xs
xsm
sm
md
lg

“จรัญสนิทวงศ์” ทำเลศักยภาพคู่ปรับใหม่ “เพชรเกษม-รัตนาธิเบศร์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สมบัติ แสงรัฐการจนสิน
เผยเลียบถนนจรัญสนิทวงศ์ ทำเลศักยภาพคอนโด คู่ปรับใหม่ทำเลเพชรเกษม-รัตนาธิเบศร์ ชี้ที่ดินดิบยังเหลือเยอะราคาปรับตัวไม่มากเฉลี่ย 1-2 แสนบาทต่อ ตร.ว. แถมซับพลายสะสมน้อย การแข่งขันต่ำ “มีสไตล์” แจงเปิดตัว “บริกซ์ คอนโดมิเนียม” จรัญสนิทวงศ์ 64 ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท มูลค่า 1,800 ล้านบาท แจงมียอดขายแล้ว 50% มั่นใจสิ้นเดือน พ.ค.ยอดขาย 90%

ภายหลังจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ซึ่งก่อสร้างเลียบถนนเพชรเกษมไปสิ้นสุดที่บางแค เริ่มงานก่อสร้างอย่างเป็นนรูปธรรม ส่งผลให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งรายใหญ่ รายกลาง รายเล็ก ทยอยลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินขยับสูงขึ้น 2-3 เท่าตัว ภายในระยะเวลาเพียง 1-2 ปี โดยปัจจุบันราคาขายที่ดินดิบ (ราคาตลาด) ติดถนนเพชรเกษมอยู่ที่ 200,000-350,000 บาทต่อตารางวา (ตร.ว.) ซึ่งการขยายการลงทุนดังกล่าวทำให้ซัปพลายในโซนดังกล่าวเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว การแข่งขันจึงสูงตามไปด้วย

นายสมบัติ แสงรัฐการจนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีสไตล์ เอสเตท จำกัด กล่าวว่า การขยายตัวของโครงการใหม่ในแนวรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแค ทำให้ราคาขายที่ดินปรับตัวสูงขึ้นพร้อมๆ กับซัปพลายใหม่ ส่งผลให้โซนดังกล่าวมีการแข่งขันสูงขึ้น ขณะที่ทำเลเลียบถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งเป็นเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วง บางซื่อ-ท่าพระ ถือเป็นทำเลเกิดใหม่ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่คาดว่าจะมีการขยายตัวของโครงการใหม่จำนวน และจะเป็นทำเลที่มีดีมานด์สูงไม่แพ้ทำเลเลียบถนนเพชรเกษม

“ข้อได้เปรียบของทำเลเลียบถนนจรัญสนิทวงศ์ คือ เป็นทำเลที่มีซัปพลายสะสมน้อย โดยตลอดถนนจรัญสนิทวงศ์ นับจากท่าพระ-สะพานพระราม 7 ในปัจจุบันมีซัปพลาย 3,500 ยูนิต ในจำนวนนี้มีซัปพลายเหลือขายเพียง 700 ยูนิต ทำให้การแข่งขันยังไม่สูง ขณะที่ราคาที่ดินเฉลี่ยอยู่ที่ 100,000 -200,000 บาทต่อ ตร.ว. โดยราคาที่ดินในซอยจะอยู่ที่ 100,000 บาทต่อ ตร.ว. ส่วนที่ดินติดถนนจะอยู่ 200,000 บาท ไม่เกิน 300,000 บาทต่อ ตร.ว. ที่ซึ่งถือว่ายังไม่สูงมาก ที่สำคัญที่ดินดิบในโซนเลียบถนนจรัญสนิทวงศ์ยังมีอยู่อีกมาก จากปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ในช่วง 1-2 ปีจากนี้ ทำเลเลียบแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ มีการก้าวเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง”

ส่วนทำเลพระราม 7 ต่อเนื่องออกไปในโซนบางโพ เลียบแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับถนนรัตนาธิเบศร์นั้น มีการขยายตัวและการลงทุนโครงการคอนโดฯ เกิดขึ้นจำนวนมาก กลายเป็นทำเลที่มีการแข่งขันสูงเพราะมีซัปพลายใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านา ขณะที่ในด้านราคาขายห้องชุดในเส้นรัตนาธิเบศร์นั้นมีราคาเริ่มตั้งแต่ 1 ล้านบาทต้นๆ ไปจนถึง 3-4 ล้านบาท แต่ด้วยจำนวนซัปพลายสะสมยังมีอยู่มาก ทำให้เมื่อเทียบกับทำเลเลียบถนนจรัญสนิทวงส์แล้ว ถือว่าเป็นทำเลที่มีการแข่งขันสูง

นายสมบัติ กล่าวว่า ปัจจัยต่างๆ ข้างต้นทำให้บริษัทมั่นใจว่า ทำเลเลียบถนนจรัญสนิทวงศ์ จะกลายเป็นทำเลเกิดใหม่ที่จะมีการขยายตัวของโครงการคอนโดมิเนียมในช่วง 1-2 ปีจากนี้ ดังนั้น เมื่อมีที่ดินในทำเลสวยๆ ราคาเหมาะสมเข้ามา บริษัทจึงตัดสินใจซื้อเพื่อพัฒนาโครงการทันที โดยล่าสุด บริษัทเตรียมได้เปิดตัวโครงการ บริกซ์ คอนโดมิเนียม (BRIX Condominuim) ไฮไรส์ สูง 32 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่พัฒนาโครงการ 3 ไร่ เลียบถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 64 สี่แยกบางพลัด โดยที่ตั้งโครงการดังกล่าวอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าสิรินธร

ทั้งนี้ โครงการ บริกซ์ คอนโดมิเนียม พัฒนาเป็นโครงการไฮไรส์สูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 560 ยูนิต มูลค่า 1,800 ล้านบาท มีห้องชุดให้เลือก 3 แบบ คือ 1-2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้นที่ 22-34 ตร.ม. และห้องพักแบบดูเพล็กซ์ ขนาด 130 ตร.ม. ซึ่งมีระเบียงพร้อมสวนขนาดใหญ่ในตัว โดยราคาขายเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท หรือมีราคาขาย 70,000-90,000 บาทต่อ ตร.ม. สำหรับโครงการบริกซ์ ในปัจจุบันมียอดจองซื้อแล้ว 50% และจะเปิดตัว พร้อมเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 พ.ค.นี้ โดยจะนำห้องชุดอีก 40% เปิดให้ลูกค้าจองซื้อ ส่วนห้องชุด 10% ที่เหลือจะมีการเปิดขายอีกครั้งในภายหลัง ทั้งนี้ มั่นใจว่าในสิ้นเดือน พ.ค.นี้จะสามารถปิดการขายได้ 90%

นายสมบัติ กล่าวต่อว่า นโบายด้านการดำเนินธุรกิจของบริษัทจะรักษาระดับการเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการต่อปี แต่ในปีนี้คาดว่ามีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 1 โครงการ คือ โครงการ บริกซ์ คอนโดมิเนียม จรัญสนิทวงศ์ เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครง ารไฮไรส์ อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินในทำเลเลียบถนนจรัญสนิทวงศ์อีก 1-2 แปลง และมีแผนจะซื้อที่ดินในทำเลที่มีศักยภาพที่มีการอยู่อาศัยหนาเน่นไว้รองรับการลงทุนในอนาคตด้วย

สำหรับ มีสไตล์ เอสเตท เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่ดำเนินธุรกิจอสังหาฯ มานานกว่า 20 ปี โดยมีการพัฒนาโครงการอาคารชุด และทาวน์โฮมเสนอขายในตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการทรู ทองหล่อ โครงการคอนโดย่านห้วยขวาง ประกอบด้วย ซีสไตล์, จีสไตล์, แอลสไตล์, นอกจากนี้ ยังมีโครงการในย่านสุขุมวิท เดอะสเตชั่น, เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ มีสไตล์เพลส รวมถึงโครงการร่วมทุนอีกหลายโครงการ


กำลังโหลดความคิดเห็น