ASTVผู้จัดการรายวัน - สภาพัฒน์แถลงจีดีพีไตรมาสแรกปีนี้โต 3% จากการลงทุนและการใช้จ่ายในประเทศ พร้อมลดคาดการณ์จีดีพีปี58 เหลือ 3 - 4% จากเดิม 3.5-4.5% ส่วน รมว.คลังยังมั่นใจจีดีพีไทยปีนี้โตได้ถึง 3.7% หลังรัฐเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ในไตรมาสแรกของปี 2558 ว่า ขยายตัว 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ปัจจัยที่ทำให้จีดีพีไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัว มาจากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลักทั้งการลงทุน การใช้จ่ายของภาครัฐและเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยวที่เติบโตในอัตราที่สูง
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ของปีนี้ นายอาคมมั่นใจว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากอานิสงค์ของอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำ และเงินบาทอ่อนค่าลงหลังจาก คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้ง หรือปรับลดลง 0.5% มาอยู่ที่ 1.5% จึงน่าจะเป็นประโยชน์ช่วยการส่งออกได้ในช่วงไตรมา 2 ไตรมาส 3 และไตรมาส 4
อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ส่งผลให้ สศช. ปรับประมาณการส่งออกทั้งปี 2558 ลดลงเหลือ 0.2% จากเดิม 3.5% ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ สศช. ต้องปรับประมาณการจีดีพีทั้งปีนี้ลดลงด้วยจาก 3.5-4.5% เป็น 3-4% โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักจะมาจากการลงทุน และการใช้จ่ายของภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยว
สำหรับนโยบายที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง นายอาคมกล่าวว่า การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐให้ได้ตามเป้าหมาย และเร่งรัดแก้ไขปัญหาด้านการส่งออกในระยะกลางและยาว ส่วนระยะสั้นควรให้ความสำคัญกับการดูแลเงินบาทไม่ให้แข็งค่าเร็วกว่าประเทศคู่แข็ง และแสวงหาตลาดเพิ่มเติม
ด้านนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง บอกว่า แม้ สศช. จะปรับลดคาดการร์จีดีพีทั้งปีนี้ลง แต่กระทรวงคลังยังมั่นใจว่า เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2558 จะขยายตัวได้ถึง 3.7% เนื่องจากรัฐเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านการลงทุนโครงการและภาคเอกชนเริ่มมีการลงทุนก่อสร้างมากขึ้น
นายสมหมายย้ำว่า ตอนนี้ต้องมองในเรื่องของงบประมาณปี 2559 ซึ่งจะต้องเร่งให้มีการเบิกจ่าย โดยงบประมาณอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาในวาระ 2 ก็ต้องเตรียมโครงการต่างๆ เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้ทันทีเมื่อผ่านการอนุมัติของสภา
“การที่สภาพัฒน์ปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือ 3-4% จากเดิมที่ 3.5-4.5% แม้จะต่ำกว่าที่กระทรวงการคลังคาดไว้ 0.2% ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่น่ากังวลอะไร ซึ่งถือว่าเศรษฐกิจมีการเติบโตที่ดีจากปีก่อน เพราะเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น จีน มาเลเซีย เกาหลี ส่วนใหญ่ต่ำกว่าปี 2557” นายสมหมายกล่าวและว่า การส่งออกจะชะลอไปก็คงต้องปล่อยไป ซึ่งส่วนตัวมีความเป็นห่วง แต่เชื่อว่าการส่งออกของไทยมีช่องทางที่สามารถส่งออกไปแถบประเทศเพื่อนบ้านได้ ซึ่งจะช่วยการส่งออกของไทย.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ในไตรมาสแรกของปี 2558 ว่า ขยายตัว 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ปัจจัยที่ทำให้จีดีพีไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัว มาจากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลักทั้งการลงทุน การใช้จ่ายของภาครัฐและเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยวที่เติบโตในอัตราที่สูง
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ของปีนี้ นายอาคมมั่นใจว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากอานิสงค์ของอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำ และเงินบาทอ่อนค่าลงหลังจาก คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้ง หรือปรับลดลง 0.5% มาอยู่ที่ 1.5% จึงน่าจะเป็นประโยชน์ช่วยการส่งออกได้ในช่วงไตรมา 2 ไตรมาส 3 และไตรมาส 4
อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ส่งผลให้ สศช. ปรับประมาณการส่งออกทั้งปี 2558 ลดลงเหลือ 0.2% จากเดิม 3.5% ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ สศช. ต้องปรับประมาณการจีดีพีทั้งปีนี้ลดลงด้วยจาก 3.5-4.5% เป็น 3-4% โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักจะมาจากการลงทุน และการใช้จ่ายของภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงการท่องเที่ยว
สำหรับนโยบายที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง นายอาคมกล่าวว่า การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐให้ได้ตามเป้าหมาย และเร่งรัดแก้ไขปัญหาด้านการส่งออกในระยะกลางและยาว ส่วนระยะสั้นควรให้ความสำคัญกับการดูแลเงินบาทไม่ให้แข็งค่าเร็วกว่าประเทศคู่แข็ง และแสวงหาตลาดเพิ่มเติม
ด้านนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง บอกว่า แม้ สศช. จะปรับลดคาดการร์จีดีพีทั้งปีนี้ลง แต่กระทรวงคลังยังมั่นใจว่า เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2558 จะขยายตัวได้ถึง 3.7% เนื่องจากรัฐเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านการลงทุนโครงการและภาคเอกชนเริ่มมีการลงทุนก่อสร้างมากขึ้น
นายสมหมายย้ำว่า ตอนนี้ต้องมองในเรื่องของงบประมาณปี 2559 ซึ่งจะต้องเร่งให้มีการเบิกจ่าย โดยงบประมาณอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาในวาระ 2 ก็ต้องเตรียมโครงการต่างๆ เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายได้ทันทีเมื่อผ่านการอนุมัติของสภา
“การที่สภาพัฒน์ปรับลดจีดีพีปีนี้เหลือ 3-4% จากเดิมที่ 3.5-4.5% แม้จะต่ำกว่าที่กระทรวงการคลังคาดไว้ 0.2% ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่น่ากังวลอะไร ซึ่งถือว่าเศรษฐกิจมีการเติบโตที่ดีจากปีก่อน เพราะเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น จีน มาเลเซีย เกาหลี ส่วนใหญ่ต่ำกว่าปี 2557” นายสมหมายกล่าวและว่า การส่งออกจะชะลอไปก็คงต้องปล่อยไป ซึ่งส่วนตัวมีความเป็นห่วง แต่เชื่อว่าการส่งออกของไทยมีช่องทางที่สามารถส่งออกไปแถบประเทศเพื่อนบ้านได้ ซึ่งจะช่วยการส่งออกของไทย.