเวณพิธีกราบไหว้สักการะหลวงพ่อคูณ โดยไม่ใส่กระโปรงสั้น กางเกงขาสั้น และเสื้อเปิดไหล่ พร้อมกันนี้ได้มีผู้นำดอกบัวมาบริจาคที่คณะแพทยศาสตร์ มข.ตลอดเวลา