xs
xsm
sm
md
lg

ชื่อขรก.ทุจริตล็อต2ถึงมือนายกฯ “คิกออฟ”ปราบโกง8 มิ.ย.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (27พ.ค.) ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ครั้งที่ 4
ภายหลังการประชุม พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) พร้อมด้วย 4 อนุกรรมการ คตช. ร่วมแถลงข่าว ทั้งนี้ มติที่ประชุมด้านการปลูกฝังจิตสำนึกกำหนดให้มีโครงการฝึกอบรมครู เพื่อไปกำหนดหลักสูตรการเรียนการสอน ครั้งแรก ในวันที่ 29-30 มิ.ย. เพื่อปลูกจิตสำนึกให้กับเยาวชน ผ่านโรงเรียนทั่วประเทศ และปลูกฝังหน้าที่พลเมือง โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสาธารณะต่างๆ
ส่วนการป้องกันการทุจริต นายกฯ ให้เร่งเปิดเผยข้อมูลข่าวสารทางราชการให้กับสาธารณะชนให้มากขึ้น โดยผ่าน พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ โดยให้ทาง กพร.ร่วมกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ไปดำเนินการเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น เพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารให้ทั่วถึง พร้อมสั่งการให้ไทยร่วมเป็นภาคีสมาชิกองค์กรรัฐบาลโปร่งใสในนานาชาติ เพื่อให้ดัชนีความโปร่งใสเพิ่มขึ้น
** เลิก"อี-ออกชัน" ใช้ "อี-บิดดิ้ง" แทน
สำหรับการประกวดราคาแบบอี-ออกชัน ในวันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ไทยจะไม่ใช้ระบบนี้ แต่จะใช้ ระบบอี-บิดดิ้ง หรือ อี-มาร์เก็ตแทน ซึ่งเป็นระบบทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีฐานข้อมูลราคาสินค้าที่ชัดเจน หน่วยงานราชการสามารถดูข้อมูลทั้งหมดได้
ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมประกาศเจตนารมณ์การต่อต้านการทุจริต ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมผู้เข้าร่วม ทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ภาคธุรกิจ เอกชน ภาคประชาสังคม องค์กรระหว่างประเทศ สถานทูต และสื่อมวลชน เพื่อประกาศเจตนารมณ์พร้อมกันทั่วประเทศ สำหรับในต่างจังหวัดจะมีการจัดงานที่ศาลากลางจังหวัด พร้อมจะเป็นการประชาสัมพันธ์และบอกถึงพันธกิจและนโยบายของรัฐบาลที่ดำเนินการปราบปรามการทุจริตไปแล้ว และในอนาคตจะดำเนินการอย่างไรต่อไป รวมถึงชี้แจงปัญหาต่างๆตั้งแต่ก่อนการยึดอำนาจด้วย
ในส่วนที่กำหนดให้ภาคสังคมเข้าร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ว่าด้วยข้อตกลงสัญญาคุณธรรม ที่กำหนดให้มี 3 ส่วน คือ ราชการ ผู้รับจ้าง และภาคประชาสังคม ที่จะมาสังเกตการณ์ในโครงการจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่ของภาครัฐ พบว่าที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี ที่สามารถลดวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างได้คันละ 1 ล้านบาท จากคันละ 4 ล้านบาท ในจำนวน 489 คัน
ดังนั้นจึงเห็นควรขยายไปอีก 20 กระทรวง โดยมีการแจ้งมาแล้ว 36 โครงการ จาก 12 กระทรวง ซึ่งจะมีการจัดผู้สังเกตการณ์เข้าไป แต่เนื่องจากเกิดปัญหาผู้สังเกตการณ์ไม่เพียงพอ เพราะโครงการของรัฐมีจำนวนมาก จึงมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนกติกาใหม่ ให้เหลือแค่สองฝ่ายคือ ส่วนราชการและผู้รับจ้างเท่านั้น
**ชื่อขรก.พัวพันทุจริตลอต 2 ถึงมือนายกฯ

ขณะเดียวกัน นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขาธิการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยว่า วันที่ 27 พ.ค. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศ อตช.ได้ส่งรายชื่อข้าราชการที่อาจเข้าข่ายทุจริต ชุด 2 ให้กับนายกฯ แล้ว หลังจาก 4 หน่วยงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ตรวจสอบและส่งให้ พล.อ.ไพบูลย์ ตรวจสอบ สำหรับรายชื่อชุดสองไม่น้อยไม่มากกว่าชุดแรก
กำลังโหลดความคิดเห็น