xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” แย้มมีปลัดกระทรวงเอี่ยวโกงแต่ไม่ถึง 20 คน - “ไพบูลย์” ไม่หวั่นเจอแสดงอิทธิฤทธิ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี เปิดให้ รมว.ยุติธรรม นำคณะ 4 หน่วยงานเข้าพบ เจ้าตัวอ้างมาคุยกันเรื่องกฎหมาย ส่วนแบล็กลิสต์ 100 รายชื่อข้าราชการเอี่ยวโกง ไม่ต้องเรียกประชุมอะไรอีก แย้มมีบุคคลมีชื่อเสียง ระดับปลัดกระทรวง แจงจะส่งต่อให้เจ้ากระทรวงดำเนินการตามขั้นตอน ด้าน “ไพบูลย์” ชี้แจงรายละเอียดแต่ละรายชื่อข้าราชการพัวพันโกง แจงเป็นโทษทางวินัย หลังอาญาช้า ไม่หวั่นข้าราชการแสดงอิทธิฤทธิ์


วันนี้ (17 เม.ย.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) นำ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) นายพิสิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อชี้แจงรายละเอียดแต่ละคดีที่มีข้าราชการเข้าไปพัวพันเกี่ยวกับการทุจริตในจำนวน 100 รายชื่อ ที่เลขาธิการ ป.ป.ท. เสนอให้นายกฯ พิจารณาเมื่อวันศุกร์ที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ต่อจากนั้น ยังมีการหาต่อที่ตึกไทยคู่ฟ้าอีกด้วย โดยใช้เวลาในการหารือกันนานประมาณ 30 นาที

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า มาคุยกันเรื่องกฎหมาย ตนอยากให้ดูเรื่องกระบวนการตรวจสอบความโปร่งใส ที่จะต้องมีการคุยกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) บ้าง และบางอย่างก็ยังอยู่ใน คสช. ส่วนกรณี 100 กว่ารายชื่อของข้าราชการที่ ศอตช. ส่งมาให้ดำเนินการนั้นรายชื่อมาถึงตนนานแล้ว แต่ไม่ต้องเรียกประชุมอะไรอีก เพราะตนบอกไปว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ก็ต้องสอบสวน ดำเนินคดี

“ตอนนี้เริ่มไปแล้ว ผมก็ต้องเรียกต้นสังกัดเขามา แล้วส่งรายชื่อให้เขาไปดำเนินการ มีสองอย่าง คือ 1. เรื่องอำนาจในการบริหาร ถ้าถูกกล่าวหา มีมูลก็ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ แต่ถือว่ายังไม่มีความผิด แต่เพื่อสอบสวน ถ้ามันผิดก็ไปว่ากันในคดีอาญาต่อ ขั้นตอนมีอย่างนี้ และได้ให้นโยบายรัฐมนตรีไปแล้ว เดี๋ยวส่งรายชื่อให้รัฐมนตรีพิจารณาทั้งหมดกี่คนไม่รู้ แต่ต้องชี้แจงได้ว่าทำอะไร ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เลย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ใน 100 กว่ารายชื่อเป็นข้าราชการที่มีชื่อเสียงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องรู้จักละมั้ง ถ้าไม่รู้จักจะมาจากไหน เมื่อถามว่าเป็นข้าราชการระดับไหนบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ ยืนนิ่งไม่ตอบคำถาม เมื่อถามว่ากระทรวงไหนมากที่สุด นายกฯ ตอบว่า ไม่รู้ๆ พอแล้วๆ แต่อะไรที่เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารขอให้เชื่อมั่น เพราะตนไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง โดนตำหนิ โดนว่าก็ต้องอดทน เพราะถ้าปล่อยไปมันไม่ได้ ถ้าเราไม่อยู่จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ วันหน้าเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีใครแก้ไข

เมื่อถามว่าจะเรียกต้นสังกัดไหนมาก่อน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐมนตรีเขาเรียกมาหมดแล้ว ให้นโยบายไปหมดแล้ว ตนจะส่งรายชื่อให้เขา เขาก็พิจารณาว่าเขาจะทำยังไง แต่ต้องทำตามนี้ ต้องชี้แจงตนได้ว่าทำอะไร กฎหมายมีไม่เห็นต้องใช้มาตรา 44 เลยนี่

เมื่อถามว่ารายชื่อระดับปลัดกระทรวงเยอะหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่าปลัดกระทรวงมีกี่คน ผู้สื่อข่าวตอบว่า 20 คน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ไม่ถึง นิดหน่อยเอง เมื่อถามว่าถึง 5 คนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ถึงหรอก เขายังไม่ผิด เดี๋ยวเขาจะมาฟ้องตนอีก เพราะว่าเป็นคำกล่าวหา และมีหลักฐานพอสมควร มีมูล ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ไปว่ากัน มีขั้นตอนในการดำเนินการ ไม่ใช่ว่าไปชี้ว่าผิดแล้วจะจับประหารชีวิตได้ไหมหละ

ด้าน พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวภายหลังเข้าพบนายกฯ ว่า นำ 4 หน่วยงานที่เสนอรายชื่อข้าราชการที่พัวพันการทุจริตมาชี้แจงรายละเอียดแต่ละรายชื่อต่อนายกฯ ว่า มีมูลเหตุอย่างไร สมควรแค่ไหน ท้ายสุดขึ้นอยู่กับนายกฯ ว่า จะตัดสินใจอย่างไร แต่จากผลการชี้แจงครั้งนี้นายกฯ พอใจ อย่างไรก็ตาม การนำเสนอรายชื่อข้าราชการครั้งนี้เป็นโทษทางวินัยและปกครอง ไม่เกี่ยวกับคดีอาญา เพราะคดีอาญาจะต้องว่ากันต่อไป ส่วนจะลดปัญหาการทุจริตได้หรือไม่นั้นตนคิดว่า อย่างน้อยเราได้ดำเนินการให้เห็นแล้วว่าเราเอาจริง เมื่อก่อนพอไม่มีการดำเนินการทางวินัยและปกครองทำให้ต้องรอคดีอย่างน้อย 4 ปี ติดขั้นตอนอัยการสูงสุด (อสส.) บ้าง ศาลบ้าง ซึ่งน่าเห็นใจแต่ละหน่วยงานเหมือนกัน เพราะเขาต้องทำตามขั้นตอน ทั้งนี้ โทษทางวินัยและปกครอง มีตั้งแต่การโยกย้าย ปรับย้ายออกจาตำแหน่ง เป็นการเอาออกจากจุดที่มีปัญหา แต่ไม่ถึงไล่ออก เพราะการไล่ออกต้องให้คดีอาญาถึงที่สุดก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้จะไม่มีการลูบหน้าปะจมูกใช่หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า อยากให้คอยดูประกาศว่า นายกฯจะดำเนินการอย่างไร ส่วนเรื่องรายชื่อมีใครบ้างอยากให้ไปถามนายกฯ ตนบอกไม่ได้ เป็นการให้เกียรติบุคคลเหล่านี้เพราะเรื่องยังไม่จบ แต่หลังจบแล้วคงมีการเปิดเผยออกมา เมื่อถามว่า ข้าราชการเองเปรียบเหมือนพรรคใหญ่ กลัวว่าจะเกิดอิทธิฤทธิ์ตามหลังมาหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ต้องดำเนินการ ไม่อย่างนั้นจะกลับไปเหมือนเดิม เมื่อถามต่อว่า สำหรับข้าราชการที่เกษียณอายุราชการไปแล้วจะดำเนินการทางวินัยและปกครองได้หรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า หากเกษียณไปแล้วต้องรอคดีอาญา


กำลังโหลดความคิดเห็น